"ศึกดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์" ระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะเปิดบ้านรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผีแดงเตรียมส่ง เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ล่าตาข่ายเช่นเดิม ด้านเรือใบ ไม่น้อยหน้าจัด คาร์ลอส เตเวซ กับ เอดิน เซโก้ ลงฉะหวังตะบันเก็บชัยเพื่อเบียดลุ้นแชมป์ลีกผู้ดีเช่นกัน

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554

แมนฯ ยูไนเต็ด - แมนฯ ซิตี้

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีศาจแดง ไม่มีทางเลือกตำแหน่งคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เพราะ ริโอ เฟอร์ดินานด์ (น่อง) กับ จอนนี่ อีแวนส์ (ข้อเท้า) บาดเจ็บ ทำให้ คริส สมอลลิ่ง ต้องจับคู่ เนมานย่า วิดิช ที่ได้รับอนุญาติไม่ต้องลงสนามในเกมทีมชาติ

      ปัญหาเจ็บน่องของ เฟอร์ดินานด์ คาดว่าต้องพัก 2 สัปดาห์ ทำให้ต้องลุ้นว่าจะฟิตทันเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ มาร์กเซย วันที่ 23 กุมภาพันธ์หรือไม่ ขณะที่ อีแวนส์ ก็เจ็บข้อเท้าถอนตัวจากทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ

     ตำแหน่งอื่นๆ ไม่น่าปรับเปลี่ยน ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ เป็นนักเตะคนสุดท้ายที่รับใช้ชาติแล้วกลับสู่ทีม หลังเดินทางไกลไปรับใช้ทีมชาติเม็กซิโก ลงเตะอุ่นเครื่องกับ บอสเนีย ที่สหรัฐอเมริกา

     ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เฝ้าเสา แนวรับใช้ ราฟาเอล ดา ซิลวา, คริส สมอลลิ่ง, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี นานี่, พอล สโคลส์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน คู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

     ด้าน โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ เรือใบสีฟ้า อาจจะไม่มี ไนเจล เดอ ย็อง กองกลางตัวรับชาวดัตช์ต่ออีกนัด หลังจากบาดเจ็บข้อเท้า ต้องรอทดสอบความฟิต

     อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวอิตาเลียนจะได้ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กองหลังสารพัดประโยชน์ หายเจ็บข้อเท้ากลับมาสู่ทีม

     ในราย มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าอิตาเลียน กำลังเรียกความฟิตอย่างหนักจากอาการบาดเจ็บเข่าที่พักยาวถึง 4 สัปดาห์ อาจมีชื่ออยู่ในทีมด้วย

     แดนหน้า เอดิน เซโก้ ดาวยิงค่าตัวแพง จะกลับมาเป็นตัวจริง หลังจากไม่มีชื่อร่วมทัพ บอสเนีย ไปเตะอุ่นเครื่องกับ เม็กซิโก ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพุธ

     ระบบการเล่น 4-3-3 โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แผงหลังใช้ ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แดนกลางมี เจมส์ มิลเนอร์, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่ แดนหน้าใช้ ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ, เอดิน เซโก้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, คริส สมอลลิ่ง, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - นานี่, พอล สโคลส์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

     แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - เจมส์ มิลเนอร์, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่ - ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ, เอดิน เซโก้

     ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม
                      แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ       เสมอ           แมนฯ ซิตี้ ชนะ
ลีก                             57                         49                  37
เอฟเอคัพ                    4                           0                    2
ลีกคัพ                         2                           1                    3
อื่นๆ                            1                           0                    0
รวม                           64                          50                  42

ผีแกร่งชนะเรือ 4 จาก 5 นัด

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผลงานเหนือกว่าคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก "ปีศาจแดง" ไม่แพ้ "เรือใบสีฟ้า" 5 นัดติดต่อกันแล้ว แถมยังเก็บชัยชนะถึง 4 นัดด้วยกัน และซิตี้ ก็ล้มเหลวในการยิงประตู ยูไนเต็ด 4 จาก 5 นัดดังกล่าวด้วย

     ตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 เป็นต้นมา ยูไนเต็ด กวาดชัยชนะเกมลีกทั้งเหย้าและเยือนมาติดต่อกันสองฤดูกาลแล้ว มี เพียงฤดูกาลนี้ที่เสมอกันแบบไม่มีประตูเกิดขึ้นที่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว

     นอกจากนี้ การมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ ซิตี้ ยังทำได้ย่ำแย่ตลอด 26 นัดหลังสุด นับเฉพาะเกมลีก "เรือใบสีฟ้า" บุกชนะได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในปี 2008 ด้วยสกอร์ 2-1

เผยสถิติเตเวซสุดอันตราย

     ความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฝากความหวังเอาไว้ที่ คาร์ลอส เตเวซ อย่างเต็มที่ เพราะ ซิตี้ ไม่แพ้ในลีก 25 นัดที่ดาวยิงอาร์เจนไตน์ยิงประตูได้ แถมยังเป็นชัยชนะมากถึง 23 นัดด้วย

     สถิติดังกล่าวทำให้แฟนบอลซิตี้ใจชื้นได้ทุกครั้งที่ เตเวซ ซัลโวประตูได้ เพราะทีมไม่พบความปราชัยมา 25 นัดแล้ว เป็นชัยชนะมากถึง 23 นัด และอีก 2 นัดได้รับผลเสมอ

     นอกจากนี้ เตเวซ ยังมีผลงานอันยอดเยี่ยมในการพบกับทีมเก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อจัดการยิง 4 ประตู จากการพบกัน 6 นัดหลังสุด รวมทุกรายการ

เซอร์ยันส่งสมอลลิ่งคุมหลังชนเรือ

     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่า ตนเตรียมส่ง คริส สมอลลิ่ง ปราการหลังดาวรุ่ง ลงเป็นตัวจริงในเกมลีกที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 12 ก.พ.นี้ แทนที่ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่มีอาการบาดเจ็บระหว่างการอบอุ่นร่างกายก่อนเกมที่ "ปีศาจแดง" บุกพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

     กุนซือวัย 69 เผยระหว่างการแถลงข่าวเมื่อ 11 ก.พ. ว่า "เขา (เฟอร์ดินานด์) จะหมดสิทธิ์ลงสนามประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วน จอนนี่ อีแวนส์ ก็ได้รับบาดเจ็บระหว่างการซ้อมกับ ไอร์แลนด์เหนือ ดังนั้น เขาจึงหมดสิทธิ์ลงเล่น และดาวรุ่งอย่าง คริส สมอลลิ่ง จะได้ลงเล่นในวันพรุ่งนี้"

     ขณะเดียวกัน นายใหญ่ "เร้ด เดวิลส์" หวังนำลูกทีมเก็บชัยชนะเหนือ "เรือใบสีฟ้า" ในเกมดาร์บี้แมตช์วันเสาร์นี้ เพื่อทำคะแนนทิ้งห่างรองจ่าฝูง 7 คะแนน ก่อนที่ อาร์เซน่อล จะลงสนามตามมาในวันเดียวกัน "พรุ่งนี้จะมีเกมที่สำคัญ เพราะเราทำผลงานได้ดีในซีซั่นนี้ คุณไม่มีทางที่จะได้เจอกับดาร์บี้แมตช์ที่ง่าย แต่ผมก็จะลงสนามไปด้วยความมั่นใจที่ดีเนื่องจากฟอร์มการเล่นในบ้านของเรา"

ชี้ใครพลาดน้อยกว่าคว้าแชมป์ชัวร์

     นอกจากนี้ เฟอร์กี้ เชื่อว่าทีมที่มีฟอร์มการเล่นสม่ำเสมอ และทำคะแนนตกหล่นน้อยที่สุดในช่วงท้ายซีซั่น จะเป็นฝ่ายเข้าวินคว้าแชมป์ลีกสูดของเมืองผู้ดีไปครองในปีนี้ หลังจากทุกทีมต่างก็ประสบกับความปราชัยไปหมดแล้ว

     "คุณได้ประสบกับความพ่ายแพ้ในศึกพรีเมียร์ลีกไปแล้ว และการชิงชัยในช่วงท้ายฤดูกาลก็จะมีทีมที่ทำคะแนนตกหล่น ใครก็ตามที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอที่สุดก็จะคว้าแชมป์ลีกไปครอง" เฟอร์กี้ กล่าว

     สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ปัจจุบันยังคงรั้งอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของตาราง โดยมีแต้มนำ "เดอะ กันเนอร์ส" และ แมนฯ ซิตี้ อยู่ 4 และ 5 คะแนน ตามลำดับ

แพล็ตต์รับผียังจ่อแชมป์แม้อาจพ่ายเรือ

     เดวิด แพล็ตต์ โค้ชทีมชุดใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงเตือนบรรดาลูกทีม แม้จะสามารถบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริร่วมเมือง ได้ในวันเสาร์ที่ 12 ก.พ.นี้ ก็อย่าหวังว่า "ปีศาจแดง" จะยอมแพ้ และหมดหวังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองแต่อย่างใด

     "เร้ด เดวิลส์" เพิ่งแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการปราชัยครั้งแรกในเกมลีกซีซั่นนี้ และหากพ่าย "เรือใบสีฟ้า" คาบ้านตัวเองในวันเสาร์นี้ ก็อาจทำให้เกิดวิกฤตขึ้นได้ อย่างไรก็ดี อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

     แพล็ตต์ กล่าวผ่านหนังสือพิมพ์ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ ว่า "พวกเราไม่สามารถไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จากนั้นก็เอาชนะ แล้วก็หวังให้ทีมที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อความกดดันตลอด 10-12 ปีใน พรีเมียร์ลีก จะถอดใจไปเอง พวกเราควรหวังทำในสิ่งที่พวกเราสามารถควบคุมเอาไว้ได้ ซึ่งคือการเอาชนะเกมฟุตบอลทุกแมตช์ที่ลงสนามตั้งแต่ตอนนี้จนจบฤดูกาล"

     "มันเป็นเรื่องยาก แต่คุณต้องลงสนามไปแต่ละเกมที่ผ่านเข้ามา และเริ่มต้นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หากพวกเราสามารถคว้า 3 คะแนนมาได้ พวกเราก็จะได้คะแนนสำคัญกลับออกมา แต่พวกเราไม่สามารถมองข้ามไปไกลได้  และเมื่อคิดถึงภายในห้องแต่งตัว ด้วยประสบการณ์ที่มี ด้วยแชมป์ที่ได้มา มันจะไม่ทำให้พวกเขายอมแพ้ เพียงเพราะว่าแพ้แค่เกมเดียวหรอก"

     "พวกเรากำลังรอคอยเกมนี้ เรายังเหลืออีก 12 เกม และการไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยความคิดที่ว่า พวกเราสามารถเอาชนะได้ มันเป็นเกมใหญ่ และมีความตึงเครียดตลอดสัปดาห์ แต่ที่สุดแล้ว มันก็เป็นเพียง 3 คะแนน และจะต้องเดินหน้าต่อไปตามหนทางของเรา เราจะไม่พูดถึงแต่เพียงในแง่ที่ว่า มันเป็นเกมดาร์บี้แมตช์ มันเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งเกมจากที่เหลือ ซึ่งพวกเราต้องเก็บ 3 คะแนนมาให้ได้ หากต้องการประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเราต้องการ"

ยาย่าเชื่อเกมดวลผีเป็นตัววัดแชมป์

     ยาย่า ตูเร่ กองกลางทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่าเกมดาร์บี้แมตช์ระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันเสาร์ที่ 12 ก.พ.นี้ จะเป็นแมตช์ชี้วัดแชมป์ของฤดูกาลนี้ได้เลย

     ยาย่า กล่าวว่า "สำหรับเรา เกมดาร์บี้นัดนี้มันเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสมเหลือเกิน ชัยชนะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มันจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก และมันแสดงให้เห็นว่าเราสามารถสู้เพื่อการเป็นแชมป์ได้ ยูไนเต็ด ได้เปรียบกับการเล่นในบ้าน แต่เกมเช่นนี้ทีมไหนก็มีโอกาสชนะได้ ผมสามารถเอาชนะ ยูไนเต็ด ได้ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่ บาร์เซโลน่า และตอนนี้ผมฝันที่จะทำให้ได้อีกครั้ง"

     "ทว่าการได้ 3 แต้มนี้มันสำคัญมาก และสภาพจิตใจของเราพร้อม บางทีจากความพ่ายแพ้ของพวกเขา (ต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส) อาจจะส่งผลกระทบและทำให้เราได้สร้างโอกาสและยิงประตูได้ มันคงจะเป็นเกมที่หนัก แต่เราก็มองไปที่การได้ 3 แต้ม ไม่ใช่แค่แต้มเดียว"

     "คาร์ลอส เตเวซ กำลังซ้อมอย่างหนัก และกับการจับตามองจากทั่วโลกในเกมนี้ เขาต้องการที่จะเป็นดาวเด่น มันอาจจะเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดของฤดูกาล แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นงานที่ง่ายเลยกับการเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่พวกเราก็เชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่เราจะประสบความสำเร็จ เราตั้งใจที่จะขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของตารางให้ได้" อดีตมิดฟิลด์บาร์เซโลน่า ระบุ

โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19.45 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - แมนฯ ซิตี้ 
22.00 น. อาร์เซน่อล - วูล์ฟแฮมป์ตัน 
22.00 น. เบอร์มิงแฮม - สโต๊ค ซิตี้  
22.00 น. แบล็คเบิร์น - นิวคาสเซิ่ล 
22.00 น. แบล็คพูล - แอสตัน วิลล่า 
22.00 น. ลิเวอร์พูล - วีแกน 
22.00 น. เวสต์บรอมวิช - เวสต์แฮม  
00.30 น. ซันเดอร์แลนด์ - สเปอร์ส