จะไม่จบเสียแล้ว บ.ระยอง ไทยพรีเมียร์ เบี้ยวนัดสมาคมฟุตบอลฯ ไม่ยอมมาเจรจากับฝั่ง ราชนาวี โดย "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เผยต้องดูสัญญาของทั้งสององค์กรว่าเป็นอย่างไร แต่อยากให้จบลงด้วยดีด้วยการหันหน้าคุยกัน ทว่าหากถึงขั้นขึ้นศาลอาจพักสโมสร ราชนาวี ระยอง ซีซั่นหน้า ส่วนนักเตะถึงคราวเลือกทางเดินชีวิตครั้งใหญ่เมื่อ น.อ.อโศก ศรีสวัสดิ์ เลขาทีมฯ สั่งให้นักเตะลาออกจากราชการ หากต้องการย้ายทีมเพื่อเล่นฟุตบอล อย่างเดียว

                                                                  ระยองเบี้ยวคุยเลื่อนถกปัญหา
 
       ยังไม่จบสำหรับปัญหาในมุ้งของ ราชนาวี ระยอง ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ โดยเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2553 ที่ ผ่านมา ทางสมาคมฟุตบอลฯ โดย "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ที่อาสาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาได้นัดตัวแทนจากทั้ง ราชนาวี สโมสร กับ บ.ระยอง ไทยพรีเมียร์ มาพูดคุย
 
       ทว่าเมื่อถึงเวลานัดดังกล่าวปรากฏว่าฝั่งของ บ.ระยอง ไทยพรีเมียร์ ไม่เดินทางมาตามที่นัดหมาย โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจที่ จ.ระยอง จึงจะขอเลื่อนการประชุมเป็นวันอื่นแทน ส่วนทางราชนาวี นั้นก็มีตัวแทนมาตามนัดหมาย สุดท้ายจึงได้แค่เพียงการปรึกษาหารือกับทางสมาคมเท่านั้น

                                                                 ปิดห้องเงียบหารือกว่า 1 ชม.         

       แม้จะไม่มาตามนัดสำหรับ บ.ระยอง ไทยพรีเมียร์ ทว่าตัวแทนจาก ราชนาวี สโมสร ที่เดินทางมาได้เข้าพบ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อนสินค้า เลขาธิการสมาคมฯ เพื่อพูดคุย โดยมี ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีก และนายธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ผช.เลขาธิการสมาคมฯ

       เข้าร่วมหารือ ขณะที่ ราชนาวี สโมสร นำโดย น.อ.เริงฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ ผจก.ทีมราชนาวี ระยอง พร้อมด้วย น.อ.อโศก ศรีสวัสดิ์ เลขาธิการทีมฟุตบอลทหารเรือ น.อ.ชัยวัฒน์ ยมจินดา อนุกรรมการทีมฟุตบอลทหารเรือ และ ร.ท.บรรจง เพ็ชรฉกรรจ์ จนท.ทีม เข้าร่วมหารือกับทางสมาคมฯ  โดยตลอดการประชุมได้มีการปิดห้องและไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในห้องแต่อย่างใด โดยใช้เวลานานกว่า 1  ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้นการพูดคุย
               
                                                              มิได้นำพาเตรียมนัดถกใหม่
      
       หลังเสร็จสิ้นการพูดคุยหารือดังกล่าวแล้ว "บิ๊กเปี๊ยก" เลขาธิการสมาคมฯ ก็ออกมาเผยว่า "ในวันนี้ก็เป็น เพียงการพูดคุยหาแนวทางการแก้ปัญหาเท่านั้น โดยทางสมาคมก็ได้ชี้แจงเรื่องกฎระเบียบการส่งทีมแข่งขันไทยลีกให้ได้ทราบ และได้ให้แนวทางกับราชนาวีว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายทำงานร่วมกันอีกครั้ง เพราะเมื่อฤดูกาล ก่อนก็ถือว่าน่าพอใจในเรื่องของการจัดการต่างๆ

       ซึ่งทางราชนาวีก็น้อมรับ และนำไปพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ส่วนบทสรุปนั้นก็คงจะต้องนัดทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาพูดคุยอีกรอบให้เร็วที่สุด เพื่อยุติปัญหา ส่วนเรื่องวันเวลานั้นคงต้องเช็กกันอีกครั้งหนึ่ง"
          
                                                         หากขึ้นศาลจ่อพักนาวีเล่นไทยลีก
     
       ในส่วนของสิทธิการทำทีมที่ก่อนหน้านี้ไทยพรีเมียร์ลีกออกมายืนกรานและหลายคนเข้าใจนั้นว่าเป็นของ บริษัท ระยองฯ โดยชอบธรรม เลขาธิการสมาคมฯ ก็ได้ปฏิเสธว่า "ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปเรื่องสิทธิได้ชัดเจน แม้ทีพีแอลจะเคยให้ข่าวไปก่อนหน้านี้

       แต่อย่าลืมว่าทีพีแอลก็อยู่ภายใต้การควบคุมของสมาคมฯ และในเรื่องนี้ทาง  ดร.วิชิต ก็ได้ยกให้ทางสมาคมเป็นคนตัดสินชี้ขาด ซึ่งเราจะต้องมาดูการเซ็นสัญญาของทั้ง 2 ฝ่าย และกฎระเบียบ ต่างๆ อีกครั้ง แต่ตนนั้นก็ยังย้ำที่จะให้ประนีประนอมกัน ไม่อยากให้เรื่องมันบานปรายไปมากกว่านี้ เพราะท้ายที่สุด

       จะไม่มีใครได้ประโยชน์เลย ซึ่งถ้าทุกอย่างไม่จบและทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกัน จนถึงขึ้นโรงขึ้นศาลก็อาจจะเป็นไปได้ที่ทางสมาคมฯ อาจจะต้องพักทีมราชนาวี ในฤดูกาลหน้า"
          
                                                             นาวียักไหล่ไร้ปัญหากับระยอง
 
       ในขณะที่ทางฟากของราชนาวีนั้น น.อ.อโศก ศรีสวัสดิ์ เลขาทีมฯ ได้ออกมาชี้แจงว่า "อย่างที่เลขาธิการ สมาคมฯ ได้พูดไปแล้วถึงแนวทางต่างๆ ซึ่งทางราชนาวีก็พร้อมนำไปปรึกษาหารือและพิจารณา ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะกลับมาร่วมมือทำทีมกับระยองอีกนั้น

       ก็มีความเป็นไปได้ ตามที่นโยบายของประธานสโมสร พล.ร.ท.ธัชรินทร์ ชู ศรี ได้เคยพูดไว้นั้นก็คือจริงๆ แล้วราชนาวี ไม่ได้มีปัญหากับทางระยองเลย แถมยังพอใจกับการทำงานของระยอง  ไทยพรีเมียร์ด้วยซ้ำ แต่เพียงบางเรื่องเท่านั้นที่มีความเห็นไม่ตรงกัน และขาดการประสานงาน ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายดูเหินห่างและไม่ลงรอยกัน ซึ่งถ้ามีการพูดคุยเจรจาข้อตกลงที่ชัดเจนก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำทีมร่วมกันอีกครั้ง"
         
                                                            แผนสองกลับสัตหีบแค่เรื่องสำรอง
          
       ในส่วนที่ว่าราชนาวีจะกลับไปเล่นที่สัตหีบในฤดูกาลหน้านั้น น.อ.อโศก ก็ชี้แจงว่า "เป็นเพียงแผนสำรองที่ เตรียมไว้เท่านั้น เพราะเรายังต้องการเล่นที่ระยองตามเดิม อีกทั้งฐานแฟนบอลก็อยู่ที่นั้น แต่ถ้าสุดท้ายแล้วหาก ทุกอย่างตกลงกันไม่ได้ แล้วบังเอิญว่าสิทธิ์ในการทำทีมตกเป็นของราชนาวี และอบจ.ระยอง ไม่อนุญาตให้เล่นที่ ระยอง เราก็พร้อมที่จะกลับไปเล่นที่สนาม กม. 5 สัตหีบ ซึ่งเราก็ได้ปรับปรุงสนามเพื่อรองรับไว้อยู่แล้ว"
          
                                                              เงินเดือนแข้งนาวีเคลียร์แล้ว
      
       นอกจากนี้ในเรื่องของการค้างเงินเดือนนักเตะตามที่เป็นข่าวนั้น เลขาทีมบอลทหารเรือก็บอกว่า "คงเป็นเรื่อง ที่นักเตะเข้าใจผิดกันไปเอง เพราะสัญญาว่าจ้างของนักเตะทุกคนนั้นมีอยู่กับบริษัทระยอง ซึ่งหมดสัญญาไปเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา

       และเรานั้นเหลือการแข่งขันอีก 2 รายการคือเอฟเอ คัพ และลีกคัพ ซึ่งก็เลยสัญญามาอีก 17 วัน นักเตะก็คิดกันเองว่าจะต้องได้เงินเดือนอีก 2 เดือนที่เหลือ และทางบริษัทเองก็สัญญาว่าจะให้เบี้ยเลี้ยงซ้อมในส่วนที่เกินมาด้วย แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ให้มา

       ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของบริษัทระยองกับนักเตะ ในส่วนของนักเตะที่เป็นข้าราชการ ทหารเรือ เมื่อหมดสัญญากับบริษัทก็ได้รับเงินเดือนของกองทัพตามปกติเหมือนเดิม แต่ก็มีนักเตะบางคนที่ไม่ได้อยู่ ในสังกัด รวมถึงนักเตะต่างชาติที่ไม่เข้าใจตรงจุดนี้"
 
       ในส่วนของเงินอัดฉีดบำรุงทีมที่ทางสโมสรได้จากการแข่งขันรายการต่างๆ อย่างโตโยต้า ลีกคัพ 100,000 บาท ทางราชนาวี ก็เพิ่งได้เช็คเงินสดจากทางระยองมา และตอนนี้ก็ได้เบิกจ่ายให้กับนักเตะทุกคนไปแล้ว ส่วนในเอฟเอ  คัพ อีก 200,000 บาท กำลังอยู่ในการเบิกจ่ายจากทางสมาคมฯ มายังบริษัท ซึ่งถ้าได้มาเมื่อไรเงินทุกบาททุกสตางค์ก็จะถึงมือของนักเตะและทีมงานทุกคนอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
          
                                                    ย้ำใครจะย้ายต้องลาออกจากราชการ
      
       สุดท้ายที่มีข่าวว่าบรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ของทีมเตรียมที่จะขนข้าวของย้ายออกไปนั้น น.อ.อโศก ก็เผยว่า "ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่นักเตะบางคนจะได้รับการสนใจและติดต่อจากสโมสรอื่น ซึ่งนักเตะทุกคนก็สามารถทำได้ เพียงแต่ถ้าใครเป็นข้าราชการอยู่ก็ต้องลาออกจากราชการทหารก่อนเท่านั้น แต่ก็ยังยืนยันว่าทุกวันนี้นักเตะทุกคนยังคงฝึกซ้อมกันอยู่ที่สัตหีบตามปกติ"