เรียกว่ามีข่าวตลอดปี สำหรับพระเอกหน้าหยก สเตฟาน-ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ หรือ สเตฟาน ซาลาโมเน่ หลังจากเลิกรากับ น้ำฝน-กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ ก็ดูเหมือนว่าเรตติ้งชีวิตจะกระฉูดขึ้นอีกครั้ง รวมถึงผลงานละครเรื่อง เจ้าสาวริมทาง ก็โกยเรตติ้งไปมากเหมือนกัน ทำให้ผู้จัดละคร และช่อง 7 หน้าบานไม่น้อย แถมเจ้าตัวยังมีละครใหม่ติดต่อเข้ามาอีกหลายเรื่องเช่นเดียวกันกับธุรกิจ "หนังสือสุขภาพ" ที่ดีวันดีคืน และนี่คือพื้นที่อัพเดตข่าวคราวของพระเอก 7 สี คนนี้ "สเตฟาน"...

ข่าวที่ยอมรับว่าเคยลงอ่างกระทบหรือไม่?
ไม่นะครับ ก็มีถามๆ กันเท่านั้นเองว่า เออ พูดแรงดี ปกติก็ไม่มีอะไร ผมว่าทุกคนคงผ่านประสบการณ์แตกต่างกัน อยู่ที่จะเล่าหรือเปล่า ไม่มีใครว่าอะไร ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร คงเข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของผมมั้งครับ ไม่มีอะไร

ข่าวพาดพิงไปถึงวี-วีรภาพด้วยว่าเป็นแมนกันจริงๆ หรือไม่?
เหรอครับ อย่าไปพาดพิงใครเลย ก็คือเราก็พูดไปไม่ได้แบบว่าต้องการแสดงออกว่าเราเป็นแมน ปกติ ก็ใช้ชีวิตแบบนี้ คนที่ผมคุยด้วยก็ไม่ได้ว่าอะไร ยุคนี้แล้วครับผมว่าเรามาพูดจากันตรงๆ ดีกว่า

หลังจากเลิกกับ น้ำฝน-กุณณัฏฐ์ มองความรักเปลี่ยนไปอย่างไร?
พูดตรงๆ เราไม่มีทางรู้ได้ว่าเราเป็นอย่างไรในอนาคตในเรื่องความรัก อย่าไปเชื่อว่าผมเก่งที่สุดในเรื่องความรัก ผมคิดว่าเรื่องความรักนี้มันคงไม่มีทฤษฎี ไม่มีเหตุผล แบบว่าพอรู้จักกันก็ได้จับมือกัน คุยกัน จีบกันหลังจากนั้นก็ดูหนัง ค่อยรักกันไปเรื่อยๆ มันไม่มีกฎเกณฑ์หรอกนะผมว่า บางคนบางคู่ เจอวันนี้พอผ่านมา 3-4 วันก็รักแล้ว ก็เป็นไปได้ คือผมว่าความรักนี้ มี 2 แบบนะ ตามความคิดผม คือ รักที่อยากอยู่ด้วยกัน และรักผูกพัน รักต้องมี 2 แบบ คือไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง

ปี 2011 วางแผนงาน ธุรกิจอย่างไรบ้าง?
ปีหน้ายังไม่ได้วางแผนอะไรเลย ถ่ายละครไปเรื่อยๆ ก็มีหลายเรื่องที่ต้องถ่ายอันนี้เป็นงานประจำ ผมว่าเราดูวันนี้ก่อน เอาตอนนี้ให้ดีที่สุดก่อน อย่างผม กับฝนตอนนี้ก็ยังทำหนังสือด้วยกัน ส่วนตัวผมก็เล่นหุ้นบ้าง คนเราถ้าไม่ต้องทำไรตลอดก็ไม่ไหว ถ้าต้องทำอะไรบ้าง ก็โอเคแล้ว ส่วนงานละคร งานปีหน้ามี "ฟ้าจรดทราย" อาจจะถ่ายทั้งปี เท่าที่ทราบผมต้องไปประเทศอียิปต์ประมาณเดือน ก.พ. เพราะมีถ่าย คงสนุกเหมือนกันไปต่างประเทศ ปกติไม่ค่อยได้ไปไหน ส่วนงาน หนังสือสุขภาพดี ก็กำลังดี ปีหน้ามีอีเว้นท์  70 วัน วางแผนไว้แล้วทั้งปี

งานอีเว้นท์ บอกได้หรือไม่?
คงเป็นงานอีเว้นท์ในโรงพยาบาลแบบที่ทำอยู่ แต่ปีหน้าผมจะไปหลายที่ จริงๆ อยากอุบไว้ก่อน เดี๋ยวโดนก๊อบปี้ หนังสือของผมเป็นรูปแบบแรกๆ ที่ทำ ตอนนี้มีคนเลียนแบบเยอะ แม้กระทั่งเลย์เอาท์หน้าหนังสือก็เลียนแบบ เช่น เอารูปนางเอกมาขึ้นปก ก็มาเอาอย่างหนังสือผม ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ว่าเลย์เอาท์ข้างในก็ยังเหมือนกัน เรื่องราวก็เหมือนกันมันชักมากไป เพราะหนังสือของผมจะออกทุกวันที่ 1 ของเดือน มันกระทบธุรกิจเยอะ ขออุบไว้ก่อน เดี๋ยวมีคนทำตามผมอีก 

"สเตฟาน" วันนี้ มุ่งไปที่งานนักแสดง หรือธุรกิจ?
ทั้งคู่นะ เป็นดาราเหนื่อยก็จริง แต่ถามว่าดีไหมมันก็ดี เหนื่อยแต่ก็สนุก มีทั้งดี และไม่ดี ผมอยากทำทั้งคู่ไปพร้อมๆ กัน  ธุรกิจก็ดี เพราะผลลัพธ์ได้ระยะยาว เหมือนแบบมีเวลาในบั้นปลาย เพราะในชีวิตคนเราผมว่าอายุคนนี้ไม่กี่ปีเอง พออายุ 20-30 ปี ก็ใช้ให้คุ้ม ผมมองว่าคนอายุ 20 ปี ถ้าทำได้ก็ทำ เพราะถ้าอายุ 50 ปี คงแย่ คงเหนื่อย เราต้องหาอะไรทำ ปูรากฐานไว้เผื่อจะได้สบายตอนอายุมาก คือผมเองนะ ต้องดูแลพ่อแม่ น้อง จริงๆ  เป็นดาราแล้วทำไรก็ต้องกลับมาทำงานแสดงอีก ผมว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ดูอย่างนักแสดงที่กลับมา เช่น อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา สังเกตดูนะครับ

กระแสข่าวในรอบปีที่ผ่านมา กระทบภาพลักษณ์ หรือธุรกิจหรือไม่?
ไม่นะ ผมว่าทุกอย่างอยู่ที่คนอ่านข่าว แค่ใช่ว่าความคิดบางคนเลือกที่จะอ่านแบบผ่านๆ  บางคนเลือกดูดซึมข่าวเลย บางคนเลือกที่จะเชื่อ ผมว่าคนฉลาดเยอะกว่าคนโง่นะครับ คิดดูซิตอนที่มีข่าวผมเลิกกับน้ำฝน ตอนนั้นผมทำธุรกิจอยู่นะ พอผมเลิกกับฝน ผมยังต้องทำหนังสือต่อไป ถามจริงๆ  ถ้าเจ้าของเครื่องดื่มชนิดหนึ่งเขาหย่ากัน แล้วไง พี่ๆ กลัวว่าจะไม่มีเครื่องดื่มกินเหรอ เหมือนกันถ้าคนในองค์การไฟฟ้าเลิกกัน บ้านเราจะไม่มีไฟฟ้าใช้เหรอ ผมว่าเป็นไปไม่ได้นะ​ผมว่าธุรกิจไม่ได้อยู่ด้วยเพราะความรัก ธุรกิจอยู่ด้วยเพราะเหตุผล เลิกแล้วธุรกิจก็อยู่ดี

กับน้ำฝนมีโอกาสรีเทิร์นหรือไม่?
ผมก็ยังรักเขานะ ไม่รู้เหมือนกันตอนอยู่ด้วยกัน ไม่มีความสุข สองคนไม่เข้าใจกันไม่รู้อธิบายยังไง รักไหมก็รัก รักเขาตลอด อยู่ด้วยกันมาหลายปี นี่ผมพูดตรงๆ ไม่ได้สตอเบอรี่นะ มันห้ามคนไม่ได้ ถามว่าผมรักไหมก็รักนะ ความรักก็มีเหมือนเดิม แต่มันไม่ใช่ไง

ความรู้สึกแบบนี้ เป็นกำแพงกั้น ไม่ให้มีคนใหม่หรือไม่?
ผมพูดไปว่า "ไม่รักแล้ว" ง่ายกว่า ผมไม่อยากคิดไรมาก เวลาหัวใจผมรู้สึก ผมก็ต้องพูดแบบนั้น รักก็รักนะ ความรู้สึกนี้ ไม่ได้เป็นกำแพงอะไร ไม่ใช่แบบว่าพอ ไปคบคนอื่นแล้วไม่ดีเท่าเราก็แบบว่า กลับมางี้ ไม่นะ คือผมแบบว่า ไม่ว่าเรามีปัญหาไร ก็รักกันตลอด แต่คนอื่น วันหนึ่งผมจะรักคนอื่น ความรักไม่หายไปไหนหรอก อธิบายงี้คือวันก่อนผมเคยไปงานหนึ่งเห็นดารารุ่นเก่าๆ เขาจะเหมือนแบบว่าตอนเด็กๆ เคยจีบกัน เป็นแฟน แล้วก็แยกกันไปมีลูก แล้วก็กลับมาเจอกันอีก อารมณ์ก็ประมาณนั้น

มองอย่างไรระหว่างรักคนนอกวงการกับในวงการต่างกันหรือไม่?
ส่วนมากคนอื่นชอบคิดว่าผมไปหักอกชาวบ้าน ความจริงผมโดนหักอกตลอด ไม่ใช่ว่าเป็นคนเจ้าชู้นะ ทุกคนพูดตรงๆ  ผู้หญิงทุกคนที่คุยได้เปรียบเทียบนะ เราขับรถจากกรุงเทพฯ เขาจะไปพัทยา ผมอยู่บางแสนเรียกขอรถเขาขึ้น ปรากฏว่าตัวจริงเขาอยู่พัทยาเป็นงี้ตลอดจริงๆ ผมก็ได้อภิสิทธิ์แค่ไปดูหนังเท่านั้น เราเป็นดารา พระเอก คนเขาเชื่อใจเราง่ายไง เราไม่ได้ไปหลอกเขา เพราะว่ามีตัวตน เขารู้ว่าเราเป็นใคร เราคือสเตฟาน เขาก็เลยเชื่อใจ เราแค่บางแสนเท่านั้น ผมมารู้ทีหลังมีคนคุยทำไมไม่บอก ผมอกหักตลอด

ปัจจุบันมีสาวที่คุยใหม่หรือไม่?
ก็มี เขาเรียนอยู่  เอาน่าพูดเยอะแล้ว

พอคบคนในวงการ กระทบกับเรามากหรือไม่?
ครับ คือคนในวงการนี่ ผมโชคดีอย่าง น้ำฝน เขาเหมือนคนธรรมดาทั่วไป พี่ๆ ก็รู้ เป็นคนตรงๆ ผมเป็นคนไม่เคยไม่เชื่อใจใคร ถ้าฝนมาขอตังค์ผม 1 ล้าน ผมให้เลยนะ ผมเชื่อใจเขา ถามผมคบคนธรรมดาดีกว่า ถ้าเลือกได้ ขอให้ถึงพัทยาก่อน ไม่อยากเป็นบางแสน จริงๆ ยากมาก ถ้าเจอน่ารักๆ ขอเบอร์ลองคุยดู ลองเฉยๆ เขาจะให้เบอร์ผม ผมจะถามก็มีคนคุยอยู่ ก็ชอบ จะให้เบอร์ทำไม ทีนี้ถามไง ตอนแรกเราถาม กลายเป็นว่าผมเป็นมือที่สาม

มองตัวเองอย่างไร คิดว่ามาถึงจุดประสบความสำเร็จหรือยัง?
ไม่รู้นะ  ไม่นะ ผมไม่รู้นะ ผมอยู่ตรงไหนจริงๆ ไม่คิดว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ แต่ผมไม่อยากหยุดตรงนี้ แม้จะดังที่สุดในประเทศก็อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ ถ้าเราหยุด ทำให้ทุกอย่างไม่สนุก ผมอยากก้าวหน้า ดูคนวิ่งแข่งกีฬาโอลิมปิกนะสังเกตดูจะมีคนทำลายสถิติตลอด คือไม่ว่าการงาน การแสดง อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ

อยากให้พูดถึงวันที่ดี และแย่ที่สุดในชีวิต?
วันที่ดี คนอื่นอาจคิดว่าเป็นวันไม่ดีนะ วันนั้นหลายปีมาแล้ว แม่ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ ค่ารักษามันแพงไง ต้องทำบอลลูนมีกล้องใช้เงินมาก ตอนนั้นผมเพิ่งเล่นละครใหม่ๆ ก็หาเงินได้นะ พอได้เงินมาก็นำมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลหมด ผมรู้สึกว่าดีมากๆ ไม่ว่าเป็นพ่อแม่ หรือน้องสองคน ผมดูแลยังไงก็มีความสุข ผมรู้สึกภูมิใจนะ เพราะอาจจะเป็นว่า เด็กๆผมไม่ค่อยตั้งใจ พ่อแม่คงเหนื่อยมาเยอะ พอได้ชดใช้รู้สึกดี ส่วนวันที่แย่ที่สุด ไม่คิดว่าจะมีนะ อาจจะเป็นวันที่ผมบอกเลิกน้ำฝนก็เป็นได้.