"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋าพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมที่จะเปิดบ้านรับการมา เยือนของ วีแกน ทางด้าน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไร้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด บาดเจ็บจากการรับใช้ชาติ แต่จะได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ฟิตพร้อมลงเล่นเกทเปิดรังรับมือ เวสต์แฮม ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2553
แมนฯ ยูไนเต็ด - วีแกน

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

 
     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีศาจแดง เผยข่าวดี อาจส่ง เวย์น รูนี่ย์ เป็นตัวสำรองในเกมนี้แล้ว แม้ว่าจะไม่ได้ลงซ้อมฟุตบอลกับเพื่อนร่วมทีมเลยในสัปดาห์นี้ หลังจากเดินทางไปฟื้นฟูสภาพความฟิตถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ก่อน
 
     นอกจากนี้ เฟอร์กี้ ยังต้องประเมินสภาพความฟิตของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ คริส สมอลลิ่ง สองกองหลังทีมชาติอังกฤษด้วย โดยรายแรกเจ็บโคนขาหนีบในเกมที่ สิงโตคำราม แพ้ ฝรั่งเศส 1-2 ส่วนรายหลังเจ็บโคนขาหนีบตอนซ้อม
 
     ในราย นานี่ ปีกทีมชาติโปรตุเกส เป็นคนเดียวที่เพิ่งกลับมารายงานตัวที่สนามซ้อมเมื่อวันศุกร์ หลังรับใช้ทีมชาติในเกมถล่ม สเปน 4-0 อย่างไรก็ตาม ปีกจอมเทคนิคน่าจะฟิตทันลงเล่นไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับ พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋าพ้นโทษแบนกลับมาแล้ว
 
     ส่วน ราฟาเอล ดา ซิลวา กับ ไรอัน กิ๊กส์ ยังไม่น่าพร้อมสำหรับเกมนี้ โดย ราฟาเอล บาดเจ็บขา ส่วน กิ๊กส์ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า เร็วเกินไปที่จะเร่งใช้งานทั้งสองคนในเกมนี้
 
     ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ จอห์น โอเช, เวส บราวน์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี พาร์ค ชี-ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, นานี่ คู่หน้าใช้ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เหมือนเดิม
 
     ด้าน โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือ เดอะ ลาติกส์ เพิ่งเอาชนะ เวสต์บรอมวิช มาได้ในนัดล่าสุด ทำให้ถีบตัวเองขึ้นมาหายใจหายคออยู่เหนือโซนตกชั้นแล้ว ก่อนจะเจองานหนักในการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
 
     แนวรับจะไม่มี แกรี่ คัลด์เวลล์ ปราการหลังกัปตันทีมอีกแล้ว เพราะเจ็บต้นขาในนัดล่าสุดอีก คาดว่าอาจต้องพักยาว 6 สัปดาห์ ขณะที่ เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ กองหลังสารพัดประโยชน์ก็ยังมีปัญหาที่กล้ามเนื้อ
 
     งานนี้คงต้องใช้ สตีเว่น คัลด์เวลล์ พี่ชายแท้ๆ ของ แกรี่ คัลด์เวลล์ ลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ อันโตลิน อัลการาซ ปราการหลังทีมชาติปารากวัย ที่เพิ่งบินไกลไปลงเล่นเกมอุ่นเครื่องที่ ฮ่องกง เมื่อกลางสัปดาห์
 
     แดนกลางไม่มี เจมส์ แม็คคาร์ธี่ ที่เจ็บยาวจากปัญหาที่ข้อเท้า ขณะที่ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ตัวแทนตำแหน่งริมเส้น หมดสิทธิ์ลงเล่นเกมนี้ เพราะติดสัญญายืมตัวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด
 
     ระบบการเล่น 4-5-1 อาลี อัล ฮับซี ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ สตีฟ โกฮูรี่, สตีเว่น คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลการาซ, มายนอร์ ฟิเกรัว แดนกลางมี วิคเตอร์ โมเซส, เฮนดรี้ โธมัส, โมฮาเหม็ด ดิอาเม่, ฆอร์ดี้ โกเมซ, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย หน้าเป้าใช้ ฮูโก้ โรดาเยก้า
 
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, เวส บราวน์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - พาร์ค ชี-ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, นานี่ - ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
 
     วีแกน : อาลี อัล ฮับซี - สตีฟ โกฮูรี่, สตีเว่น คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลการาซ, มายนอร์ ฟิเกรัว - วิคเตอร์ โมเซส, เฮนดรี้ โธมัส, โมฮาเหม็ด ดิอาเม่, ฆอร์ดี้ โกเมซ, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย - ฮูโก้ โรดาเยก้า
 
     ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

ผีพกสถิติชนะลาติกส์รวด 100%

     สถิติการพบกันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ วีแกน แอธเลติก เพิ่งพบกันมาทั้งหมดเพียงแค่ 11 นัดเท่านั้นจากประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ซึ่ง ปีศาจแดง เอาชนะรวดได้ทั้ง 11 นัด แบ่งเป็นเกมพรีเมียร์ลีกตลอด 5 ฤดูกาลหลังสุด และอีก 1 นัดในศึกลีกคัพ
 
     10 นัดตลอด 5 ฤดูกาลหลัง นับตั้งแต่ฤดูกาล 2005-06 จนถึง 2009-10 แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะรวด ยิงได้ทั้งหมด 31 ประตู และเสียเพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น ส่วนอีก 1 นัดเป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ เมื่อฤดูกาล 2005-06 ปีศาจแดง ถล่มอีก 4-0
 
     ผลงานการพบกันฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด บุกถล่มก่อน 5-0 เวย์น รูนี่ย์ เบิ้ลสองประตู ที่เหลือจาก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ไมเคิ่ล โอเว่น และ นานี่ ขณะที่อีกนัดที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปีศาจแดง ก็ยังถล่มสกอร์เดิม รูนี่ย์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ราฟาเอล, เบอร์บาตอฟ และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ช่วยกันยิง 

ป๋าเปรยอาจใส่ชื่อรูนี่ย์สำรอง

 
     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปรยว่า เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าคนสำคัญของทีม อาจมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมเปิดบ้านรับมือ วีแกน แอธเลติก วันเสาร์นี้ได้แล้ว แต่ที่แน่ๆ เตรียมส่งศูนย์หน้าหมายเลข 10 ลงเล่นในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่จะบุกไปเยือน กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ที่สกอตแลนด์ วันพุธนี้ อย่างแน่นอน
 
     "เวย์น ทำงานหนักตลอดทั้งสัปดาห์ (ที่สหรัฐอเมริกา) เขาไม่ได้ซ้อมฟุตบอลมากนัก เราต้องการประเมินอย่างใกล้ชิดอีกเล็กน้อย เขาอาจมีชื่อเป็นตัวสำรองได้แล้ว ผมไม่คิดว่าเขาจะได้เป็นตัวจริง แต่เขาจะได้เล่นเกมวันพุธกับ เรนเจอร์ส แน่นอน" เฟอร์กูสัน กล่าว
 

ลิเวอร์พูล - เวสต์แฮม

สนาม : แอนฟิลด์ 

     รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ หงส์แดง อยู่ดีไม่ว่าดี ต้องเจอข่าวร้าย สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนสำคัญ บาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าฉีกระดับ 2 มาจากเกมทีมชาติอังกฤษ ทำให้ต้องพักยาวอย่างน้อย 3-4 เดือน
 
     ขณะเดียวกัน แดนกลาง ลูคัส เลว่า ติดโทษแบน 1 นัดด้วย ทำให้ ฮ็อดจ์สัน ไม่มีทางเลือกในการจัดแดนกลาง นอกจากต้องส่ง คริสเตียน โพลเซ่น ยืนกลางรับร่วมกับ ราอูล เมเรเลส
 
     ข่าวดีคือ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาฟิตสมบูรณ์แล้ว หลังพลาดลงเล่นมา 3 นัด เช่นเดียวกับ ฟาบิโอ ออเรลิโอ แบ็กซ้ายที่ฟิตกลับคืนทีมเช่นกัน เหลือเพียง โจ โคล มิดฟิลด์จอมเทคนิค ที่หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าแล้ว แต่ยังขออีกสัปดาห์เพื่อเรียกความฟิต
 
     เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เจ็บจากนัดล่าสุดที่แพ้ สโต๊ค 1-2 ฟิตสมบูรณ์กลับมารับใช้ทีมชาติสเปนไม่มีปัญหา ขณะที่ เดิร์ค เค้าท์ ที่ถอนตัวจากทีมชาติ เช่นเดียวกับ มาร์ติน สเคอร์เทล ก็พร้อมช่วยทีมทั้งคู่
 
     ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ กองกลางใช้ มักซี่ โรดริเกซ, ราอูล เมเรเลส, คริสเตียน โพลเซ่น, เดิร์ค เค้าท์ คู่หน้าใช้ ดาวิด เอ็นก็อก ยืนคู่ เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
     ด้าน อัฟราม แกรนท์ กุนซือ ขุนค้อน ไม่น่าปรับทัพจากนัดก่อน ที่เสมอ แบล็คพูล 0-0 โดยเฉพาะแนวรับที่ มานูเอล ดา คอสต้า เข้ารับการผ่าตัดข้อเท้าเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ต้องพักประมาณ 3 เดือนเลยทีเดียว
 
     วาลอน เบห์รามี่ กองกลางสวิส ที่เจ็บสะโพกล่าสุดกลับมาซ้อมได้แล้ว เช่นเดียวกับ ทาล เบน-ฮาอิม กองหลังอิสราเอล ที่หายเจ็บเท้า และ จูเนียร์ สตานิสลาส หายเจ็บโคนขาหนีบกลับมาซ้อมแล้วทั้งหมด
 
     แดนกลางกุนซือชาวอิสราเอล ต้องลุ้น สกอตต์ พาร์เกอร์ กองกลางคนสำคัญ ที่ติดเชื้อที่หน้าอก ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเกม ข่าวดีแน่ๆ คือ ฌูเลียง โฟแบร์ พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาเป็นตัวเลือก ขณะที่ข่าวร้าย คีรอน ดายเออร์ บาดเจ็บไปอีกในนัดล่าสุด
 
     ระบบการเล่น 4-4-2 โรเบิร์ต กรีน ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, แดนนี่ แก็บบิดอน, แม็ทธิว อัพสัน, เฮริต้า อิลุงก้า แดนกลางมี ปาโบล บาร์เรร่า, สกอตต์ พาร์เกอร์, มาร์ค โนเบิ้ล, วิคเตอร์ โอบินน่า คู่หน้าใช้ เฟรเดริก ปิกิยอน ยืนคู่ คาร์ลตัน โคล
 
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ - มักซี่ โรดริเกซ, ราอูล เมเรเลส, คริสเตียน โพลเซ่น, เดิร์ค เค้าท์ - ดาวิด เอ็นก็อก, เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
     เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, แดนนี่ แก็บบิดอน, แม็ทธิว อัพสัน, เฮริต้า อิลุงก้า - ปาโบล บาร์เรร่า, สกอตต์ พาร์เกอร์, มาร์ค โนเบิ้ล, วิคเตอร์ โอบินน่า - เฟรเดริก ปิกิยอน, คาร์ลตัน โคล
 
     ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต

หงส์ยิ้มออก! สถิติข่มค้อนมิด

 
     ลิเวอร์พูล มีสถิติที่ดีกว่า เวสต์แฮม อย่างเห็นได้ชัด ไม่แพ้ทีมขุนค้อนตลอด 5 นัดหลัง และยังเอาชนะได้ 3 นัดรวดในการพบกันหลังสุดด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การพบกันที่ แอนฟิลด์ เดอะ แฮมเมอร์ส ไม่เคยบุกชนะได้นับตั้งแต่ปี 1963 เป็นต้นมา
 
     ขุนค้อน มีผลงานในการมาเยือน แอนฟิลด์ ที่ไม่ค่อยดีนัก 15 นัดหลังสุด ยิงประตูที่นี่ได้เพียง 4 ลูกเท่านั้น โดย 12 นัดในจำนวน 15 นัดดังกล่าว ทีมจากลอนดอนทีมนี้เจาะประตูไม่ได้เลย ส่วนชัยชนะนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่เคยปรากฏให้เห็น
 
     เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หงส์แดง เอาชนะ ขุนค้อน ได้ทั้งไป-กลับ เริ่มจากเกมที่ อัพตัน พาร์ค เฟร์นานโด ตอร์เรส เบิ้ลสองประตู ช่วยให้ทีมบุกชนะ 3-2 ก่อนจะกลับไปถล่มที่รัง แอนฟิลด์ 3-0 ยอสซี่ เบนายูน กับ ดาวิด เอ็นก็อก ยิงได้ อีกลูกได้จาก โรเบิร์ต กรีน ทำเข้าประตูตัวเอง

 
โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19.45 น. อาร์เซน่อล - สเปอร์ส     
22.00 น. เบอร์มิงแฮม - เชลซี   
22.00 น. โบลตัน - นิวคาสเซิ่ล  
22.00 น. แบล็คพูล - วูล์ฟแฮมป์ตัน 
22.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - วีแกน       
22.00 น. เวสต์บรอมวิช - สโต๊ค ซิตี้ 
00.30 น. ลิเวอร์พูล - เวสต์แฮม