"เจ้าเอ็ม" วุฒิชัย มาสุข ระเบิดฟอร์มสุดยอด สะใจแฟนมวยชาวไทย พลิกเกมสุดมันส์ไล่ถล่มนักมวย เกาหลีใต้ 10-5 ผ่านเข้ารอบสู่ 8 คนสุดท้าย ไปเจอกับอินโดนีเซีย โอกาสลุ้นเหรียญสดใส ส่วน เกรียงไกร สุขคุ้ม ดวงเฮงแต่ไม่มีวาสนา จับสลากเจอหมู แต่ต่อยสุดทื่อ พลิกพ่ายนักชก เนปาล 0-4 ทองแดงหายวับ โดยวันที่ 20 พ.ย. นี้ ลุ้นกันต่อ อำนาจ รื่นเริง ขึ้นคนแรกเวลาบ่ายสอง พบกับนักมวยคีร์กีซสถาน และรอบดึก อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ตะบันนักชกไทเป

     ผู้สื่อข่าวมวยสยาม-สยามกีฬา นิพนธ์ ขาวอุบล และ ชาคร ห่อวโนทยาน รายงานผลการแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่น ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 "กว่างโจวเกมส์" ณ สนามกีฬาโฝวซัน ยิมเนเซียม ประเทศจีน เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2553 

    ช็อก "เกรียงไกร" พ่ายเนปาล

     นักชกไทยรายที่ 6 เกรียงไกร สุขคุ้ม ที่ขึ้นชกเป็นนัดแรก ซึ่งโชคดีมากๆ เมื่อจับสลากได้บายรอบแรก เข้าชกรอบ 8 คน ชิงทองแดงก่อนใครเพื่อน แถมเจอนักมวยเนปาล ดีพัค มาฮาร์จาน ที่เคยซ้อมด้วยกัน และลงนวมด้วยกันมาหลายหน
 
     แบบที่ เกรียงไกร เป็นฝ่ายไล่ทุบเหมือนวัวเคยขาม้าเคยขี่ โดยมีกรรมการ 5 ชาติ จาก จีน, คีร์กีซสถาน, ปากีสถาน, เวียดนาม, เกาหลีใต้ แต่ถึงเวลาต่อยจริงๆ เกรียงไกร กลับชกประมาทเกินไป พลิกแพ้ไปอย่างไม่น่าเชื่อ 0-4 แต้ม เหรียญทองแดงหายวับไปกับตา

    ยกแรกชกไปยิ้มไปโดนนำ 1-0 

     เปิดฉากยกแรก เกรียงไกร ออกจากมุมแววตาเชื่อมั่นมาก ส่งยิ้มให้กับมวยเนปาลก่อนเลย แต่นักชกเนปาลไม่สน เดินจ้วงหมัดอุตลุด ต่อยไม่เป็นทรงก็จริง แต่ได้ขยัน เหวี่ยงหมัดวูบวาบน่ากลัว เกรียงไกร ยังเฉยชกแบบใจเย็น ยิงหมัด 1-2 แลกกันสนุก จนถึงปลายยกกลับเป็น ดีพัค มาฮาร์จาน ที่เหวี่ยงหมัดขวาขว้างเต็มขมับ ได้แต้มนำไปก่อน 1-0

    ยกสอง "เกรียงไกร" เดินหลงหมัด 

     ยกสอง เจ้าไก่ ยังดูว่าไม่ยี่หระ เดินโยกแย็บซ้ายแล้วตามด้วยขวาตรง แต่หมัดยังติดการ์ดซะส่วนใหญ่ เนปาล ที่หุ่นเหมือนถังเบียร์เชิงไม่สน ท้าบวกอย่างเดียว เหวี่ยงหมัดขว้างอันตรายได้ลุ้นตลอด กลางยกฮุกซ้าย เกรียงไกร หน้าสั่นขยับนำ 2-0 และก่อนหมดยก เกรียงไกรพยายามไล่ต่อยเอาคืน แต่เจอลูกมั่ว เนปาล เหวี่ยงหมัดขวาหน้าหงายหนีไป 3-0 ซะอีก

    ยกสาม "เกรียงไกร" ต่อยสุดทื่อ 

     ยกสุดท้าย ไม่มีทางเลือก เกรียงไกร ออกมาลุยแหลก ไล่ต่อยไม่มีหยุด แต่หมัดไม่ค่อยเข้าเป้าเลย หรือไม่ก็น้ำหนักเบา เดินชกสะเปะสะปะ เขายกการ์ดบังก็ยังต่อยติดการ์ดอยู่นั่นแหละ กลายเป็นนักชกเนปาลที่ต่อยอย่างได้ใจ ทิ่มขวาได้อีกหมัดทิ้งห่าง 4-0 ก่อนคุมเกมเอาชนะคะแนนนักชกไทยไปอย่างพลิกล็อก เข้าไปตัดเชือกกับนักมวยอินเดีย และได้เหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว

    "แซม" บอกสุดมึนขอพักชั่วคราว 

     เบื้องหลังการพ่ายพลิกล็อกของเกรียงไกร ทำเอาบรรดาสตาฟฟ์โค้ชและผู้จัดการทีมต่างส่ายหัวไปตามๆ กัน เพราะชกได้ผิดฟอร์มมาก ซึ่ง "โค้ชแซม" จ.ส.อ.กามนิตย์ นารีรักษ์ บอกว่า เกรียงไกร ต่อยได้น่าผิดหวังจริงๆ โอกาสทองอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว เจอกับเนปาลคนนี้ ถ้าไม่ได้เหรียญทองแดงก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
 
     สอนอีกอย่างแต่ต่อยอีกอย่าง ให้ถอยวนชกแบบล่อวัวกระทิงก็ไม่ทำ ให้เดินกลับถอย แต่พอให้ถอยกลับเดิน ตนยอมรับเลยว่าผิดหวังมากๆ และขอพักตั้งสติชั่วคราวก่อน โดยคู่ของ วุฒิชัย ให้ ชัยชุมพล ชำนาญมาก เป็นพี่เลี้ยงคู่กับ โอมาร์ พารากอน แทน

    "เกรียงไกร" บอกไม่เข้าใจตัวเอง 

     ส่วน "เจ้าไก่" เกรียงไกร ให้สัมภาษณ์แบบหน้าเจื่อนๆ ว่า ตนก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงชกออกมาอย่างนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีความมั่นใจมากๆ เพราะนักชกเนปาลรายนี้ ตนเคยสอนเชิงมาแล้วในการซ้อม แต่พอถึงเวลาต่อยจริงๆ ทำไมตนถึงชกผิดฟอร์มอย่างนี้ก็ไม่รู้ ยอมรับว่าเสียใจมากๆ ที่พลาดเหรียญ ทั้งที่มันอยู่ในกำมืออยู่แล้ว พร้อมขอโทษชาวไทยทุกคนด้วยที่ทำให้ผิดหวัง

    "วุฒิชัย" ต้อนแต้มชนะสบาย 

     มวยสากลสมัครเล่นรุ่น 64 กก. วุฒิชัย มาสุข นักชกวัย 20 ปี จากบุรีรัมย์ ดีกรีแชมป์เอเชีย คนล่าสุด ขึ้นชกในรอบ 16 คนสุดท้าย พบกับ ชิม ฮุง ยอง นักชกจากเกาหลีใต้ โดยในรอบ 32 คนทั้งคู่ได้บายมา

    ยกแรก "วุฒิชัย" คะแนนเบียดนำ 2-1 

     วุฒิชัย ขึ้นชกในมุมแดงเป็นมวยซ้ายรูปร่างสูงโปร่ง ขณะที่ ชิม ฮุง ยอง นักมวยโสมขาววัย 21 ปี เป็นมวยซ้ายเช่นกัน รูปร่างสูงยาวกว่านักชกไทย ยกแรกทั้งคู่เปิดฉากแลกหมัดกันทันที นักชกพลังโสม พยายามออกหมัดชุดโจมตีทั้งเป้าใหญ่ที่ลำตัวและเป้าเล็กที่ใบหน้า
 
     ขณะที่ วุฒิชัย ยกแขนสองข้างมาตั้งบล็อกแน่น แล้วคอยหาจังหวะสวนหมัดซ้ายโต้ และก็มาได้คะแนนนำก่อนจากหมัดซ้ายตรง วุฒิชัยนำ 1-0 จากนั้นคะแนนของวุฒิชัยก็ขยับเป็น 2-0 จากฮุกซ้ายเข้าเต็มหน้า ทว่าก่อนหมดยก ชิม ฮุง ยอง มาแก้คืนได้ 1-2 จากหมัดซ้ายเช่นกัน

    ยกสองแลกหมัดกันสุดระทึกใจ 

     ยกสองสถานการณ์ยังเป็นไปอย่างตึงเครียด แต่ก็เป็น วุฒิชัย ที่ดักจิ้มซ้ายทำคะแนนนำ 3-1 นักชกโสมอยู่เฉยไม่ได้เร่งเครื่องเต็มที่ วุฒิชัย พยายามตังการ์ดบล็อก แต่ก็ต้านไม่อยู่ ถูกต่อยการ์ดแตก ชิม รัวหมัดใส่แบบไม่ยั้ง คะแนนกลับมาเป็น 2-3 และ 3-3 อย่างรวดเร็ว เกมการชกกลายเป็น ชิม ฮุง ยอง เดินสาวหมัดเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง คะแนนไหลพรวดจาก 3-4 เป็น 3-5 อย่างรวดเร็ว
 
     แต่หลังจากที่ วุฒิชัย ตั้งหลักได้ก็ออกหมัดซ้ายยัดเข้าหน้าทำคะแนนไล่มา 4-5 ก่อนจะมาตีเสมอ 5-5 ด้วยฮุกขวาช่วงปลายยก นักชกโสมที่เร่งเครื่องเต็มสปีดมาเกือบ 2 นาที ออกอาการหมด วุฒิชัย ดักต่อยดักจิ้มทำคะแนนกลับมา นำเป็น 6-5 ก่อนจะปิดท้ายยกด้วยหมัดซ้ายตรง คะแนนหมดยกสองที่ 7-5

    ยกสาม "วุฒิชัย" โชว์เหนือชนะขาด 

     ยกสุดท้าย วุฒิชัยออกมาชกแบบคุมเกมไม่ยอมปะทะด้วย คอยดักแย็บดักจิ้มซ้ายตรงจากวงนอก นักชกโสมเองก็ดูหมดไปดื้อๆ แม้จะเป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าทำ แต่ก็ไม่อาจเจาะบล็อกของ วุฒิชัย ได้เหมือนอย่างในยก 2
 
     กลับเป็นนักชกไทย ที่ยัดซ้ายตรงแหวกการ์ดทำคะแนน 8-5 อัปเปอร์คัตขวาจนหน้าหงายทำคะแนน 9-5 ก่อนจะมาย้ำชัยด้วยซ้ายตรงเต็มหน้าทำคะแนนชนะไปอย่างขาดลอย 10-5 ตบเท้าเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย พบกับ วิกกี้ มอนโตลาลู นักชกอินโดนีเซีย ที่เอาชนะคะแนน สเว ราฐะ นักชกกัมพูชา มา 8-4 โดย วุฒิชัย จะขึ้นชกในรอบชิงเหรียญทองแดง ในวันอังคารที่ 22 พ.ย. เวลา 19.15 น.

    "วุฒิชัย" สุดปลื้มทำให้คนไทยมีความสุข 

     ภายหลังการชก "เจ้าเอ็ม" วุฒิชัย มาสุข แชมป์เอเชียครั้งล่าสุด ที่เลื่อนรุ่นมาต่อยเวต 64 กก. ในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ กล่าวด้วยน้ำเสียงสุดจะปลื้มว่า ตนดีใจเหลือเกิน ที่ทำให้คนไทยมีความสุข พอใจกับฟอร์มชกของตัวเองในวันนี้อย่างมาก เป็นไปตามแผนที่ทางสตาฟฟ์โค้ชวางไว้ทุกอย่าง
 
     ส่วนจะไปถึงรอบไหนนั้นตนยังไม่อยากคิดเพราะไม่อยากสร้างความกดดันให้ตัวเอง ขอวางแผนแบบนัดต่อนัดดีกว่า ทุกรอบล้วนเป็นนัดสำคัญทั้งนั้น รอบต่อไปเจออินโดนีเซีย คิดว่าไม่หนักใจอยู่ที่ทางโค้ชจะวางแผนว่าจะให้ชกแบบไหน แต่ก็มั่นใจน่าจะผ่านได้อีกครั้ง เพื่อคว้าเหรียญทองแดงให้ได้ไว้ก่อน

    สะใจ "ส.ส.จั้ม" วุฒิชัยกู้ชื่อหมัดไทย 

     ด้าน "ส.ส.จั้ม" สกลธี ภัททิยกุล ผู้จัดการหนุ่มไฟแรง ได้เปิดเผยว่า การชกของ วุฒิชัย นัดนี้ตนต้องขอชื่นชม เจ้าเอ็มที่โชว์ฟอร์มได้ดีมาก ถือว่าดีเกินคาดกว่าช่วงซีเกมส์ ฟอร์มแบบนี้ไม่คิดว่าจะเป็นมวยแทน น่าจะเป็นตัวหลักมากกว่า และเขาทำให้ชาวไทยมีความสุขสะใจกับเกมการชกอย่างมาก
 
     ส่วนเกรียงไกรที่แพ้แบบไม่น่าแพ้ คิดว่าเป็นเพราะประสบการณ์ยังน้อย อย่างไรก็ตามถือว่าทุกคนทำหน้าที่ได้ดี ทั้งนี้ตนได้กำชับให้ทุกคนชกอย่างเต็มที่ อย่าไปกังวลเรื่องอื่น เพราะจะทำให้เกิดความกดดันต่อตัวเอง ถึงเวลานี้โอกาสได้สองเหรียญทองตามเป้าที่ตั้งไว้ก็ยังมีเหมือนเดิม

    อิหร่านคู่ชก "วรพจน์" เคยแพ้ฉัตรชัย 

     จากการเปิดเผยของ "โค้ชแซม" จ.ส.อ.กามนิตย์ นารีรักษ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับนักชกอิหร่าน โอมราน อัคบารี่ คู่ชกในรอบ 8 คนสุดท้าย ชิงเหรียญทองแดง กับ วรพจน์ เพชรขุ้ม ในอดีตเคยแพ้ ฉัตรชัย บุตรดี มาแล้วที่ประเทศรัสเซีย ตอนนั้นชกรุ่น 54 กก. เป็นมวยแข็งแกร่งใช้ได้ แต่ฝีมือเทียบกับวรพจน์แล้วยังเป็นรองพอสมควร
 
     ซึ่งถ้าผ่านไปถึงรอบตัดเชือก ก็น่าจะเจอกับนักมวยภูฏานหรือซีเรีย ที่เคยมาซ้อมอยู่กับทีมไทยที่โบนันซ่า โดยโค้ชแซมบอกอีกว่าอยากให้จับตามองมวยภูฏานให้ดี ฝีมือไม่ธรรมดาเลย ปราบมาทั้งคีร์กีซสถาน และคาซัคสถาน

    คนเก่งไม่กลัว-แต่กลัวแต้มไม่ขึ้น 

     "โค้ชแซม" บอกต่ออีกว่า ถึงวันนี้ตนยอมรับว่าเป้า 2 เหรียญทองที่ตั้งไว้ เป็นงานที่ยากมากๆ แต่ตนและนักมวยทุกคนที่เหลือก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแย่งชิงมาให้ได้ และอยากให้คนไทยที่ดูมวยสากลสมัครเล่นเป็นช่วยตัดสินด้วยสายตาตัวเองด้วยว่า หมัดไหนที่เราต่อยแล้วน่าได้แต้มหรือเปล่า
 
     "ผมบอกเลยว่านักมวยของเราไม่กลัวคู่ต่อสู้ชาติไหนหรอก แต่พวกเรากลัวคะแนนไม่ขึ้นมากกว่า ไม่ใช่ว่าผมคิดมากไปเองนะ แต่ตัวนักมวยก็รู้ เพราะเขาเป็นคนต่อย หมัดไหนเข้าเป้า ถูกเบาถูกแรงแค่ไหนเขาต้องรู้ อย่างคู่ วรพจน์ กับมองโกเลีย ผมกลับมาดูเทปที่ห้อง จริงๆ น่าจะชนะอย่างน้อย 7-1 หรือ 7-2 ครับ ที่คู่ญี่ปุ่นกับอินเดียแต้มกดขึ้นพรวดๆ เลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" โค้ชแซม ว่าให้ฟัง

    วันนี้ (20 พ.ย.) เชียร์ "อำนาจ กับ อภิเชษฐ์" 

     สำหรับวันนี้ (20 พ.ย.) จะมีสองนักชกไทยขึ้นสังเวียนในรอบสองด้วยกันสองคน คือ "เจ้าเพชร" อำนาจ รื่นเริง เจอกับนักชกจากประเทศคีร์กีซสถาน ในรุ่น 49 กก. ตรงกับเวลาที่เมืองจีน 14.00 น. และ "เจ้าเอ" อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ต่อยกับนักมวยจากไทเป เวลา 21.30 น.
 
     ซึ่งถ้าทั้งคู่สามารถคว้าชัยได้ ก็จะผ่านเข้ารอบชิงเหรียญทองแดง 8 คนสุดท้ายทันที โดยจากการสอบถามทางโค้ชแซม และตัวนักมวยทั้งคู่ ยืนยันว่าสภาพร่างกายฟิตเปรี๊ยะ จะพยายามอย่างสุดความสามารถ ที่จะคว้าชัยให้ได้เพื่อตบเท้าเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป

    "เจ้าเพชร" มีฝีมือเท่าไหร่งัดมาใช้หมด 

     "เจ้าเพชร" อำนาจ รื่นเริง ประกาศก้อง ขึ้นชกนัดแรกวันเสาร์นี้ ตนพร้อมแล้วทุกอย่าง ทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ รอเพียงขึ้นเวทีชกเท่านั้น จะขอใช้ฝีมือที่ตนมีอยู่ทั้งหมดงัดออกมาใช้ สยบนักชกคีร์กีซสถานให้จงได้ เพื่อเป้าหมายผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายให้ได้ก่อน หลังจากนั้นค่อยไปว่ากันอีกที ตนยังไม่มองไกลถึงรอบลึก เวลานี้ขอทำหน้าที่แต่ละรอบให้ดีที่สุดก่อน

    "เจ้าเอ" เชื่อพลังกำปั้นอัดไทเปอยู่หมัด 

     ด้าน "เจ้าเอ" อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ที่ทุบนักชกคีร์กีซสถานมาอย่างสุดสวยในรอบแรก กล่าวว่า สำหรับตนแล้ว เวลานี้มีความคึกคะนองอย่างมาก พอชนะนัดแรกได้ มันเหมือนได้ปลดปล่อยความกดดันทั้งปวง ตนเชื่อว่าจะต้องชกได้ดีขึ้น และเชื่อในพลังหมัดของตนเองจะสยบนักชกไทเปได้อย่างสนุกแน่ ขอให้แฟนมวยชาวไทยช่วยเชียร์ตนด้วย ตนจะพยายามสุดความสามารถเพื่อจะผ่านเข้าไปชกในรอบต่อไปให้ได้

    อาทิตย์นี้มวยหญิงชก "พจน์" ชิงทองแดง 

     ส่วนวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน จะมีนักมวยไทยขึ้นสังเวียนทั้งหมด 3 คนด้วยกัน ประกอบด้วย นักชกสาว เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม เจอกับ คิม ไฮ ซอง จากประเทศเกาหลีเหนือ ในรุ่น 48-51 กก. เวลา 14.15 น. (เวลาจีน) ต่อยเป็นคู่ที่สอง
 
     หลังจากนั้นเวลา 16.00 น. ทัศมาลี ทองจันทร์ นักชกหญิงอีกคน จะพบกับ นิรานจา ซีนานายาเก จากศรีลังกา ในรุ่น 57-60 กก. และรอบค่ำเวลา 19.30 น. วรพจน์ เพชรขุ้ม จะชกชิงเหรียญทองแดงตุนไว้ก่อน เจอกับ มวยจากอิหร่าน โอมราน อัคบารี่ แฟนกีฬาชาวไทยห้ามพลาดเป็นอันขาด ส่งใจมาเชียร์นักชกไทยตะลุยสู่เหรียญทอง

    "เปี่ยมวิไล" เคยเห็นหลีแดงสุดแกร่ง 

     ยอดมวยเสื้อกล้ามหญิง เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม บอกกับคนข่าวถึงคู่ชกนัดแรกของเขาว่า นักมวยสาวจาก "โสมแดง" ประเทศเกาหลีเหนือรายนี้ คิม ไฮ ซอง เป็นรองแชมป์เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในรุ่น 54 กก. ที่ลดรุ่นลงมาชกรุ่น 51 กก. ถือว่าเป็นศึกหนักที่ตนต้องเจอ เคยเห็นฟอร์มเห็นฝีมือมาแล้ว แข็งแกร่งมาก และท่าทางยียวนกวนบาทาที่สุด แต่ตนก็เชื่อว่าจะอาศัยฝีมือเอาชนะได้ ขอเพียงกรรมการช่วยตัดสินอย่างยุติธรรมหน่อยก็แล้วกัน