ยูเว่เจ๊งนาโปลียำเละ3-0มิลานเจ๊า4-4,งูใหญ่ซิว2-1
Posted 09/01/2011 by siamsport
"ม้าลาย" ยูเวนตุส บุกพ่าย "พาเธโนเป้" นาโปลี 0-3 นัดนี้ เอดินสัน คาวานี่ ตะบันคนเดียว 3 เม็ดพาทีมขึ้นรองฝูง เอซี มิลาน เจ๊า อูดิเนเซ่ สุดมันส์ 4-4 ยังรั้งฝูงทาง อินเตอร์ มิลาน บุกเฉือน คาตาเนีย หวิว 2-1 ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554
นาโปลี 3 - 0 ยูเวนตุส
สนาม : ซาน เปาโล
ศึกบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ นาโปลี เปิดบ้านรับมือ ยูเวนตุส โดยทีมเยือนส่ง ลูก้า โทนี่ หัวหอกป้ายแดง ประเดิมลงตัวจริงแทน ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ที่เจ็บหนักพักยาวทั้งซีซั่น
เริ่มเกมสู้กันสูสีทีเดียว กระทั่งนาที 20 นาโปลีนำก่อนจากจังหวะเข้าทำเร็ว คริสเตียน มาจโจ้ ครอสจากขวาเข้าหน้าประตูให้ เอดินสัน คาวานี่ โฉบโขกไร้ตัวประกบส่งบอลกระเด้งพื้นตุงตาข่าย 1-0
ให้หลังเพียง 3 นาที กองเชียร์ทีมเยือนเฮเก้อ ลูก้า โทนี่ โขกลูกเตะมุมเสียบตาข่ายแต่ไม่ได้ประตู เพราะมีจังหวะฟาวล์ใส่ มอร์แกน เด ซานช์ติส นายด่านเจ้าถิ่นไปก่อนแล้วนั่นเอง
พอมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ ทัพม้าลายก็โดนตอบโต้กลับเจ็บแสบ คราวนี้ อันเดรีย ดอสเซน่า ครอสจากซ้ายเข้าเสาไกล คาวานี่ เจ้าเก่า เทกตัวโขกเสียบโคนเสาไม่เหลือ 2-0 จากนั้นยูเว่บุกหนักแต่ยังหาช่องยิงไม่ได้ หมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เปิดฉากครึ่งหลัง ลุยจิ เดลเนรี่ กุนซือม้าลายรีบปรับหมากส่ง ฟาบิโอ กรอสโซ่ เล่นแบ็กซ้ายแทน อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ และเป็น กรอสโซ่ ใส่พานเกิอบได้ลูกตีเสมอให้ โทนี่ โขกจ่อๆ เต็มกบาล ทว่า เด ซานช์ติส กลับผวาพุ่งปัดออกหลังได้อย่างสุดยอดเหลือเชื่อ
กลายเป็น นาโปลี อาศัยจังหวะเข้าทำเด็ดขาดหนีห่างลูกสาม เอเซเกล ลาเวซซี่ แทงทะลุให้ มาเร็ค ฮัมซิค หยอดออกเสาไกล คาวานี่ ก้มโหม่งตัวแทบติดพื้นทั้งที่ง้างเท้ายิงก็ยังได้ ส่งบอลจมตาข่าย 3-0 ทำแฮตทริกสมบูรณ์แบบด้วยลูกโขกล้วนๆ พร้อมสะสมยอดพังสกอร์ 13 ลูกครองดาวซัลโวร่วมกับ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ของอูดิเนเซ่ อีกต่างหาก
ช่วงเวลาที่เหลือ ยูเว่ เดินหน้าบุกไม่ย่อท้อ เน้นพึ่งพาวางบอลจาก อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ที่ลงเป็นตัวสำรอง แต่จังหวะปิดทำยังไงก็ไม่เด็ดขาด จบเกม นาโปลี คว้าชัยสวยงาม 3-0 ขึ้นรองจ่าฝูงจี้กดดัน เอซี มิลาน เหลือเพียง 4 แต้มในช่วงครึ่งทางฤดูกาลพอดี
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นาโปลี : มอร์แกน เด ซานช์ติส - จานลูก้า กราว่า, เปาโล คันนาวาโร่, อูโก้ คัมปันญาโร่ - คริสเตียน มาจโจ้, วอลเตอร์ การ์กาโน่, มิเคเล่ ปาซิเอนซ่า, อันเดรีย ดอสเซน่า - มาเร็ค ฮัมซิค, เอเซเกล ลาเวซซี่ - เอดินสัน คาวานี่
สำรอง : เจนนาโร่ เยซโซ่, ซัลวาตอเร่ อโรนิก้า, นิโคเลา ดูมิตรู, ฮวน คามิโล่ ซุนญิก้า, ฮัสซัน เย็บดา, ซานเชซ คริบารี่, โฮเซ่ เอร์เนสโต้ โซซ่า
ยูเวนตุส : มาร์โก สโตรารี่ - ซเดเน็ค กรีเกร่า, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ - มิลอส คราซิช, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, ซิโมเน่ เปเป้ - อเมารี คาร์วัลโญ่, ลูก้า โทนี่
สำรอง : อเล็กซานเดอร์ แมนนิงเกอร์, มาร์โก ม็อตต้า, ฟาบิโอ กรอสโซ่, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, นิโกล่า เลกร็อตตาเย่, มานูเอล จานโดนาโต้, นิคโคโล่ จานเน็ตติ
ผู้ตัดสิน : เอมิดิโอ มอร์กานติ
ซามพ์โดเรีย 2 - โรม่า 1
ซามพ์โดเรียเจอศึกหนักด้วยการเปิดสตาดิโอ ลุยจิ แฟร์ราริส รอรับโรม่า โดยเจ้าถิ่นเลือกส่ง กุยโด้ มาริลุนโก้ ลงล่าตาข่ายกับ นิโกล่า ปอซซี่ ส่วน จามเปาโล ปาซซินี่ และ เฟเดริโก้ มาเคด้า มีชื่อเป็นเพียงสำรอง ขณะที่ทีมเยือนก็ดร็อป ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ไว้ข้างสนามเช่นกัน มี มาร์โก บอร์ริเอลโล่ กับ มีร์โก วูชินิช เป็นคู่กองหน้า
เริ่มเกมมา ''บลูแชร์คิอาตี้'' ได้ลุ้นก่อน อันเดรีย โปลี วางออกซ้ายให้ สเตฟาโน่ กูแบร์ติ ตวัดกลับเข้ากลางทันที ปอซซี่เข้าชาร์จที่เสาแรก บอลหลุดออกหลังไป
เป็น ''หมาป่าเหลือง-แดง'' ที่มาได้ประตูไปก่อนในนาทีที่ 17 จากจังหวะโต้กลับเร็วที่วูชินิชพาบอลขึ้นมาคนเดียวทางขวา ก่อนเลือกสับไกยิงทันที บอลพุ่งผ่านมือ จานลูก้า คูร์ชี่ เข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0
เจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา เรโต้ ซีกเลอร์ รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งเฉียวเสาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 36 ผู้มาเยือนต่อเกมกันขึ้นมาสวย เริ่มจาก เฌเรมี่ เมเนซ ที่กระชากหลบโปลี และ อันเจโล่ ปาลอมโบ ก่อนจ่ายให้วูชินิชที่แตะต่อมายัง บอร์ริเอลโล่ ยิงด้วยซ้าย แต่คูร์ชี่พุ่งซุเปอร์เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
จากนั้นเมเนซได้บอลทางซ้าย ก่อนล็อกเข้าในแล้วสับไกด้วยขวา ยังเป็นคูร์ชี่ที่พุ่งปัดออกหลังทัน
ท้ายครึ่งแรก ปาลอมโบ วางยาวให้มาริลุนโก้หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปยิงติดมือ ชูลิโอ แซร์โจ้ หวุดหวิด จบ 45 นาทีแรก โรม่าออกนำไปก่อน 1-0
ครึ่งหลัง เคลาดิโอ รานิเอรี่ จัดการถอด ฟิลิปป์ เม็กแซส ออก พร้อมกับส่งฮวนลงแทน
เปิดฉากมา 10 นาที กลับเป็นฮวนที่ส่งบอลคืนหลังไม่ดี ปาลอมโบฉกไปได้หลุดเดี่ยว ทำให้แซร์โจ้ต้องพุ่งทำฟาวล์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที พร้อมชักใบแดงไล่นายทวารชาวบราซิเลียนออกจากสนามด้วย รานิเอรี่เลือกถอด เมเนซ ออก และส่ง อเล็กซานเดอร์ โดนี่ ลงเฝ้าเสาแทน แต่ปอซซี่ยังรับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาด ช่วยให้ ''ลา ซามพ์'' ตามตีเสมอเป็น 1-1
ทีมเยือนตอบโต้ได้น่ากลัว บอร์ริเอลโล่โยนจากซ้ายไปเสาสองให้วูชินิชซัดหลุดกรอบไปแบบได้เสียว
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 82 วลาดิเมียร์ โคมัน จ่ายออกขวาให้ ลูชาโน่ ซาอูรี่ เติมขึ้นมา ก่อนเปิดเข้ากลาง และเป็น มาเคด้า ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง สะบัดศีรษะโหม่งหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม 2 นาทีต่อมา ซามพ์มาได้ประตูสมใจ เมื่อ ดานิเอเล่ มันนินี่ ตัวสำรอง โยนจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ ฮวน เตะสกัดพลาด ทำให้กูแบร์ติสอดเข้ามายิงลอดขาโดนี่ตุงตาข่าย ขึ้นนำ 2-1
นาทีที่ 87 ลูกทีมของ โดเมนิโก้ ดิ คาร์โล ต้องมาเหลือ 10 คนเหมือนกัน หลัง สเตฟาโน่ ลุคคินี่ ไปขวาง บอร์ริเอลโล่ ล้ม เชิ้ตดำชูใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
ช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นแค่ 9 คน เมื่อ ดานิเอเล่ กัสตัลเดลโล่ ไปจงใจทำแฮนด์บอล กรรมการชักใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไปอีกราย แต่โรม่าก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ จบเกม ซามพ์โดเรีย พลิกแซงกลับมาชนะหวุดหวิด 2-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ซามพ์โดเรีย : จานลูก้า คูร์ชี่; ลูชาโน่ ซาอูรี่, ดานิเอเล่ กัสตัลเดลโล่, สเตฟาโน่ ลุคคินี่, เรโต้ ซีกเลอร์; วลาดิเมียร์ โคมัน, อันเจโล่ ปาลอมโบ, อันเดรีย โปลี (ดานิเอเล่ มันนินี่ น.82), สเตฟาโน่ กูแบร์ติ; กุยโด้ มาริลุนโก้ (จามเปาโล ปาซซินี่ น.63), นิโกล่า ปอซซี่ (เฟเดริโก้ มาเคด้า น.77)
โรม่า : ชูลิโอ แซร์โจ้ (อเล็กซานเดอร์ โดนี่ น.62); มาร์โก คาสเซ็ตติ, ฟิลิปป์ เม็กแซส (ฮวน น.46), นิโกลัส บูร์ดิสโซ่, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่; เลอันโดร เกรโก้ (ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ น.90), มัตเตโอ บริกี, ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า; เฌเรมี่ เมเนซ; มาร์โก บอร์ริเอลโล่, มีร์โก วูชินิช
เอซี มิลาน 4 - 4 อูดิเนเซ่
สนาม : ซาน ซีโร่
เอซี มิลาน จ่าฝูงเซเรียอา เปิดรังต้อนรับ อูดิเนเซ่ เริ่มเกมเป็น "ปีศาจแดง-ดำ" มีลุ้นก่อนจากลูกเตะมุม อเล็กซานเดร ปาโต้ เก็บตกยิงเหินข้ามคานออกหลัง ถัดมา ลูก้า อันโตนินี่ เปิดให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช โหม่งต่อเข้าทาง โรบินโญ่ ซัดหลุดกรอบแค่นิดเดียว
เกมเปิดแลกสูสี กระทั่งนาที 35 ทีมเยือนนำก่อนเฉย โกคาน อินเลอร์ ยิงไกลชนเสาแต่ยังเข้าทาง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ โฉบซ้ำตามน้ำไม่พลาด 1-0
โดนแบบนี้เข้าไป มิลาน เร่งเครื่องรุกหนัก และมาตีเสมอได้สำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก่อนพักครึ่ง อิบราฮิโมวิช กระชากเข้าเขตโทษ ก่อนปาดเข้ากลางให้ ปาโต้ แปเผาขนไม่เหลือ หมดครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1
ลุยต่อครึ่งหลัง เจ้าถิ่นได้โอกาสทันที อิบราฮิโมวิช จ่ายให้ โรบินโญ่ หลุดไปยิงติดเซฟ ซามีร์ ฮันดาโนวิช ปัดออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม
กลายเป็น อูดิฯ พลิกขึ้นนำอีกรอบ ในนาทีที่ 53 จากชิลีคอนเน็คชั่น เมาริซิโอ อิสลา เปิดจากขวาให้ ซานเชซ โฉบโขกเสียบเสาแรก 2-1
แค่นั้นไม่พอ นาที 66 ทีมม้าลายน้อย หนีห่างเป็น 3-1 อินเลอร์ แย่งบอลได้จาก คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ก่อนจ่ายให้ ดิ นาตาเล่ หลุดเดี่ยวเข้าไปล็อกหนี ดานิเอเล่ โบเนร่า ก่อนแปเรียดเสียบเสาไกลเป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ พร้อมเพิ่มยอดพังสกอร์ 13 ลูกเข้าให้แล้วในลีกฤดูกาลนี้
มิลาน ยังไม่ย่อท้อเดินหน้าบุกหนัก นาที 78 ติอาโก้ ซิลวา เติมเกมสูงป้ายบอลเข้าเขตโทษ เมห์ดี้ เบนาเตีย โหม่งสกัดไม่ดีเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง ไล่มาเป็น 2-3
ถัดมาเพียง 4 นาที "รอสโซเนรี่" ตีเสมอเป็น 3-3 จนได้ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง จ่ายให้ ปาโต้ ล็อกเข้าซ้ายซัดผ่านมือ ฮันดาโนวิช ตุงตาข่าย พร้อมเป็นประตูที่สองในเกมนี้เช่นกัน
มิลานบุกหนักหวังแซงชนะ แต่โดนนำอีกแล้วก่อนจบเกมนาทีเดียว จากลูกสวนกลับเร็วที่ ซานเชซ ปาดเรียดเข้ากลางให้ เคร์มัน เดนิส ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ชาร์จสวนตัว มาร์โก อเมเลีย เสียบตาข่ายไม่เหลือ
อย่างไรก็ตาม ปีศาจแดง-ดำได้ประตูตีเสมออย่างเหลือเชื่อในช่วงทดเจ็บ คาสซาโน่ ทำชิ่งให้ อิบราฮิโมวิช ล็อกหลบ คริสเตียน ซาปาต้า ก่อนยิงจ่อๆ ไม่เหลือ จบเกมเสมอกันสุดมันส์ 4-4 ส่งผลให้ มิลาน นำโด่งจ่าฝูงต่อไป พร้อมคว้าแชมป์ครึ่งฤดูกาลแรกด้วย
คาตาเนีย 1 - อินเตอร์ มิลาน 2
"งูใหญ่" ของ เลโอนาร์โด้ ยกพบเยือน "ช้างศึก" โดยที่มี อันเดรีย ราน็อคเคีย กองหลังตัวใหม่นั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง แถม ซามูเอล เอโต้ พ้นโทษแบน ฟากเจ้าถิ่นนำทัพโดน มักซี่ โลเปซ
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมเดินหน้าแลกกันทันที และโอกาสแรกของเกมเป็นทีมเยือนโดย ไมค่อน ขึ้นมาทางกราบขวาก่อนหยอดเข้ามาหน้าประตู เดยัน สแตนโควิช วิ่งเข้ายิงกลางประตูเข้าซอง มาเรียโน่ อันดูยาร์
นาที 23 โอกาสเป็นของเจ้าถิ่นบ้างเมื่อ ชิโร่ คาปูอาโน่ จ่ายให้ คริสเตียน ลาม่า ลากเข้ามาซัดหน้ากรอบเขตโทษด้วยซ้าย แต่บอลโด่งข้ามคานออกหลัง
เกมเริ่มหนืดๆ ด้วยกันทั้งคู่จนทำให้หันมายิงไกล และเป็นเจ้าบ้านมีลุ้นก่อนเมื่อ ปาโบล อัลวาเรซ แบ็กขวาคาตาเนีย เติมขึ้นมายิงจาก 25 หลา ตรงตัว ลูก้า คาสเตลัซซี่
ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านมีจังหวะอีกเที่ยวเมื่อ ซิโมเน่ เปสเช่ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมก่อนส่องจากระยะเกือบ 30 หลา หลุดเสาสองออกหลัง จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง อินเตอร์ฯ มีโอกาสก่อนเมื่อ สแตนโกวิช จ่ายเข้าช่องให้ ดีเอโก้ มิลิโต้ พลิกยิงเต็มๆ ในเขตโทษ แต่ติดเซฟ คาสเตลัซซี่ ทุบออกมาได้หวุดหวิด
กลายเป็นว่าถึงนาที 71 เจ้าถิ่นพลิกนำหน้าตาเฉยเมื่อ อเลฆานโดร โกเมซ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมในเขตโทษก่อนหลบแนวรับทีมเยือนแล้วยิงด้วยขวาเสียบใต้คานเข้าไปเป็น 1-0
เจ้าถิ่นดีใจได้แค่ 3 นาทีเท่านั้น อินเตอร์ฯ ตามตีเสมอสำเร็จเมื่อ สแตนโกวิช กระชากเข้าเขตโทษก่อนปาดมาหน้าประตู เอสเตบาน กัมบิอาสโซ่ วิ่งเข้ามาแปด้วยขวาตีเสมอเป็น 1-1
เท่านั้นไม่พอก่อนจบเกม 11 นาที อินเตอร์ฯ มาแซงนำ 2-1 จากฮีโร่คนเดิม กัมบิอาสโซ่ ที่โถมเข้าโขกลูกโยนของ ดั๊กลาส ไมค่อน จมตาข่าย จบเกม อินเตอร์ฯ ของ เลโอนาร์โด้ ชนะเป็นเกมที่สองด้วยสกอร์ 2-1
ผลการแข่งขันฟุตบอลกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี
-ซามพ์โดเรีย ชนะ โรม่า 2 - 1
-เอซี มิลาน เสมอ อูดิเนเซ่ 4 - 4
-บารี่ แพ้ โบโลญญ่า 0 - 2
-คาตาเนีย แพ้ อินเตอร์ มิลาน 1 - 2
-เชเซน่า เสมอ เจนัว 0 - 0
-คิเอโว เสมอ ปาแลร์โม่ 0 - 0
-ฟิออเรนติน่า ชนะ เบรสชา 3 - 2
-ลาซิโอ แพ้ เลชเช่ 1 - 2
-ปาร์ม่า แพ้ กายารี่ 1 - 2
-นาโปลี ชนะ ยูเวนตุส 3-0
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แฉ!โรม่าเตรียมดึงคาร์เล็ตโต้กลับคุมทีม
"นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์" แท็บลอยด์จอมแฉ ประโคมข่าว "หมาป่าเหลือง-แดง" โรม่า เตรียมยื่นข้อเสนอให้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือเชลซี ย้ายมากุมบังเหียน และเป็นโอกาสอำลาถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบไม่เสียหน้า หลังจากยังพาทีมทำผลงานได้น่าผิดหวัง แต่ไม่โดน โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซีย ลงดาบเสียทีกัลเลียนี่ยันดินโญ่จ่อซบฟลาเมงโก้เต็มแก่
อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ ผู้บริหาร เอซี มิลาน ยัน โรนัลดินโญ่ ใกล้แปลงร่างเป็นนักเตะใหม่ ฟลาเมงโก้ เต็มแก่ หลังทั้ง 2 สโมสรบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้แล้ว ขณะที่ประธานทีมดังแห่งแดนกาแฟ เผยทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นได้ภายใน 2-3 วันนี้โทนี่สุดปลื้มได้ร่วมทัพม้าลายสมใจ
ลูก้า โทนี่ หัวหอกตัวใหม่ของ "ม้าลาย" ยูเวนตุส รับดีใจ และตื่นเต้นสุดๆ ที่ได้ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นโอลิมปิก ตูริน หลังจากต้องยอมปฏิเสธข้อเสนอค่าเหนื่อยที่สูงกว่าจากทีมอื่น โดยยืนยันจะช่วยทีมลุ้นถ้วยสคูเด็ตโต้จนถึงที่สุดในฤดูกาลนี้
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์