ควันหลงจากศึกแดงเดือดรุ่นเยาว์ ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในถ้วยเอฟเอ ยูธ คัพ ยังไม่จาง หลังมีการเปิดเผยว่าเกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นบนอัฒจันทร์ในแอนฟิลด์ ซึ่งลงเอยด้วยการรวบแฟนบอลที่เมา 3 ราย และมีกองเชียร์ทีเยือนอย่างน้อยหกรายด้วยกัน ที่ถูกเชิญออกจากสนามในข้อหาก่อความไม่สงบ ตามรายงานจาก เดลี่ เมล เมื่อ 14 มี.ค. 54

     แมตช์ดังกล่าวซึ่งลงเอยด้วยชัยชนะของ ยูไนเต็ด 3-2 และมีการแจกใบแดงว่อนถึงสี่ใบด้วยกัน ยังเกิดปัญหาขึ้นบนอัฒจันทร์ที่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนามราว 12,000 คน เนื่องจากกองเชียร์ปีศาจแดงกลุ่มหนึ่งร้องเพลงที่มีเนื้อหาพาดพิงถึงโศกนาฏ กรรมที่เฮย์เซล และฮิลล์สโบโร่ เพื่อเป็นการเย้ยหยันแฟนบอลเจ้าถิ่น
 
     "การ ร้องเพลงเกี่ยวกับฮิลล์สโบโร่และเฮย์เซล เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เราจะจัดการขั้นเด็ดขาดสำหรับเรื่องนี้แน่นอน" โฆษกแมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว
 
     ด้าน จอห์น อัลดริดจ์ ตำนานดาวยิงของลิเวอร์พูล ยอมรับว่าผิดหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากมองว่าเกมระหว่างคู่นี้ เป็นเพียงในระดับเยาวชนเท่านั้น
 
     "ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้ในเกม ระดับเยาวชนมาก่อน และหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก สิ่งที่เกิดขึ้นน่ารังเกียจมาก การร้องเพลงพาดพิงถึงเฮย์เซล และฮิลล์สโบโร่ เป็นการกระทำที่น่าสะอิดสะเอียน เห็นได้ชัดว่ามีกลุ่มคนที่ตั้งใจมาเพื่อก่อปัญหาโดยเฉพาะ และผมก็ผิดหวังกับครอบครัวในอัฒจันทร์ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการเพียงแค่ดูเกมฟุตบอลเท่านั้น"
 
     อนึ่ง สำหรับเหตุการณ์ในสนามนั้น มีการแจกใบแดงถึงสี่ใบด้วยกัน โดย เดวิด คูท ผู้ตัดสิน โดยเริ่มจาก สตีเฟ่น ซาม่า กองหลังลิเวอร์พูล ในข้อหาโปรเฟสชันนัลฟาวล์ ตามด้วย ปอล ป็อกบา กองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้รับใบเหลืองที่สองระหว่างการยิงจุดโทษ ก่อนที่ โคเนอร์ โคดี้ กัปตันทีมลิเวอร์พูลชุดเล็ก กับ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ของปีศาจแดง จะถูกไล่ออก เพราะมีเรื่องกันนอกเกม ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ