"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดรังทำศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ปะทะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เกมนี้เจ้าบ้านยังขาด สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ติดโทษแบนเป็นเกมที่ 2 แต่ยังมีเฟอร์นานโด ตอร์เรส นำทัพล่าตาข่าย ด้านทีมเยือนยังต้องไร้ ทิม เคฮิลล์ ดาวซัลโวประจำทีม ที่ติดภารกิจช่วยชาติ แต่ผู้เล่นหลักๆยังครบครัน ในศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554

ลิเวอร์พูล - เอฟเวอร์ตัน

สนาม : แอนฟิลด์
 

     หงส์แดง ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยภายใต้การนำของกุนซือ เคนนี่ ดัลกลิช หลังจากที่เริ่มต้นด้วยความพ่ายแพ้ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 ในศึก เอฟเอ คัพ ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ ก็ตามมาด้วยการออกไปโดน แบล็คพูล แซง 2-1 ในพรีเมียร์ลีก

     สำหรับการคุมทีม ลิเวอร์พูล ใน แอนฟิลด์ นัดแรก นับตั้งแต่หวนกลับมารับงานแบบสุดเซอร์ไพรส์ของ คิง เคนนี่ ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี เพราะนี่คือเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ครั้งที่ 215

     ถือว่า คิง เคนนี่ มีขุมกำลังชุดที่สมบูรณ์ทีเดียวให้เลือกใช้งานในการหวนคืนซุ้มม้านั่งใน แอนฟิลด์ เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี นอกเหนือไปจากกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ติดโทษแบน) และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ (เจ็บ)

    เจอร์ราร์ด กองกลางจอมพลังทีมชาติอังกฤษ โดนใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามในเกมแดงเดือด และ ต้องชดใช้โทษแบนเป็นนัดที่สองจากทั้งหมดสามนัด ส่วน คาร์ราเกอร์ กองหลังจอมเก๋า มีปัญหาเจ็บไหล่

     ในรายของกองกลาง โจ โคล หายเจ็บข้อเท้ากลับมาร่วมทีมอีกครั้งแล้ว ขณะที่แบ็กซ้าย ฟาบิโอ ออเรลิโอ ส่อแววได้ออกสตาร์ตตั้งแต่นาทีแรก หลังจากที่ได้เป็นแค่ผู้ชมในเกมกับ แบล็คพูล เช่นเดียวกับปีกซ้าย มักซี่ โรดริเกซ

     ดูเหมือนปัญหาใหญ่ของ ดัลกลิช จะอยู่ตรงที่เรื่องของ มาร์ติน เคลลี่ แบ็กขวาดาวรุ่งที่ทำผลงานได้ดีในสองนัดหลังสุด แต่อาจต้องเสียตำแหน่งให้ เกล็น จอห์นสัน ที่โดนโยกไปเล่นทางซ้ายในเกมกับ แบล็คพูล

     ''คิง เคนนี่'' เตรียมกำชับให้ลูกทีมเน้นเต็มที่ในเกมนี้ โดยแดนหน้ามีดาวยิงตัวเก่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่กะซวกตาข่ายได้ในนัดที่แล้วเป็นตัวความหวัง 

    ฝ่าย ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ของกุนซือชาวสกอตติช เดวิด มอยส์ หวังให้ลูกทีมรักษามาตรฐานผลงานนัดล่าสุดที่บุกถล่ม สคันธอร์ป 5-1 ใน เอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วต่อไป

     อย่างไรก็ตาม สำหรับเกม เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 215 วันอาทิตย์นี้ กุนซือไฟแรง ยังทำท่าต้องอดใช้บริการ ฟิล จากีลก้า กองหลังทีมชาติอังกฤษที่พลาดการช่วยทีมมาแล้วถึงสามจากสี่เกมหลังสุด เพราะเจ็บต้นขา และยังไม่ฟิตเต็มร้อย

    ในส่วนของขุมกำลังอื่นๆ ถือว่า มอยส์ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติมให้ขบคิด แม้ยังต้องไร้ ทิม เคฮิลล์ ดาวซัลโวประจำทีมที่ติดภารกิจช่วยทีมชาติออสเตรเลียใน เอเชียน คัพ ก็ตาม

   มอยส์ คาดหวังว่า จะสามารถใช้งาน สตีเว่น พีนาร์ ได้ แม้มิดฟิลด์ทีมชาติแอฟริกาใต้ จะได้รับไฟเขียวให้เจรจาเรื่องการย้ายทีมได้ แต่สำหรับ ไอเย็กเบนี่ ยาคูบู ถูกปล่อยให้ เลสเตอร์ ยืมเรียบร้อย

    มอยส์ เตรียมยึดขุนพลชุดที่เปิดบ้านซัด สเปอร์ส 2-1 เป็นแกนหลัก แต่เตรียมปรับระบบจาก 4-4-2 เป็น 4-4-1-1 เพื่อเน้นความรัดกุม โดยมี หลุยส์ ซาฮา รับบทตัวเป้า ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า, ฟิล เนวิลล์ และ แจ็ค ร็อดเวลล์ ที่ได้พักในเกม เอฟเอ คัพ พร้อมหวนคืนทีมอีกครั้ง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
 

   ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน (มาร์ติน เคลลี่), แดน แอ็กเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - คริสเตียน โพลเซ่น, ลูคัส เลวา - เดิร์ค เค้าท์, ราอูล เมยเลเรส, มักซี่ โรดริเกซ - เฟร์นานโด ตอร์เรส

      เอฟเวอร์ตัน (4-4-1-1) : ทิม ฮาวเวิร์ด - ฟิล เนวิลล์, จอห์นนี่ ไฮติงก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ - เชมัส โคลแมน, มิเกล อาร์เตต้า, แจ็ค ร็อดเวลล์, สตีเว่น พีนาร์ (ลีออน ออสแมน) - มารูยาน เฟลไลนี่ - หลุยส์ ซาฮา 

   ผู้ตัดสิน : ฟิลิป ดาวด์ 

เคนนี่กระตุ้นหงส์อัดทอฟฟี่เรียกความมั่นใจ

     เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ออกมากระตุ้นบรรดาลูกทีม ให้เก็บชัยชนะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์สุดสำคัญ ที่ทัพ "หงส์แดง" มีคิวเปิดรัง แอนฟิลด์ ทำศึก "เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้" กับ เอฟเวอร์ตัน สโมสรคู่ปรับร่วมเมือง วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้ เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา หลังจากที่มีผลงานย่ำแย่มาตลอดทั้งฤดูกาลนี้

      ดลกลิช กล่าวว่า "มันจะต้องเป็นเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ร่วมอย่างแน่นอน แต่มันก็เหมือนกับเกมเมื่อฤดูกาลก่อนอยู่ดีนั่นแหละ แต่คราวนี้มันแตกต่างนิดหน่อย เพราะครั้งนี้ ผมได้นั่งชิดขอบสนามมากขึ้น เมื่อเราเริ่มเก็บชัยชนะได้ มันก็จะช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นทันทีเลย"

     "แน่นอน เราจะต้องทำผิดพลาดบ้างอีกนั่นแหละ และเราก็จะพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านี้อีกเช่นกัน แต่มันก็อยู่ที่ตัวบรรดานักเตะเองนั่นแหละที่จะกำหนดว่า เราจะกลับมาได้เร็วแค่ไหน และวิธีที่จะทำแบบนั้นให้สำเร็จก็คือ ต้องเริ่มเก็บชัยชนะให้ได้" ตำนานตัวจริงแห่งค่าย ลิเวอร์พูล วัย 59 ปี เอ่ย 

เจ้าของร้านค้าเผยยอดขายดีเพราะเคนนี่

     ขณะที่ ปีเตอร์ พาวเวลล์ ผู้ช่วยผู้จัดการร้านขายสินค้าที่ระลึกประจำสโมสร ซึ่งตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองลิเวอร์พูล ยอมรับว่า บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกตื่นตัวเป็นอย่างมากกับการกลับมาของ "คิงเคนนี่"

     "ภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังมีข่าวแต่งตั้ง ดัลกลิช ขึ้นมาคุมทีม ก็เริ่มมีผู้คนเข้ามาในร้าน และสอบถามถึงสินค้าที่เกี่ยวกับ ดัลกลิช ทันที"

    "อย่างสินค้าเหล่านี้ที่เพิ่งเข้ามาถึงในวันนี้ (วันศุกร์) ก็เป็นเพราะความต้องการของบรรดาแฟนบอลที่มีเยอะมากๆ นั่นเอง" พาวเวลล์ ตบท้าย ก่อนชี้นิ้วไปที่ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ภายในร้าน ซึ่งเน้นนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ดัลกลิช อย่างเช่น เหยือกน้ำ, แผ่นรองเม้าส์ และเสื้อยืดที่พิมพ์ข้อความว่า "The King is back" (คิงเคนนี่ กลับมาแล้ว)

 
มอยส์หวังทอฟฟี่ล้างสถิติบุกตบหงส์

       เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน  หวังที่นำทีมหยุดสถิติไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้เลยในการเล่นถิ่นแอนฟิลด์ จากการพบกัน 9 ครั้งล่าสุด ได้สำเร็จ ในเกมดาร์บี้แมตช์ วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้

     มอยส์ กล่าวว่า "พวกเราทำผลงานได้ดีเมื่อพบกับทีมที่ใหญ่กว่า และก็หวังว่าเราสามารถจะทำได้ในเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล ความแตกต่างระหว่างสองทีมมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่พวกเราก็ทำผลงานได้ค่อนข้างดีเมื่อพบกับ ลิเวอร์พูล พวกเราพยายามจะเล่นให้ดี และช่วงห่างก็น่าจะใกล้เข้ามาแล้วในตอนนี้ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"

    "ทั้งสองทีมน่าจะไม่ค่อยพอใจกับอันดับในตารางลีกของพวกเขามากสัก เท่าใด แน่นอนว่าเราไม่พอใจเลย พวกเราต้องการที่จะเดินทางไปที่นั่น และพยายามเก็บแต้มมาให้ได้ พวกเราไม่ชนะในเกมดาร์บี้มามากพอแล้ว แต่ก็หวังที่จะเปลี่ยนมันได้"

ซันเดอร์แลนด์ - นิวคาสเซิ่ล

สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์
   
  แม้จะโดน น็อตต์ส เคาน์ตี้ บุกถีบตกรอบสาม เอฟเอ คัพ 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ แมวดำ ของกุนซือ สตีฟ บรูซ ก็มีผลงานในพรีเมียร์ลีก ที่ร้ายกาจทีเดียวเมื่อชนะสองนัดติดต่อกันเหนือ แบล็คเบิร์น และ แอสตัน วิลล่า

      บรูซ กำลังภาวนาให้กัปตันทีม ลี แคตเทอร์โมล และกองหน้า แดนนี่ เวลเบ็ค ฟิตพอช่วยทีมได้ โดย แคตเทอร์โมล กองกลางจอมลุย ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ให้พักแข้งเพื่อให้อาการเจ็บหลังบรรเทา และกุนซือ ''แมวดำ'' ประเมินโอกาสในการเล่นเกมนี้ของเจ้าตัวไว้ที่ 50-50 

    ส่วน เวลเบ็ค หัวหอกที่ยืมมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกวินิจฉัยในเบื้องต้นว่า ต้องหยุดเล่นสามสัปดาห์จากอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าที่ได้รับจากเกมกับ วิลล่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม ก็ยังไม่แน่ว่า จะลงสนามได้เช่นกัน

      ในรายของแบ็กขวา เนดุม โอนูโอฮา ที่ยืมมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด น่าสลัดอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทิ้งได้ทัน ส่วนกองกลางจอมเก๋า โบโล่ เซนเด้น ก็พ้นโทษแบนเรียบร้อย แต่ดาวรุ่ง เดวิด เมย์เลอร์ จะต้องพักราว 10 สัปดาห์ หลังเอ็นหลังหัวเข่าพังที่ วิลล่า

     ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ (หัวเข่า) หมดสิทธิ์แน่ และ จอห์น เมนซาห์ (ข้อเท้า) ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นได้แค่ผู้ชมอีกครั้ง ขณะที่ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (หัวเข่า) ยังต้องฟื้นฟูร่างกาย

     บรูซซี่ พร้อมจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนามหวังชำระแค้นให้ได้ นำโดย เวลเบ็ค กับ ดาร์เรน เบนท์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ขณะที่ กียาน อซาโมอาห์ เป็นตัวสอดแทรก

     ขณะที่ ''สาลิกาดง'' ภายใต้การนำของกุนซือใหม่ อลัน พาร์ดิว หวังเรียกศรัทธาคืนกลับมาจากแฟนๆ ให้ได้ หลังจากที่ออกไปโดน สตีฟเนจ ต้อน 3-1 ใน เอฟเอ คัพ สัปดาห์ก่อน

     ความพร้อมล่าสุดก่อนศึกนอร์ทอีสต์ดาร์บี้นัดนี้ พาร์ดิว ยังอดใช้บริการ แอนดี้ คาร์โรลล์ ดาวยิงตัวเก่ง โดยกุนซือ ''สาลิกาดง'' เปิดเผยว่า สตาร์วัย 22 จะไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ด้วย แม้ได้เดินทางไปฟื้นฟูสภาพต้นขาที่ ดูไบ ในช่วงหนีหนาวมาแล้ว

      นั่นหมายความว่า คาร์โรลล์ จะต้องพักแข้งเช่นเดียวกับ ชีค ติโอเต้ กองกลางผิวหมึก ที่ต้องเริ่มต้นโทษแบนสามนัด เท่ากับว่า สาลิกาดง จะต้องขาดสองแข้งคีย์แมนไปพร้อมๆ กันในศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

      อย่างไรก็ตาม โฆเซ่ เอ็นริเก้ (ป่วย), สตีเว่น เทย์เลอร์ (เอ็นหลังหัวเข่า), โฮนาส กูเตียร์เรซ (ขา) และ โชล่า อเมโอบี้ (ข้อเท้า) น่าพร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้ง ขณะที่มิดฟิลด์ แดน กอสลิ่ง จะถูกบรรจุชื่อไว้ในทีมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่หายเจ็บหัวเข่าที่ติดตัวมาจาก เอฟเวอร์ตัน เมื่อซัมเมอร์

     โซล แคมป์เบลล์ (ขา), ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (ขาหัก) และ ไรอัน เทย์เลอร์ (เอ็นข้อเท้า) ยังคงเดี้ยง โดย พาร์ดิว เตรียมระดมดาวดังจากชุดที่ถล่ม เวสต์แฮม 5-0 คืนทัพอีกครั้ง หลังจากที่ดร็อปไปหลายคนในเกม เอฟเอ คัพ 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     ซันเดอร์แลนด์ (4-4-2) : เคร็ก กอร์ดอน - เนดุม โอนูโอฮา, ไตตัส บรัมเบิ้ล, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ - อาเหม็ด เอล-มูฮัมมาดี้, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลี แคตเทอร์โมล (สตีด มาลบร็องก์), คีแรน ริชาร์ดสัน - แดนนี่ เวลเบ็ค, ดาร์เรน เบนท์

      นิวคาสเซิ่ล (4-4-2) : สตีฟ ฮาร์เปอร์ - แดนนี่ ซิมพ์สัน, สตีเว่น เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - โจอี้ บาร์ตัน, อลัน สมิธ, เควิน โนแลน, โฮนาส กูเตียร์เรซ - ลีออน เบสต์, โชล่า อเมโอบี้

พาร์ดิวมึน! คาร์โรลล์พักอีก 2 สัปดาห์

       อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยอมรับว่ารู้สึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อยที่ แอนดี้ คาร์โรลล์ คงจะไม่พร้อมลงเล่นต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ภายหลังนักเตะจะหมดสิทธิ์ลงเล่นนัดดาร์บี้แมตช์ กับ ซันเดอร์แลนด์ ในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้ เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บที่ต้นขา

     พาร์ดิว กล่าวว่า ''แอนดี้ จะไม่ได้ลงเล่น เขายังไม่ได้เข้าใกล้ความจริงเลย เราแค่จำเป็นต้องดูแลเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ตลอด 2 สัปดาห์ข้างหน้า และก็หวังว่าเขาจะกลับมาพร้อมอีกครั้งเมื่อถึงตอนนั้น อาการบาดเจ็บของเขาค่อนข้างแย่ลงไปกว่าเดิมที่เราคาดเอาไว้ มันเป็นอาการบาดเจ็บที่ต้นขา กล้ามเนื้อบริเวณที่ใช้เตะ และคุณก็ไม่อาจทำให้เกิดโอกาสให้มันฉีกขาดได้ แน่นอนว่าเขาหมดสิทธิ์ลงเล่นวันอาทิตย์นี้ และก็น่าจะหมดโอกาสกับเกมที่เจอกับ สเปอร์ส (วันเสาร์ที่ 22 มกราคม) ด้วย''

     ทั้งนี้ คาร์โรลล์ ยิงไปแล้ว 11 ประตูในเกมลีกฤดูกาลนี้ แต่ไม่ได้ลงเล่นตั้งแต่นัดพ่ายต่อ ไก่เดือยทอง 0-2 เมื่อวันอังคารที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทว่าจากการขาดหายไปของดาวยิงวัย 22 ปี ก็มีนักเตะอย่าง ลีออน เบสต์ กองหน้าที่สร้างความประทับใจให้กับ พาร์ดิว ด้วยการได้รับโอกาสลงเล่นและซัด 3 ประตูในเกมลีกนัดที่ถล่ม เวสต์แฮม 5-0 เมื่อวันพุธที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่ ''เดอะ แม็กพายส์'' จะมาทำผลงานสุดห่วยพ่ายต่อ สตีฟเนจ 1-3 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา

 โปรแกรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19.00 น. เบอร์มิงแฮม - แอสตัน วิลล่า 
19.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - นิวคาสเซิ่ล 
21.05 น. ลิเวอร์พูล - เอฟเวอร์ตัน 
23.10 น. สเปอร์ส - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด