"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด บุกเฉือนชัย เคตาเฟ่ ไปได้แบบหืดจับทั้งที่ออกนำไปก่อนถึง 3-1 แต่ท้ายที่สุด เจ้าถิ่นไล่เบียดท้ายเกม 3-2 แต่ไม่ทัน โดยเกมนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมาคนเดียว 2 เม็ด จบเกมชุดขาวเก็บชัยรั้งที่ 2 ตามหลังจ่าฝูงบาร์ซ่าสองแต้ม ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2554

เคตาเฟ่ 2 - 3 เรอัล มาดริด

สนาม: เอสตาดิโอ โกลีเซียม อัลฟอนโซ่ เปเรซ, มาดริด
 

      เคตาเฟ่ ฟอร์มดีทีเดียวชนะมา 4 นัดรวด เกมนี้เจ้าถิ่นไม่มี อีบัน มาร์กาโน่ เซนเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ บิคตอร์ ซานเชซ กองกลางตัวรับ แต่ได้ ดาเนียล "กาต้า" ดิอาซ ปราการหลังจอมเก๋าวัย 31 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ฟิตพร้อมลงมาช่วยคุมแนวรับ
 
     ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด รองจ่าฝูงที่ชนะมาสามนัดรวดในลีก ต้องขาดคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวโปรตุกีสทั้ง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กับ เปเป้ ที่ติดโทษแบนพร้อมกันทั้งคู่ ทำให้ต้องโยกเอา เซร์คิโอ รามอส แบ็คขวาจอมบุกหุบเข้ามายืนเป็นปราการหลังตัวกลางร่วมกับ ราอูล อัลบิโอล
 
     ขณะที่แดนหน้าไม่มี กอนซาโล่ อิกวาอีน กองหน้าตัวเก่งชาวอาร์เจนไตน์ ที่ซัดไปแล้ว 7 ประตู เข้ารับการผ่าตัดหลัง ต้องพักประมาณ 2 เดือนเต็ม แต่ได้ กาก้า กองกลางหน้าหยกที่เจ็บไปนานกลับมาฟิตสมบูรณ์มีชื่อเป็นสำรอง รวมทั้งได้ ชาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์ตัวรับคนเก่ง และ มาร์เซโล่ วิเอยร่า แบ็คซ้ายบราซิเลียน พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม
 
     ตัวรุกตรงกลางสนามเป็น เมซุต โอซิล เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเยอรมัน ปั้นเกมร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวซัลโวสูงสุดร่วมของลีกยามนี้ 17 ประตู และ อังเคล ดิ มาเรีย โดยมี คาริม เบนเซม่า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
 
     เปิดเกมขึ้นมาได้แค่ 4 นาที คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของชุดขาวได้ส่องฟรีคิกจากระยะไกลบอลข้ามคานไป
 
     สองนาทีต่อมา ดิ มาเรีย ปีกชาวอาร์เจนไตน์ของชุดขาว ครอสจากทางด้านซ้ายไปให้กับ โรนัลโด้ สลับเท้าหวดด้วยขวากลับหลังบอลไม่ตรงกรอบ
 
     อย่างไรก็ตาม ราชันชุดขาว มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้ในนาทีที่ 11 จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ลากบอลมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา แต่โดน โฆเซ่ มาเน่ แบ็คซ้ายของเคตาเฟ่ ดึงเสื้อจนล้มลง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารด้วยขวาส่งบอลเบียดเสาเข้าไปให้ เรอัล มาดริด นำเร็ว 1-0 และเป็นประตูที่ 18 ของโรนัลโด้ ในลีก ขึ้นมานำเป็นดาวซัลโวเดี่ยวๆแล้ว
 
     จากนั้นเจ็ดนาที ทีมเยือนมาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย จ่ายบอลทะลุขึ้นหน้าให้กับ เมซุต โอซิล หลุดเข้าไปแตะหลบ จอร์ดี้ โกดีน่า นายทวารเคตาเฟ่ ก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้ายมุมแคบบอลเรียดเสียบเสาแรกงามหยดให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0 แล้ว เป็นประตูที่ 5 ของ โอซิล ในลา ลีกา ซีซั่นนี้
 
     เคตาเฟ่ ยังสู้อยู่มีลุ้นเหมือนกันในนาที 24 เมื่อ เปโดร รีออส เปิดบอลให้กับ นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู" สับไกยิงด้วยขวาติดเซฟของ อีเกร์ กาซิยาส นายด่านคนดังของเรอัล มาดริด
 
     กระนั้นก็ดี นาที 28 เจ้าบ้านไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ กาบิลัน จ่ายให้กับ ดาเนี่ยล ปาเรโฆ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวพลิ้วแหวกสองกองหลังของเรอัล มาดริด ที่ปิดช่องช้าเกินไป ก่อนจะหลุดเข้าไปปั่นด้วยขวาเสียบมุมซ้ายบนงามหยด นับเป็นการยิงทีมเก่าได้สำเร็จของปาเรโฆ และเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในลา ลีกา ซีซั่นนี้
 
     ข้ามมานาทีที่ 41 เรอัล น่าจะได้ประตูหนีห่างออกไปอีก เมื่อ โอซิล ตวัดขึ้นหน้าให้ เบนเซม่า หลุดไปทางซ้ายแล้วตบเข้ากลาง ทว่า โรนัลโด้ เข้าชาร์จบอลไม่ทันเลยชวดโอกาสพังประตูไป
 
     สองนาทีต่อมา ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ยิงไกลด้วยขวาบอลเข้ากรอบ แต่ จอร์ดี้ โกดีน่า นายทวารของเคตาเฟ่ ป้องกันได้ หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด บุกมานำ 2-1
 กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา ซามี่ เคดิร่า ลงมาเล่นแทน ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ส่วน เคตาเฟ่ ให้ ฮวน อัลบิน ดาวเตะชาวอุรุกวัย ลงมาเล่นแทน เปโดร รีออส ในนาที 48
 
     นาทีต่อมา เจ้าบ้านได้ลุ้นจากจังหวะที่ มานู เดล โมราล เปิดให้กับ กาบิลาน กดด้วยซ้ายไม่ผ่าน กาซียาส
 
     ราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สามหนีห่างออกไปในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ เบนเซม่า ไหลให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จิ้มเข้าไปให้เรอัล มาดริด นำ 3-1 และเป็นประตูที่สองของ โรนัลโด้ ในเกมนี้ อีกทั้งเป็นประตูที่ 19 ในลาลีกา ของเจ้าตัวแล้ว
 
     มาถึงนาทีที่ 66 ชุดขาว บุกตลอดโต้กลับเร็วขึ้นมาทาง ดิ มาเรีย ไหลให้กับ เบนเซม่า ไม่ยอมยิงจ่ายคืนมาให้กับ ดิ มาเรีย แตะบอลยาวเกินไปเลยไม่ได้ยิง โดน โกดีน่า ออกมาตัดไว้ได้
 
     ถัดมานาทีเดียว โรนัลโด้ ได้ลองส่องไกลด้วยขวา ทว่า จอร์ดี้ โกดีน่า ยังล้มตัวรับไว้ได้ตรงเสาแรก
 
     เกมของทีมเยือนเหนือกว่าครบวงจร โรนัลโด้ ไหลจากทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้กับ เบนเซม่า วิ่งสอดมากดด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียวในนาทีที่ 68
 
     เรอัล ได้ลุ้นต่อเนื่องในนาทีที่ 74 เมซุต โอซิล ยิงโค้งด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบไปชนิดได้ลุ้นทีเดียว
 
     เขยิบมาถึงนาที 75 ราชันชุดขาว ส่ง กาก้า กองกลางรูปหล่อชาวบราซิลที่เจ็บไปนานลงสนามแล้วถอด เบนเซม่า ออกมาพัก

     นาที 82 มาดริดเหลือ 10 คนเมื่ออัลบาโร่ อาร์เบลัว โดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

     ท้ายเกมนาที 85 เจ้าบ้านไล่มาเป็น 3-2 จาก ฮวน อัลบิน แต่ไม่ทันหมดเวลา เรอัล มาดริดเก็บชัยและสามแต้มเต็ม ไล่ตามหลัง บาร์เซโลน่า จ่าฝูงเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนเท่าเดิม
  
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม  
     เคตาเฟ่: จอร์ดี้ โกดีน่า - มิเกล ตอร์เรส โกเมซ, ดาเนียล "กาต้า" ดิอาซ, ราฟา โลเปซ, โฆเซ่ มาเน่ - ดาเนี่ยล ปาเรโฆ, ดีเร็ค บัวเต็ง - เปโดร ริออส, มานู เดล โมราล, ไคเม่ กาบิลาน - นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู" 
     สำรอง: ออสการ์ อุสตารี่ (ผู้รักษาประตู) - ปาโบล ปินโตส, อิบราฮิม คาส, เปโดร มอสเกร่า, ฟรานซิสโก้ กาสเกโร่, ฮวน อัลบิน, ฆาเบียร์ อริซเมนดี้ 
  
     เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, ราอูล อัลบิโอล, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ชาบี อลอนโซ่, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า- อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า 
     สำรอง: อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู) - เอสเตบัน กราเนโร่, ซามี่ เคดิร่า, กาก้า, เฟอร์นานโด กาโก้, เอเซเกล การาย, เปโดร เลออน  
  
     ผู้ตัดสิน: อุนเดียโน่ มาเยนโก้

     
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้รับการแสดงความยินดีจากเพื่อนหลังซัดประตูแรกของเกม

     สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

     -บียาร์เรอัล ชนะ อัลเมเรีย 2-0   

     -เรอัล ซาราโกซ่า ชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1  

     -แอตเลติโก มาดริด เสมอ ราซิ่ง ซานตานเดร์  0-0

     -เรอัล มายอร์ก้า ชนะ เอร์กูเลส 3-0 

     -คตาเฟ่ แพ้ เรอัล มาดริด 2-3