"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกตัวเก่งพร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในเกมที่จะบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ด้านเจ้าถิ่นขาดตัวหลักเพียบ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553

นิวคาสเซิ่ล - ลิเวอร์พูล

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค

 
     สาลิกาดง เพิ่งปลด คริส ฮิวจ์ตัน ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเมื่อวันจันทร์ หลังทำผลงานไม่ชนะใครในลีกมา 5 นัดรวด เก็บได้เพียง 2 แต้มเท่านั้น ก่อนจะแต่งตั้ง อลัน พาร์ดิว เป็นกุนซือคนใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
 
     พาร์ดิว เจอปัญหาเพียบตั้งแต่นัดแรก โจอี้ บาร์ตัน พ้นแบน 3 นัดกลับมาตั้งแต่นัดก่อน แต่เจ็บโคนขาหนีบ ต้องรอทดสอบความฟิต ขณะที่ เควิน โนแลน กัปตันทีม คาดว่าจะฟิตทัน หลังเจ็บข้อเท้าจนพลาดมาแล้ว 2 นัด
 
     อีกคนในแดนกลางที่รอดตัวไปคือ แดนนี่ กัทธรี่ เจ็บข้อเท้ามาจากเกมล่าสุดที่แพ้ เวสต์บรอมวิช 1-3 แต่อาการไม่หนักอย่างที่เกรงไว้ทีแรก ทำให้ยังมีลุ้นรักษาตำแหน่งในการเจอกับทีมเก่าของตัวเอง
 
     แนวรับยังเป็นปัญหาเดิม นั่นคือการติดโทษแบนของคู่เซนเตอร์ตัวหลัก ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ กับ ไมค์ วิลเลียมสัน ที่โดน 3 นัดพร้อมกัน และเวลานี้เหลือโทษนัดสุดท้ายแล้ว
 
     ส่วนอื่นๆ สตีฟ ฮาร์เปอร์ ประตูมือ 1 หายเจ็บไหล่ลงเล่นให้ทีมสำรองแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาเรียกความฟิตสักระยะ ขณะที่แข้งเจ็บยังมี แดน กอสลิ่ง (เข่า), ไรอัน เทย์เลอร์ (ข้อเท้า) และ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (ขาหัก)
 
     ระบบการเล่น 4-4-2 ทิม ครุล เฝ้าเสา แผงหลังใช้ แดนนี่ ซิมพ์สัน, สตีเว่น เทย์เลอร์, โซล แคมป์เบลล์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ แดนกลางมี แดนนี่ กัทธรี่, ชีค ติโอเต้, เควิน โนแลน, โฮนาส กูเตียร์เรซ คู่หน้า ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส ยืนคู่ แอนดี้ แคร์โรลล์
 
     ด้าน รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ หงส์แดง ผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตา หลังชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 เมื่อวันจันทร์ เป็นชัยชนะเกมลีกในแอนฟิลด์นัดที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ทว่า ผลงานนัดเยือนในลีกยังคงย่ำแย่ พ่ายติดกันมาสองนัดรวด
 
     ข่าวดีคือการกลับมาของ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าเบอร์ 1 ที่พลาดเกมกับ วิลล่า เพราะภรรยาคลอดลูกคนที่สอง แต่เกมนี้พร้อมกลับมาเป็นตัวจริงตามเดิมแล้ว แถมยังได้กำลังใจเพิ่มขึ้นมาเพียบ
 
     คนที่จะต้องคืนตำแหน่งให้ ตอร์เรส น่าจะเป็น ไรอัน บาเบล มากกว่า ดาวิด เอ็นก็อก แม้จะเล่นดีและยิงประตูได้ทั้งคู่ก็ตาม
 
     ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ฮ็อดจ์สัน ไม่มีปัญหา นอกเหนือจากอาการบาดเจ็บของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด (เอ็นหลังหัวเข่า) กับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ (น่อง) ที่ยังต้องใช้เวลาเรียกฟิตอีกสักสัปดาห์ และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่ไหล่หลุดพักยาว
 
     ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แนวรับใช้ เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, โซติริออส คีร์เจียกอส, พอล คอนเชสกี้ กองกลางมี เดิร์ค เค้าท์, ราอูล เมยเรเลส, ลูคัส เลว่า, มักซี่ โรดริเกซ คู่หน้า ดาวิด เอ็นก็อก ยืนคู่ เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
     นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครุล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, สตีเว่น เทย์เลอร์, โซล แคมป์เบลล์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - แดนนี่ กัทธรี่, ชีค ติโอเต้, เควิน โนแลน, โฮนาส กูเตียร์เรซ - ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส, แอนดี้ แคร์โรลล์
 
     ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, โซติริออส คีร์เจียกอส, พอล คอนเชสกี้ - เดิร์ค เค้าท์, ราอูล เมยเรเลส, ลูคัส เลว่า, มักซี่ โรดริเกซ - ดาวิด เอ็นก็อก, เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
     ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

หงส์อัด 4 นัดติดกระหน่ำ 14 ลูก

 
     ลิเวอร์พูล ผลงานยอดเยี่ยมเสมอในการเจอกับ นิวคาสเซิ่ล ช่วงหลัง เพราะ 4 นัดหลังสุด ในฤดูกาล 2007-08 และ 2008-09 หงส์แดง เป็นฝ่ายกำชัยเรียบ แถมยังกระหน่ำแหลก 14 ประตู เสียไปเพียงลูกเดียวเท่านั้น
 
     นอกจาก ลิเวอร์พูล จะฟาดชัยชนะ 4 นัดรวดในการเผชิญหน้ากับ นิวคาสเซิ่ล แล้ว ย้อนกลับไป 8 นัดหลัง หงส์แดง ยังกวาดชัยชนะมากถึง 7 นัด ปล่อยให้แฟนบอลสาลิกาดงเริงร่าคว้าชัยชนะเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ฤดูกาล 2006-07
 
     สองครั้งหลังที่ หงส์แดง บุกเยือน เซนต์ เจมส์ พาร์ค เกิดขึ้นในฤดูกาล 2007-08 สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เดิร์ค เค้าท์ และ ไรอัน บาเบล ช่วยกันยิงให้ทีมบุกถล่ม 3-0 และฤดูกาล 2008-09 ลิเวอร์พูล ยิงสนุกเท้า 5-1 เจอร์ราร์ด ยิง 2 ประตู, ซามี่ ฮูเปีย, บาเบล และ ชาบี อลอนโซ่ คนละหนึ่ง

พาร์ดิวรับเสี่ยงเข้าคุมสาลิกา

            
     อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีมป้ายแดงของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดเผยว่าผู้จัดการทีมหลายคนถึงกับพากันส่งข้อความมาเตือนตนเป็นเสียงเดียว กันว่า บ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ตัดสินใจมาเป็นกุนซือคนใหม่ในถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ต่อจาก คริส ฮิวจ์ตัน ที่โดนไล่ออกไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
 อดีต กุนซือเซาธ์แฮมป์ตัน ได้รับการเปิดตัวต่อหน้าสื่อมวลชน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากเซ็นสัญญายาวเหยียด 5 ปีครึ่ง โดยถึงยอมรับว่าเพื่อนร่วมอาชีพหลายคนตั้งแง่สงสัยเกี่ยวกับการตัดสินใจรับ งานนี้ของตน พาร์ดิว ก็ยืนกรานว่าโอกาสนี้ดีเกินกว่าจะปฏิเสธได้
 
     "ผมได้รับข้อความจากผู้จัดการทีมหลายคนบอกว่า-คุณต้องบ้าแน่ๆ ที่ไปทำงานที่นั่น-เพราะมันเป็นงานที่ยากมากจากประวัติของเจ้าของสโมสรและ ผู้จัดการทีม แต่พวกเขาเป็นสโมสรใหญ่ พวกเขาเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผมคงพูดได้ว่าเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของประเทศ และผมก็คงทนอยู่กับตัวเองไม่ได้ หากไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ หวังว่าระยะเวลาของสัญญาจะเปิดโอกาสให้ผมพัฒนาสโมสรแห่งนี้"

จีเจมั่นใจหงส์กลับมาลุ้นท็อปโฟร์

 
     เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล มั่นใจว่าต้นสังกัดสามารถลืมความผิดหวังจากการเริ่มต้นฤดูกาลที่ย่ำแย่ และมุ่งมั่นกับการลุ้นคว้าอันดับ 4 ได้ในฤดูกาลนี้ หลังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของตาราง และตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4 อยู่ 7 คะแนน
 
     ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ กล่าวว่า "นักเตะทำงานกันหนักมากในการฝึกซ้อมและพยายามลืมฟอร์มที่ย่ำแย่และทำผลงาน ที่ดีอย่างต่อเนื่อง มันเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับผู้จัดการทีมคนใหม่ที่เข้ามาและพยายามเปลี่ยน แปลงโดยทันทีทันใด มันยากมากที่จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เกมแรก"
 
     "ตอนนี้เราเริ่มเล่นในแนวทางที่ รอย ขอให้เราเล่น และนักเตะก็เข้าใจมันเป็นอย่างดี มันเป็นเรื่องที่ดีมาก นักเตะหลายคนลงฝึกซ้อมและมีแนวทางที่แตกต่างกัน เรามีนักเตะที่มหัศจรรย์และสตาฟฟ์ที่ยอดเยี่ยมในสโมสร ผมมั่นใจว่าถ้าเรายังคงเล่นได้แบบนี้ เราจะขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีแน่นอน"

โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
22.00 น. แอสตัน วิลล่า - เวสต์บรอมวิช 
22.00 น. เอฟเวอร์ตัน - วีแกน 
22.00 น. ฟูแล่ม - ซันเดอร์แลนด์
22.00 น. สโต๊ค ซิตี้ - แบล็คพูล 
22.00 น. เวสต์แฮม - แมนเชสเตอร์ ซิตี้   
00.30 น. นิวคาสเซิ่ล - ลิเวอร์พูล