เป็นกระแสตอกย้ำความหวานของคู่รักอย่างนางเอกที่รุ่งที่สุดแห่งยุค ''พลอย'' เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และหนุ่มหล่อดีกรีด็อกเตอร์อย่าง ''ต้าร์'' นาวิน เยาวพลกุล เพราะทั้งคู่ได้ออกมารับงานถ่ายแฟชั่นคู่ให้กับนิตยสารอิน ทำเอาหลายคนเกิดอาการตาร้อนผ่าว อิจฉาถึงความหวานและน่ารักของทั้งสองคนเหลือเกิน

 
และเพราะการรับงานคู่ครั้งนี้เป็นงานที่ทั้งสองคนร่วมงานกันครั้งแรกเลยมีกระแสข่าวตามมาว่าทั้งคู่ควงกันออกมาทำงานเพื่ออัพค่าตัว แหม...โดนกล่าวหาแบบนี้ พลอย-ต้าร์จะชี้แจงว่าไงเนี่ย
 
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้นทั้งสาวพลอยและหนุ่มต้าร์ก็ได้เดินทางมาร่วมงานของนิตยาสารดังกล่าว ณ ลานพาร์ค พารากอน ผู้สื่อข่าวของเราจึงไม่พลาดที่จะไปซักถามถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานกันในครั้งนี้ รวมทั้งมีคำตอบของกระแสข่าวเม้าท์มาเฉลยให้ฟังอีกด้วย
 
ถามถึงงานของการถ่ายปกคู่รักครั้งนี้นิดนึง รู้สึกยังไงบ้างที่ได้มาทำงานร่วมกัน
ต้าร์ : ก็อืม เราก็เป็นในแบบของเราเนาะ ผมเองก็ธรรมชาติของผม แล้วพลอยเองก็เป็นในแบบของเค้า ก็การที่มาทำงานกับพลอยแบบนี้จริงๆ แล้วก็เป็นครั้งแรกเลย ก็รู้สึกดีใจนะครับ คือปกติแล้วก่อนที่เค้าจะไปทำงานเค้าก็จะบอกลาผมว่า อืม ...ไปทำงานแล้วนะ แล้ววันนั้นก็เป็นวันแรกที่เราไปทำงานด้วยกัน
 
พลอยล่ะรู้สึกยังไงบ้าง มีเขินบ้างไหม?
พลอย :  เขินตรงที่ต้องมาทำสวีตต่อหน้าคนอื่นนี่แหละ แต่ว่าพี่จอร์จตากล้องนี่พลอยก็คุ้นเคยร่วมงานมานานมากตั้งแต่พลอยอายุ 14 น่ะ แล้วทีมงานเองเราก็รู้จักกันก็เลย อืม สบายๆ ในการทำงานค่ะ
 
พอทั้งคู่ได้เห็นภาพแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
ต้าร์ : ชอบครับ คือตั้งแต่แรกที่ได้เห็นในมอนิเตอร์ก็รู้สึกว่าชอบเลย คือพี่จอร์จเนี่ยเค้าถ่ายรูปให้ผมตั้งแต่ นาวิน ต้าร์ ชุดแรกเลยนะ ก็นานมากๆ แล้วอ่ะครับ (หัวเราะร่วน)
พูดถึงกันในฐานะของนางแบบนายแบบหน่อยได้ไหม ว่านางแบบคนนี้เป็นยังไงบ้างกับการที่เราได้มาร่วมงานด้วยกัน
ต้าร์ :ก็รักคนนี้อ่ะครับ
 
แล้วพลอยล่ะ นายแบบคนนี้โอเคหรือเปล่า หลังจากที่เคยร่วมงานกับนายแบบมาหลายคนแล้ว
พลอย : โอเคเลย โอเคมาก  น่ารัก
 
แบบนี้จะมีการถ่ายแบบร่วมกันแบบนี้ออกมาอีกไหม?
พลอย : คงยังค่ะ ก็ขอพักไว้ก่อนแล้วกันเนาะ ถ้ามีอีกก็คงอีกพักใหญ่อ่ะค่ะ เพราะเล่มนี้คนดูก็คงจะเบื่อไปอีกนาน
ต้าร์ :คือเราก็อยากจะทำให้มันดูพอดีๆ อ่ะครับ ไม่อยากให้มาก ไม่อยากให้น้อยไป แล้วสิ่งที่เราทำเนี่ย เพราะว่าเราเองก็แน่ใจทั้ง 2 คนแล้วว่าเราจะมาถ่ายรูปคู่กัน แต่ว่าในอนาคตจะเป็นยังไงแล้วนี่ ผมรับประกันไม่ได้ แต่ว่า ณ ตอนนี้ก็คงไม่รับไปอีกสักพักใหญ่ๆ
กลัวคนอื่นๆ เค้าอิจฉาไหมที่มาถ่ายรูปสวีตกันแบบนี้ คืออย่างผู้ชายเค้าก็อาจจะอิจฉาว่าต้าร์มีแฟนสวย ส่วนพลอยเองก็มีแฟนหล่อ เรียนเก่ง
พลอย : ก็คือพลอยดีใจค่ะที่มีพี่ต้าร์
ต้าร์ :ผมเองก็โชคดีที่มีพลอยครับ คือความอิจฉามันไม่มีประโยชน์อะไรนะ คือไม่มีใครเป็นตัวคุณได้เท่าตัวคุณเอง เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนหาความสุขในแบบของตัวเองก็แล้วกัน แต่ว่าเราก็เป็นของเราแบบนี้อ่ะเนอะ
 
ขนาดมีงานเยอะขนาดนี้ไม่ค่อยจะมีเวลาให้กันเท่าไหร่ แต่ก็ยังมิวายมีเซอร์ไพรส์ให้กันด้วย
พลอย : เอ่อ คือก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรนะ คือวันนั้นพลอยถ่ายละครอยู่ที่ลำลูกกาแล้ววันนั้นเป็นวันเกิดเค้า แล้วมันก็ดึกแล้วเราก็ไม่ได้เตรียมอะไรเลย  แล้วร้านดอกไม้ก็ปิดหมดแล้ว พลอยก็เลยไปซื้อดอกไม้ร้านริมถนนร้านนึงพลอยก็เลยซื้อดอกคาร์เนชั่น สีช็อกกิ้งพิงค์ ห่อหนังสือพิมพ์ด้วยนะแล้วพลอยก็เอาไปจัดใส่แจกันให้เค้าที่บ้าน
ต้าร์ :คือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ น่ะครับ คือเราก็ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว คือไม่จำเป็นว่าดอกไม้จะต้องจัดมาสวย คือเราเอาดอกไม้มาทำให้มันสวยเองได้ 
 
แล้วอย่างข่าวที่ว่าต้าร์ไม่อยากให้พลอยซื้ออะไรให้ อยากให้พลอยเก็บเงินเอาไว้ คอยดูแลตัวเองให้ดีอันนี้ว่าไงคะ
ต้าร์ : ครับ ก็คือของที่เค้าอยากได้เค้าก็ไม่บอก เพราะเค้ากลัวเราจะซื้อให้ ก็อยากให้มันมีวันพิเศษสักวันนึงจะได้จับพลัดจับผลูซื้อให้เลยอะไรงี้
พลอย : แต่พี่ต้าร์เค้าไม่เนียนอ่ะ คืออย่างวันนั้นนะอยู่ดีๆ เค้าก็ถามเราว่าพลอยว่าแอร์เมสใบไหนสวย แล้วตอนนั้นอยู่ในร้านกระเป๋าด้วยนะ เราแบบมองหน้าว่า แบบนี้จะซื้อให้ใช่ไหม เค้าก็มาถามอีกว่ารู้ได้ไงอ่ะ? เราก็แหม...อยู่ในร้านขนาดนี้ไม่รู้ได้ไง  (หัวเราะ)
 
แล้วอย่างวันวาเลนไทน์นี้วางแพลนจะไปไหนกันบ้างรึยัง?
พลอย : เอ่อ พลอยทำงานค่ะ คงอยู่ที่กองละครอ่ะ
 
มีเตรียมของขวัญไว้เซอร์ไพรส์บ้างรึยัง?
ต้าร์ : ถ้าบอกก็คงไม่เรียกเซอร์ไพรส์เนาะ เดี๋ยวรอให้ผ่านวันไปก่อนแล้วค่อยมาถามอีกทีละกันครับ เราก็พยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้มันเนียนขึ้นน่ะครับ แต่ว่าคือเรา เราอาจจะเป็นคนที่อ่านง่ายอยู่สักหน่อย แล้วพลอยเค้าก็รู้ทันอยู่ตลอด แต่คราวหน้าจะพยายามแล้วกัน
 
แบบนี้พลอยว่าไงกับผู้ชายอ่านง่ายแบบนี้
พลอย : ก็ดีนะคะ ไม่ซับซ้อนดี (หัวเราะ) พลอยก็เคยแกล้งโง่หลายทีละนะ แต่ก็นะเราก็เป็นคนตรงๆ น่ะ ก็จะแบบแน่ะ อย่านะ ก็ชอบทำเค้าเสียแผนอ่ะ
 
ทำงานกันหนักขนาดนี้มีวิธีการดูแลกันและกันยังไงบ้าง
ต้าร์ : ก็คือเราดูแลซึ่งกันและกัน บางทีเค้ายังกินไม่ครบ 3 มื้อเราก็จะไปซื้อมาให้ ก็ง่ายๆ อย่างงี้แหละครับก็คอยดูแลซึ่งกันและกัน บางทีก็ไม่ใช่อาหารอย่างเดียว คืออาจจะเรื่องสุขภาพด้วยก็พยายามทำให้สม่ำเสมอ ก็คนที่เรารักคนที่เราควรจะแคร์ก็มีอยู่แค่นี้นะ ไม่เยอะมาก คือเราก็อยากให้เค้าดูแลตัวเองดีๆ ทำให้ได้ บางทีผมก็จะมีทำอาหารเช้าให้เค้าง่ายๆ คือหยิบนั่นหยิบนี่มาทำ คือพลอยเค้าจะเป็นคนที่กินง่ายอยู่แล้ว บางทีก็ทำไข่กระทะ อะไรแบบนี้ให้เค้าครับ
พลอย : แต่พลอยนี่ทำไม่เป็นนะ คือบางทีเวลาเลิกงานแล้วเราไปหาพี่ต้าร์ที่บ้าน พอบอกเค้าว่าเหนื่อยมากเลยพี่ต้าร์มีอะไรกินบ้าง เค้าก็จะไปทำอาหารมาให้กิน คือบ้านเราก็อยู่ใกล้กันด้วย พลอยอยู่สุขุมวิท 24 พี่ต้าร์อยู่ซอย 49 คือมันตรงข้ามกันเลยอ่ะค่ะ เสร็จงานแล้วพลอยก็จะมีแวะไปเจอที่บ้าน อย่างถ้าวันไหนทำงานสายหน่อยพลอยก็จะแวะไปกินข้าวกับเค้าด้วย
 
ถึงวันนี้ทั้งคู่เริ่มมีการคุยๆ เรื่องของอนาคตไว้บ้างแล้วหรือยัง?
พลอย : ไม่ค่ะ คือเราดูที่ปัจจุบันดีกว่า คือตัวพลอยเองไม่ได้ศรัทธาในเรื่องของการแต่งงาน เหมือนพลอยเกิดจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ อย่างที่พลอยเคยพูดไปในหลายที พลอยคิดว่าการแต่งานมันแต่งเพียงเพื่อสังคม คือถ้าเรา 2 คนตอนนี้มันโอเคมันก็ดีแล้ว พลอยคิดถึงแค่วันนี้พอค่ะ
ต้าร์ : สำหรับผมนะ คิดว่าเราทำตอนนี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวอนาคตมันจะดีของมันเอง ถึงเวลาที่มันเป็นเวลาที่ชัดเจนแล้ว ตอนนั้นมันคงเป็นเวลาที่จะมานั่งคิดว่าจะทำหรือไม่ทำ มันจะเป็นธรรมชาติของมันเองคือวันนี้ทำให้มันดีที่สุดดีกว่าจะไปวางแพลนว่าเราต้องทำอะไรตอนไหนยังไง แค่เรามีความรักให้กันให้ดีที่สุดตอนนี้ผมก็ดีใจแล้ว
 
แล้วเกี่ยวกับกระแสข่าวว่าต้าร์กับพลอยอัพค่าตัวถึงคนละสองแสนห้าอันนี้ว่าไง?
พลอย : ก็ตรงนี้พลอยมองว่าถ้าจะเอากระแสมันก็ไม่มีคำว่าฟรีนะคะ คือคำว่าฟรีไม่มีในโลก ทุกอย่างพลอยก็มองว่ามันสมเหตุสมผลนะ คือมันเป็นเรตราคาแบบเฉพาะกิจโดยเฉพาะอะค่ะ บางทีพลอยก็เรียกไปแบบจะได้ไม่ต้องมาจ้างพลอยเลยก็มี เพราะเราเองก็ไม่ได้อยากที่จะรับงานคู่อยู่แล้ว ทุกคนก็รู้ว่าพลอยไม่ชอบออกงานคู่เท่าไหร่ พลอยชอบแบบ เออ ทำงานก็ทำคนเดียว ถ้าจะเป็นคู่กันก็ขอเป็นแบบโอกาสพิเศษดีกว่าอ่ะค่ะ
ต้าร์ : เราก็คือแยกเป็นเรื่องๆ อะครับ คือเวลางานก็คือเวลางาน เอ่อ ผมเองก็ไม่ได้ อิงกับกระแสมากนัก คือมันมีงานติดต่อเข้ามา ถ้าเป็นพี่ที่รู้จักเราก็ไปช่วยกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันคือมันอยู่ที่การทำงานมากกว่าที่จะไปอิงกับกระแสหรือว่าอะไรน่ะครับ
 
โอ๊ย...ถึงจะบอกว่ายังไม่แพลนเรื่องของงานแต่งงานในตอนนี้ แต่หลายคนที่ได้เห็นทั้งคู่ก็คงจะอดอิจฉาถึงความรักอันหวานฉ่ำแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ จริงมะ??