ศึกวันหยุดโลก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยกพลพรรคผีแดงบุกเยือนรัง "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมเยือน จัดหนักส่ง ไรอัน กิ๊กส์ กับ เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่หน้าหวังหักเขี้ยวสิงห์ ด้านเจ้าบ้านไม่น้อยหน้า เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ฟลอร็องต์ มาลูด้า จะถูกส่งลงมาทะลวงตาข่ายทีมเยือนเช่นกัน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 1 มีนาคมนี้

ปรีวิวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

     เกมตกค้างคู่สำคัญของทีมแชมป์กับรองแชมป์เก่าซึ่งเลื่อนมาจากปลาย ปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเหน็บ เชลซี จำเป็นต้องเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ได้ หากยังคิดแอบหวังถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากเวลานี้ตามหลังทีมปีศาจแดงไกลถึง 15 แต้มเต็ม แม้จะแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม

      เชลซี ไม่ชนะมา 2 เกมติดในพรีเมียร์ลีก และ 5 นัดหลังสุดทุกรายการชนะได้แค่ 2 นัด ล่าสุดคือในแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกชนะ โคเปนเฮเก้น 2-0 กลางสัปดาห์ที่แล้ว

      คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่มีปัญหาสภาพทีมเพิ่มขึ้นให้หนักใจ สามารถใช้ทีมชุดเดิมที่ส่งลงเล่นในระยะหลังได้ครบถ้วน ตัวเจ็บเดิมๆ มีแค่ อเล็กซ์ เจ็บเข่า กับ ยอสซี่ เบนายูน เจ็บเอ็นร้อยหวาย

      อันเชล็อตติ ยังได้ตัว ดาวิด ลุยซ์ เซนเตอร์แบ็กแซมบ้า กลับมาลงเล่นเกมลีก หลังติดคัพ-ไทถ้วยยุโรป และก็น่าจะแทรกลงทันที จับคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ ถ่าง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ออกไปแย่งตำแหน่งแบ็กขวากับ โชเซ่ โบซิงวา

      แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายตัวเก่ง กำลังมีปัญหานอกสนาม กรณียิงปืนลมไรเฟิลใส่เด็กฝึกงานสโมสร และถูกเปิดโต๊ะสอบสวนแล้ว แต่ไม่มีผลกับเกมนี้ จะลงสนามตามปกติ

      แนวรุกมีความเป็นไปได้ที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงคนใหม่ เจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ จะถูกจับลงตัวจริง คู่กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า เหมือนในเกมยุโรป แต่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็มีโอกาสเบียด ตอร์เรส หลุดไปเหมือนกัน หลังจาก ทำผลงานได้ดีอยู่เรื่อยๆ ในการพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซีซั่นที่แล้วก็เป็นคนยิงประตูชัยให้บุกชนะถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนคว้าแชมป์

     เป็นหน้าที่ของ อันเชล็อตติ ที่ต้องเลือกระหว่าง ตอร์เรส หรือ ดร็อกบา ที่จะมาจับคู่กับ อเนลก้า ยกเว้นว่าจะเลือดเข้าตาส่ง 3 กองหน้าลงพร้อมกันทั้งหมด

      ตรงกลางสนาม จอห์น โอบี มิเกล มีปัญหาบาดเจ็บมาจากเกมเอฟเอ คัพ ที่เล่นได้แค่ครึ่งแรกครึ่งเดียว จน รามิเรส ได้ลงยืนตัวจริงร่วมกับ ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ ฟลอร็องต์ มาลูด้า

      เกมนี้ มิเกล พร้อมแล้วที่จะมาทวงคืนพื้นที่ แต่ก็ต้องแย่งตำแหน่งกับ รามิเรส ที่เล่นได้น่าพอใจในเกมยุโรป

      การจัดทัพมีความเป็นไปได้ทั้งสองระบบคือ 4-4-2 กับ 4-3-3 ขึ้นอยู่กับการวางหมากของ อันเชล็อตติ

      ฟาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งขย่มลูกไล่ วีแกน แอธเลติก 4-0 เมื่อวันเสาร์ ยึดจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น ทิ้ง อาร์เซน่อล 4 คะแนน และหนีอันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 คะแนน

      เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงมีปัญหาใหญ่อยู่ที่เกมรับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่ง ยังบาดเจ็บน่อง พลาดลงเล่นเกมนี้แน่นอน ทำให้ต้องยึดคู่ คริส สมอลลิ่ง กับกัปตันทีม เนมานย่า วิดิช ต่อเนื่อง

      หลังจาก เฟอร์ดินานด์ เจ็บไป สมอลลิ่ง จับคู่กับ วิดิช มาแล้ว 3 เกม และทีมเสียแค่ 1 ประตูนัดชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 จากนั้นคือการเสมอ โอลิมปิก มาร์กเซย 0-0 และชนะ วีแกน 4-0

      ที่ เฟอร์กี้ ต้องลุ้นหนักคือสภาพความฟิตของ ไรอัน กิ๊กส์ ที่ไม่มีชื่ออยู่ในทีมมา 3 เกม เนื่องจากเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ว่าจะพร้อมสำหรับทริปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ หรือไม่ แต่ก็คาดว่าจะน่าจะกลับมาได้ หลังพักแข้งมานานพอสมควร

      หากว่า กิ๊กส์ กลับมาได้ การจัดกระบวนทัพตรงกลาง จะเปลี่ยนไป ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่ล่าสุดต้องออกไปเล่นปีกขวา จะกลับเข้ามายืนตรงกลางร่วมกับ ไมเคิ่ล แคร์ริค ส่วน นานี่ จะเปลี่ยนจากปีกซ้าย มาขึ้นเกมทางขวาตามถนัด

      ข้างหน้า ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ที่ได้เล่นตัวจริงเมื่อวันเสาร์พร้อมยิง 2 ลูก จะต้องถอยออกไปให้ขาประจำอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวซัลโวของทีมที่เริ่มปืนฝืด ยิงไม่ได้เลยใน 5 นัดหลัง กลับมายืนคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ ยกเว้นว่าอาจจะหลุดไปทั้งคู่ถ้า เซอร์ อเล็กซ์ ต้องการแพ็กเกมแดนกลาง

      อย่างไรก็ตาม คดีอาจพลิกหากว่า รูนี่ย์ โดนแบนย้อนหลังจากการฟาดแขนใส่ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ ของ วีแกน

      ระบบการเล่นที่ใช้มีโอกาสพอๆ กันทั้ง 4-4-2 และ 4-5-1 ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง ตรงกลางจะอัดแน่นด้วย เฟล็ทเชอร์, แคร์ริค, สโคลส์, นานี่ และรวมถึง กิ๊กส์ ทิ้ง รูนี่ย์ ยืนหน้าเป้าตัวเดียว แต่ถ้าใช้หอกคู่ รูนี่ย์ ก็จะยืนกับ เบอร์บาตอฟ ตามปกติ 

     แบ็กขวา จอห์น โอเช ที่เล่นตลอดระยะหลัง มีโอกาสจะได้เล่นต่อ และ ราฟาเอล ดา ซิลวา ต้องนั่งดูไป

      ส่วนนักเตะเจ็บเดิมๆ ยังมี จอนนี่ อีแวนส์ (ข้อเท้า), พาร์ค ชี-ซอง (เอ็นหลังหัวเข่า), อันแดร์สัน (เข่า), อันโตนิโอ วาเลนเซีย (ข้อเท้าหัก) และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ (เข่า)

     ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา (บรานิสลาฟ อิวาโนวิช), ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ไมเคิ่ล เอสเซียง, รามิเรส (จอห์น โอบี มิเกล), แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส (ดิดิเยร์ ดร็อกบา), นิโกล่าส์ อเนลก้า



     เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, คริส สมอลลิ่ง, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล แคร์ริค, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ - เวย์น รูนี่ย์

 สถิติการพบกันของทั้งสองทีม
                          เชลซีชนะ              เสมอ            แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ
ลีก                              39                    41                              56
เอฟเอ คัพ                   2                      1                                8
ลีก คัพ                        1                      1                                2
รวม                            43                    47                              67

สิงห์ข่ม-ไม่แพ้ผีในบ้าน 8 ซีซั่น

     พลิกสถิติ เชลซี เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างชัดเจน สำหรับการเล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง เมื่อไม่พลาดท่าแพ้มานาน 8 ฤดูกาลติดกันแล้ว

      ครั้งสุดท้ายที่ เชลซี แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในบ้านคือฤดูกาล 2001/02 ที่แพ้ขาด 0-3 พอล สโคลส์, รุด ฟาน นิสเตลรอย และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยิงคนละประตู  

      จากนั้นเป็นต้นมาอีก 8 เกม 8 ฤดูกาล เชลซี ชนะถึง 6 นัด เสมออีกแค่ 2 เท่านั้น

      ล่าสุดคือเมื่อซีซั่นที่แล้ว เชลซี เชือด 1-0 จากประตูโทนของ จอห์น เทอร์รี่ ปลายปี 2009

      ใน 7 ซีซั่นหลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ยังบุกมายิงประตูที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้แค่ 2 ลูกเท่านั้นด้วย คือนัดเสมอ 1-1 ซีซั่น 2008/09 พาร์ค ชี-ซอง ยิงนำก่อนเจ๊า และแพ้ 1-2 ซีซั่น 2007/08 เวย์น รูนี่ย์ ยิงตีเสมอก่อนพ่าย 

เจทีรับสิงห์ต้องทุบผีสถานเดียว

     จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม เชลซี ประกาศขอพาทีมเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมตกค้างวันอังคารนี้ หลังจากทีมรั้งอยู่อันดับ 5 ของตาราง ไล่ตามจ่าฝูง "ปีศาจแดง" ถึง 15 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด

      เทอร์รี่ เชื่อว่า เชลซี จำเป็นต้องชนะเพื่อกลับไปอยู่ในพื้นที่ลุ้นตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยังเป็นการกดดันบรรดาทีมหัวตารางด้ววย "นี่เป็นเกมที่ต้องชนะ เรามีสถิติที่ดีในการเจอกับพวกเขา โดยเฉพาะเกมในบ้าน ซึ่งเราต้องการจะทำให้ได้ต่อไป ถ้าเราชนะ ยูไนเต็ด ได้ มันจะเพิ่มความกดดันให้พวกเขา รวมถึงทีมอื่นที่อยู่อันดับใกล้ๆ กัน"

เฟล็ทช์ชี้ผีเจอสัปดาห์นรก

     ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางแมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับ ทีมกำลังเผชิญช่วงสาหัสสากรรจ์ จากการต้องเล่นเกมเยือน 4 นัดติดต่อกันในตอนนี้ และยังต้องเจอ 2 คู่แข่งพิกัดเดียวกันอย่าง เชลซีกับ ลิเวอร์พูล ด้วย

     เฟล็ทเชอร์ กล่าวก่อนเตะกับ เชลซี วันอังคารนี้ว่า "สัปดาห์นี้เป็นงานหนักของเรา เราผ่านเกมที่ต้องไปเยือนมาแล้วทั้ง มาร์กเซย และ วีแกน เราต้องออกไปเยือนถึง 4 เกมติดต่อกัน ตอนนี้เราผ่านไปแล้วสองเกม"

      "พวกเรารู้ถึงความหนักหนาสาหัส เพราะทั้ง เชลซี และ ลิเวอร์พูล ต่างก็เป็นคู่แข่งสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ตอนนี้เราก็เตรียมการไว้แล้วทั้งด้านสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ"

รับลาติกส์ทำผีเหนื่อยหนัก

     กัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ พูดถึงเกมที่พบกับ วีแกน เมื่อวันเสาร์ด้วยว่า ทีมของตนต้องพบกับสถานการณ์ยากลำบากในการรับมือเกมบุกหนักของเจ้าบ้าน ก่อนที่จะฉวยโอกาสเล่นเกมโต้กลับสำเร็จด้วยความเร็วของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ

      "เราต่างรู้ดีว่ามันต้องเป็นเกมที่ยาก วีแกน เปิดเกมแลกกับเรา และสามารถสร้างปัญหาเราได้มาก พวกเขาเล่นเกมเร็วใส่เรา เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยเซฟแบบสุดยอดถึง 3 หนในครึ่งแรก เพื่อทำให้ทีมยังอยู่ในเกม"

      "แต่เรารู้ว่า เมื่อเกมดำเนินไปมากเท่าไร คุณภาพของเราก็จะยิ่งแสดงออกมา เราจึงต้องพยายามให้ ชิชาริโต้ คอยปั่นป่วนแนวรับของพวกเขา เพื่อใช้ความเร็ว และมันก็เห็นผล"

      "วีแกน บุกใส่เราตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้าย นั่นอาจเป็นจุดอ่อนของพวกเขาในเวลาเดียวกัน แต่นั่นคือแนวทางที่ผู้จัดการทีมพวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องสมควร นั่นหมายความว่า การพบกับ วีแกน คุณต้องระวังเกมรับให้มาก และถ้าคุณรู้จักกองหลังตัวเองดีแล้ว มันก็เป็นโอกาสของการเล่นโต้กลับ"

เจทีลั่นพร้อมพาสิงห์ขย่มผี

 
    จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมกระดูกเหล็กของ เชลซี แสดงความมั่นใจว่าต้นสังกัดของตัวเองพร้อมที่จะยัดเยียดความปราชัยให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในเกมวันอังคารนี้ เพื่อลดช่องห่างคะแนนลง

      เทอร์รี่ กล่าวว่า "มันคือเกมที่เราต้องชนะ ผมไม่สนใจหรอกว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น เราแค่ทำมันให้ดีที่สุดเท่านั้น สิ่งที่เราต้องการคือชัยชนะ ถ้าเราชนะ มันอาจสร้างความกดดันให้พวกเขา และทีมรอบๆ นั้น"

      "ตอนนี้เรามีแต้มตามหลัง สเปอร์ส อยู่ แต่ก็มีเกมอยู่ในมืออีก 1 นัด และเราจะใช้ชัยชนะในนัดนี้เพื่อแซงหน้ากลับไปอยู่อันดับ 4"

      "พวกเรามั่นใจมากเมื่อได้เล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ และแนวทางที่เราเล่นก็ช่วยได้มาก ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะมาไม้ไหน แต่ไม่ว่าทีมใดก็ตามที่มาเยือนสนามแห่งนี้ก็จะต้องพบกับงานที่ยากเสมอ"

เซอร์ชมสมอลลิ่งเจ๋ง-ส่งฟัดสิงห์ต่อ

      เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่า คริส สมอลลิ่ง กองหลังดาวรุ่ง จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในบิ๊กแมตช์ที่ทีมปีศาจแดงจะต้องออกไปเยือน เชลซี วันอังคารนี้ หลังจากทำผลงานได้น่าประทับใจในการเสียบตำแหน่งแทน ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ

      ผู้จัดการทีมเลือดสก็อตต์ ให้สัมภาษณ์กับแม็กกาซีนของสโฒสรว่า "เราพอใจกับฟอร์มการเล่นของเขา (สมอลลิ่ง) มาก สิ่งที่เขาแสดงออกมามันยอดเยี่ยมจริงๆ แต่คุณรู้ไหม ผมคาดหวังให้เขาทำได้ดีมาแต่แรกแล้ว เพราะผมไม่เคยลงสัยฝีเท้าของเขาเลย"

    "เขาทำงานได้เยี่ยมยอดมากเพื่อทีม และเขาพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เขาเรียนรู้การเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาต้องการที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น เขาชอบการเล่นเกมรับ เขาสนุกกับมัน นั่นคือโบนัส"

     "จากการที่ ริโอ (เฟอร์ดินานด์) เจ็บ ทำให้เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมแรกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กหนุ่มวัยเพียง 21 ปีที่เพิ่งมาอยู่กับทีมได้เพียงแค่ 9 เดือน ในการต้องเล่นเกมดาร์บี้แมตช์ แต่ผมคิดว่าเขาทำได้ดีเลยทีเดียว"

ตอร์เรสท้าผีจัดชุดแข็งสุด-กระสันล่าตาข่าย

     เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าคนใหม่ของ เชลซี หวัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งในเกมตกค้างวันอังคารนี้ จะสามารถส่งชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ โดยเฉพาะคู่เซนเตอร์แบ็ก ที่ตนต้องประมือโดยตรง อย่าง เนมานย่า วิดิช กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ชี้เป็นความท้าทายส่วนตัวที่ต้องเจอกับยอดแข้งประเภทนี้

      ตอร์เรส จะลงเตะกับ "ปีศาจแดง" เป็นครั้งแรกในสีเสื้อ "สิงห์บลูส์" หลังย้ายเข้าร่วมทีมเมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งในช่วงที่เล่นกับ ลิเวอร์พูล ดาวยิงสแปนิชเล่นงาน แมนฯ ยูไนเต็ด จนงอมพระรามหลายครั้ง โดยเฉพาะการเรียกใบแดงจาก วิดิช ได้ถึง 3 หน

      ตอร์เรส กล่าวกับเว็บสโมสรเมื่อ 28 ก.พ. ว่า "ผมคิดว่า เชลซี น่าจะรู้มากกว่าผมสำหรับวิธีที่ควรใช้ในการเผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาประสบความสำเร็จมากกว่าเราในช่วงสองสามปีหลัง แต่มันก็เป็นเรื่องเดิมๆ"

      "เมื่อคุณเล่นกับทีมชั้นนำ พวกเขาย่อมมียอดนักเตะ และ ยูไนเต็ด ก็เช่นกัน พวกเขามีสุดยอดเซนเตอร์แบ็ก และมีแรงกระตุ้นสูงเมื่อเจอกับทีมในพิกัดเดียวกัน"

      "คุณคงต้องการเล่นให้ดีเมื่อต้องเจอกับนักเตะเหล่านี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณทำอะไรได้ วิดิช กับ เฟอร์ดินานด์ เป็นความท้าทายสำหรับผม ดังนั้นผมจึงหวังว่าพวกเขาจะได้เล่นทั้งคู่ บางคนอาจหวังให้นักเตะคนสำคัญของคู่แข่งไม่ได้เล่น แต่ผม ผมขอเลือกที่จะเจอกับนักเตะแบบนี้มากกว่า

รับผีแกร่ง-เร้าเพื่อนคว้าชัยกลับคั่วแชมป์

      ตอร์เรส กล่าวต่อโดยยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีความแข็งแกร่งและคุณภาพคับแก้วเหมือนที่เคยเป็นมา แต่ก็หวังว่า เชลซี จะเอาชนะเพื่อสร้างความหวังในการกลับไปลุ้นแชมป์ลีกเต็มตัว

      "พวกเขาเพิ่งแพ้ไปเกมเดียว มันคือเหตุผลหลักที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยึดหัวหาด และถ้าพวกเขาไม่ได้แชมป์ ก็ยังคงเกาะกลุ่มนำไม่ได้หายไปไหน และมีลุ้นแชมป์ทุกรายการ"

      "มันคือคุณภาพที่พวกเขามี ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่ เชลซี ตอนที่ผมเล่นกับ ลิเวอร์พูล และเมื่อต้องเจอกับ เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มาในชุดที่ดีที่สุด มันก็ยังเป็นงานยากมากอยู่ดี"

      "นี่จะเป็นเกมที่น่าสนใจ เพราะมันสามารถทำให้เรากลับไปอยู่ในจุดที่สามารถลุ้นแชมป์ได้ อาจจะเป็นเกมที่สำคัญที่สุดจนถึงตอนนี้ ถ้าเราชนะ เราจะขยับเข้าใกล้พวกเขา และเราก็ยังมีเกมที่ต้องเจอกันอีกนัดด้วย"

รูนโล่งไม่โดนเล่นย้อนหลัง-ยิงสิงห์ได้

     เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอดตัวไม่โดนโทษแบนใดใด จากจังหวะที่ไปฟาดแขนใส่หน้า เจมส์ แม็คคาร์ธี่ กองกลางวีแกน แอธเลติก ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากมีการคาดกันว่า รูนี่ย์ อาจโดนแบนยาว 3-4 นัดได้เลยหากถูกลงความเห็นว่าผิดจริง

      รูนี่ย์ ถูกจับภาพการเล่นช่วงต้นเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกถล่ม 4-0 ว่ามีการฟาดแขนขวาจากด้านหลังใส่หน้า แม็คคาร์ธี่ ในจังหวะพยายามเข้าหาบอลบริเวณกลางสนาม

      การเล่นของ รูนี่ย์ ถูก โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือวีแกน โวยแหลกว่าต้องเป็นใบแดง ไม่ใช่แค่ฟรีคิกอย่างที่ มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ตัดสิน ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ชี้ว่า เป็นการพยายามสุมไฟ สร้างประเด็นให้ดาวยิงวัย 25 โดนแบนชวดเตะเกมสำคัญกับ เชลซี เท่านั้น

      "มันก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม เพราะนี่คือกรณีของ เวย์น รูนี่ย์ และพวกคุณ (สื่อ) จะสร้างแคมเปญให้เขาโดนแบนในเกมวันอังคาร จับเขานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า อะไรแบบนั้น" เฟอร์กูสัน กล่าว

      อย่างไรก็ตาม สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) มีการตรวจสอบจังหวะปัญหานี้แล้ว และพิจารณาเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.พ.ว่า จะไม่มีการตั้งข้อหากับ รูนี่ย์

      เอฟเอ ได้รับคำชี้แจงจาก แคลตเทนเบิร์ก ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวแล้ว ว่าจังหวะดังกล่าวเป็นเพียงการฟาวล์ปกติ ไม่ใช่การจงใจเล่นงานคู่แข่งนอกเกมของ รูนี่ย์ และ เอฟเอ เห็นพ้องตามนั้น

      การไม่กำหนดบทลงโทษใดใดย้อนหลัง ทำให้ รูนี่ย์ สามารถลงสนามพบกับ เชลซี วันอังคารนี้ ได้ตามปกติ

 
วิด้ากร้าวไม่เคยกลัวตอร์เรส

     เนมานย่า วิดิช กองหลังกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้เรื่องราวในอดีตที่เคยโดน เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงเชลซี เล่นงานสมัยอยู่กับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้มีอยู่ในหัวและพร้อมที่จะรับมือกับหัวหอกชาวสแปนิช ได้ทุกเมื่อ

      ตอร์เรส ทำเอา วิดิช เหงื่อตกแทบทุกครั้งในระหว่างสังกัด "หงส์แดง" ก่อนจะย้ายมายัง เชลซี เมื่อเดือน ม.ค.

      กระนั้น เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติเซอร์เบีย กล่าวว่า "บางครั้งผู้คนก็พูดกันไปว่ามันเป็นงานที่ยากแน่ๆ เมื่อต้องรับมือกับผู้เล่นบางคน เห็นได้ชัดเลยก็กรณีของตัวผมกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส"

      "ผมไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับมัน ผมสามารถเปลี่ยนแปลงความเห็นนี้ได้ในสนาม ไม่ใช่การพูดสิ่งที่ผมคิดผ่านสื่อ ผมแค่โฟกัสไปที่งานของผมเท่านั้น"