เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า เตรียมจับคู่หน้าล่าตาข่ายช่วย "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ส่ง คาร์ลอส เตเวซ ยืนคู่ เอดิน เชโก้ หวังส่องเก็บชัยในศึกบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ชิพ ซุปเปอร์ซันเดย์

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554

เชลซี - แมนฯ ซิตี้

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

บิ๊กแมตช์วันอาทิตย์เป็นการแย่งชิงพื้นที่อันดับ 3 สิงโตน้ำเงินคราม มีแต้มตามหลัง เรือใบสีฟ้า อยู่ 2 คะแนน แต่แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกเตะน้อยกว่า 1 นัด ดังนั้นชัยชนะเกมนี้จะพลิกสถานการณ์ให้ทีมดังลอนดอนได้เปรียบทันที

คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ สิงห์บลูส์ น่าจะปรับทัพหลายจุด ดาวิด ลุยซ์ กองหลังบราซิล กลับสู่ทีม หลังติดคัพ-ไทถ้วยยุโรป มีลุ้นลงตัวจริงร่วมกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง และ ฟลอร็องต์ มาลูดา ที่เป็นตัวสำรองเมื่อวันพุธมาทั้งหมด

 ในราย อเล็กซ์ กองหลังบราซิล กลับมาลงซ้อมเบาๆ ได้ที่สนามซ้อม ค็อปแฮม เมื่อต้นสัปดาห์ ใกล้จะเรียกความฟิตกลับคืนทีมเต็มที หลังกลับไปผ่าตัดหัวเข่าในบ้านเกิดตลอดเดือนที่แล้ว อาจจะเซอร์ไพรส์มีชื่อเป็นสำรองได้แล้ว

 ยอสซี่ เบนายูน มิดฟิลด์ทีมชาติอิสราเอล ใกล้จะกลับคืนสนามเช่นกัน หลังจากบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายอย่างรุนแรง พักยาวมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เกมวันอาทิตย์นี้ยังเร็วเกินไปที่จะคืนสนาม

 ระบบการเล่นน่าจะยึด 4-4-2 ต่อ ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลังใช้ โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า คู่หน้า นิโกล่าส์ อเนลก้า ยืนคู่ เฟร์นานโด ตอร์เรส

 ด้าน โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ เรือใบสีฟ้า โมโหสุดๆ กับการตกรอบยูโรปา ลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพราะเอาชนะ ดินาโม เคียฟ คืนได้แค่ 1-0 หลังบุกพ่ายมาก่อน 0-2 ทั้งนี้เป็นเพราะ มาริโอ บาโลเตลลี่ ซึ่งพลาดโอกาสทองตั้งแต่ 4 นาทีแรก ดันไปโดนใบแดงแบบโง่ๆ ในครึ่งแรก

กุนซือชาวอิตาเลียนเริ่มหมดความอดทนกับกองหน้าแบดบอยรายนี้แล้ว และขู่ว่าจะตัดชื่อพ้นทีมในเกมสำคัญวันอาทิตย์นี้ด้วย โอกาสจึงตกมาอยู่กับ เอดิน เชโก้ ดาวยิงค่าตัวแพง ที่เป็นตัวสำรองต่อเนื่องระยะหลัง แม้ว่า บาโลเตลลี่ จะขอโทษต่อการกระทำครั้งนี้แล้ว แต่ก็น่าจะเป็นเพียงตัวสำรอง

อย่างไรก็ตาม แดนกลางถือว่ามีข่าวดีสุดๆ เจมส์ มิลเนอร์ หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ฟิตกลับมาลงสนามท้ายเกมกับ เคียฟ ได้แล้ว และที่เซอร์ไพรส์คือการกลับมาของ อดัม จอห์นสัน ปีกเท้าซ้ายที่หายเจ็บข้อเท้าก่อนกำหนด และลงเล่นในช่วง 20 นาทีสุดท้ายด้วย

แผงหลังน่าจะมีชื่อ เยโรม บัวเต็ง กองหลังทีมชาติเยอรมัน กลับมาอยู่ในทีมอีกครั้ง หลังจากเดินทางกลับบ้านเพื่อเฝ้าภรรยาที่คลอดลูก แต่อีกสองคน โคโล่ ตูเร่ โดนแบนทุกรายการข้อหาตรวจโด๊ปไม่ผ่าน และ ปาโบล ซาบาเลต้า ไปเฝ้าพ่อที่ป่วย

 ระบบการเล่น 4-4-2 โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แนวรับใช้ ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ กองกลางมี ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่, ดาบิด ซิลบา คู่หน้าใช้ คาร์ลอส เตเวซ ยืนคู่ เอดิน เชโก้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - นิโกล่าส์ อเนลก้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

     แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่, ดาบิด ซิลบา - คาร์ลอส เตเวซ, เอดิน เชโก้

     ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย

เรือใบฮอต! เชือดสิงห์ 3 นัดติด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานยอดเยี่ยมในการเจอกับ เชลซี 3 นัดหลังสุด เรือใบสีฟ้า เก็บชัยชนะรวด ยิงแหลก 7 ประตู เสียแค่ 3 ลูกเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านั้น สิงโตน้ำเงินคราม แพ้แค่ 2 นัดเท่านั้นจากการพบกันทั้งหมด 24 นัดในพรีเมียร์ลีก

เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไฮไลต์ของเกมอยู่ที่การเผชิญหน้ากันของ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม เชลซี กับ เวย์น บริดจ์ แบ็กซ้ายที่ตอนนั้นยังเป็นสมาชิกของ แมนฯ ซิตี้ หลังจากทั้งคู่มีปัญหากรณีตีท้ายครัวเกิดขึ้น ผลลงเอย เรือใบสีฟ้า มีแรงฮึดเป็นพิเศษบุกชนะ 4-2 หยุดสถิติไม่แพ้ใครในบ้านของ สิงห์บลูส์ ลงที่ 37 นัดด้วย

คาร์ลอส เตเวซ ศูนย์หน้ากัปตันทีม แมนฯ ซิตี้ ถูกโฉลกกับการยิงประตู เชลซี ทีเดียว เมื่อยิง 6 ประตูใน 5 นัดหลังสุดในลีกที่พบกับ เชลซี เป็นการยิงในสีเสื้อ เรือใบสีฟ้า 4 ลูก และอีก 2 ลูก สมัยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อันเช่รับสิงห์ยังเหนื่อยแม้ชนะเรือ

คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีม เชลซี ยืนยันไม่คิดไปไกลถึงการเบียดแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล แม้ว่าเกมวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคมนี้ สิงห์บลูส์ จะสามารถเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ก็ตาม

อันเชล็อตติ กล่าวว่า "เรายังคงมีเป้าหมายเดิม อย่างแรกเลยคือ การติดอยู่ในกลุ่ม 4 อันดับแรกให้ได้ ซึ่งตอนนี้มีถึง 5 ทีมที่ได้ลุ้น และก็ต้องมี 1 ทีมที่แห้วไป เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกๆ ทีมที่จะต้องทำให้ได้"

กระตุ้นตอร์เรสยิงประตูเพื่อตัวเอง

อันเชล็อตติ กระตุ้น เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าเจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ จำเป็นต้องส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้ได้โดยด่วน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่ไม่ใช่เพื่อทีม เพราะผลงานโดยรวมถือว่าน่าพอใจแล้ว

"เขาจำเป็นต้องทำประตูให้ได้ก็เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อทีม เพราะทีมกำลังทำผลงานได้ดี ซึ่งผมก็เข้าใจตรงจุดนี้ดีมาก สำหรับพวกกองหน้าแล้ว การทำประตูได้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง แต่ผมก็ไม่ได้เรียกร้องให้นักเตะกองหน้าของผมเอาแต่จะทำประตูเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องพยายามมีส่วนร่วมกับการเล่นของทีมด้วย และทำงานให้หนัก ซึ่งเขาก็กำลังทำตรงจุดนี้อยู่"

 "ผมพบเจอเรื่องแบบนี้มาบ่อยมาก ก่อนหน้านี้ผมเคยยึดมั่นในตัว เอร์นัน เครสโป มานานตั้ง 6 เดือน โดยที่เขาทำประตูไม่ได้เลยสักลูก ผมไม่ได้เรียกร้องให้พวกเขามุ่งแต่จะทำประตู ผมไม่เคยบอกว่า นายต้องทำประตูให้ได้ ทีมต้องทำประตูให้ได้ต่างหาก" โค้ชชาวอิตาเลียนวัย 51 กล่าว

โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
20.30 น. ซันเดอร์แลนด์ - ลิเวอร์พูล 
23.00 น. เชลซี - แมนฯ ซิตี้