"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมจัด หลุยส์ ซัวเรซ ยืนหน้าคู่ แอนดี้ แคร์โรลล์ หวังบุกเก็บชัยเพื่อล้างตา "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ที่นัดก่อนเมื่อฤดูกาลที่แล้วหงส์พ่ายเพราะประตูจากบีชบอลทำเอาแฟนบอลช็อกไปทั้งสนาม

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554

ซันเดอร์แลนด์ - ลิเวอร์พูล

สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

 สตีฟ บรูซ กุนซือ แมวดำ จะมีสภาพทีมที่ดีขึ้นกว่าเกมล่าสุดที่บุกเสมอ อาร์เซน่อล 0-0 เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว เพราะจะมีสามตัวหลักกลับคืนสนาม และไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่ม หลังได้พักมาเต็มๆ

 ลี แคตเทอร์โมล (หลัง), เนดุม โอนูโอฮา (น่อง) และ โบโล่ เซนเด้น (น่อง) กลับมาซ้อมได้เต็มรูปแบบแล้วทั้งหมด ขณะที่ แดนนี่ เวลเบ็ค ก็อาจได้กลับมาเป็นตัวจริงด้วย หลังลงสนามในช่วง 20 นาทีสุดท้าย และทำผลงานได้ดีในเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

 อย่างไรก็ตาม เกมนี้ยังเร็วเกินไปสำหรับการคืนสนามของ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ กองหน้าดาวรุ่ง ที่เจ็บเข่าพักยาวมา 7 เดือน ขณะที่ ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ (เข่า) คาดว่าจะกลับมาซ้อมได้สัปดาห์หน้า ส่วน เคร็ก กอร์ดอน ประตูที่เจ็บเข่า ฟื้นฟูสภาพร่างกายมาต่อเนื่อง น่าจะมีชื่อเป็นสำรองได้แล้ว

 ระบบการเล่น 4-4-2 ซิมง มินโญเลต์ เฝ้าเสา แนวรับใช้ เนดุม โอนูโอฮา, จอห์น เมนซาห์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ แดนกลางมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลี แคตเทอร์โมล, ซุลลี่ย์ มุนตารี่, คีแรน ริชาร์ดสัน คู่หน้า แดนนี่ เวลเบ็ค ยืนคู่ อซาโมอาห์ กียาน

 ด้าน เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ หงส์แดง เพิ่งอกหักตกรอบยูโรปา ลีก เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากยิงประตูคืน บราก้า ไม่ได้ ทำให้สกอร์รวมสองนัดพ่ายไป 0-1 เท่ากับหมดลุ้นแชมป์ทุกรายการแล้วในฤดูกาลนี้

 ดัลกลิช ประเดิมใช้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ลงตัวจริงนัดแรกไปแล้วในเกมกับ บราก้า และเกมนี้จะได้ หลุยส์ ซัวเรซ ที่ติดคัพ-ไทถ้วยยุโรปกลับคืนทีมด้วย ดังนั้น มีโอกาสได้เห็นคู่กองหน้าคู่ใหม่ แคร์โรลล์-ซัวเรซ ได้ประสานร่วมกันอีกครั้ง

 กัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด เข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ต้องพักรักษาตัวประมาณ 1 เดือนด้วยกัน โดยเวลานี้กัปตันเจิดเริ่มต้นกระบวนการฟื้นฟูสภาพร่างกายแล้ว

 ก่อนหน้านี้ หงส์แดง ต้องเสีย มาร์ติน เคลลี่ แบ็กขวาดาวรุ่ง กับ ฟาบิโอ ออเรลิโอ แบ็กซ้ายบราซิล ที่ต้องพัก 4 สัปดาห์เพราะเอ็นหลังหัวเข่าฉีก

 แต่ก็มีโอกาสได้ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ หายเจ็บเข่ากลับคืนทีมเกมนี้ ขณะที่ จอนโจ เชลวี่ย์ ก็ยังพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บเข่า แม้จะกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่คาดว่าน่าจะกลับคืนสนามปลายเดือนเมษายน

 ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดนนี่ วิลสัน กองกลางมี เดิร์ค เค้าท์, ราอูล เมยเรเลส, ลูคัส เลวา, มักซี่ โรดริเกซ คู่หน้าใช้ หลุยส์ ซัวเรซ ยืนคู่ แอนดี้ แคร์โรลล์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มินโญเลต์ - เนดุม โอนูโอฮา, จอห์น เมนซาห์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลี แคตเทอร์โมล, ซุลลี่ย์ มุนตารี่, คีแรน ริชาร์ดสัน - แดนนี่ เวลเบ็ค, อซาโมอาห์ กียาน

     ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดนนี่ วิลสัน - เดิร์ค เค้าท์, ราอูล เมยเรเลส, ลูคัส เลวา, มักซี่ โรดริเกซ - หลุยส์ ซัวเรซ, แอนดี้ แคร์โรลล์

     ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์

หงส์ผวา! พ่ายบีชบอลซีซั่นก่อน

 ผลงานของ ลิเวอร์พูล ยอดเยี่ยมสุดๆ ในการเจอกับ ซันเดอร์แลนด์ เพราะตลอด 19 นัดที่พบกันในพรีเมียร์ลีก หงส์แดง พ่าย แมวดำ เพียงแค่สองนัดเท่านั้น แต่ 1 ใน 2 นัดที่ว่า เกิดขึ้นที่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จากประตูบีชบอล

 จาก 19 นัดที่ทั้งสองทีมพบกันในพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97 หงส์แดง เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้มากถึง 11 นัด เสมอกัน 6 นัด และปล่อยให้ แมวดำ เอาชนะแค่ 2 นัดเท่านั้น ครั้งแรกเกิดขึ้นที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ชัยชนะ 2-1 ฤดูกาล 2002-03 และอีกครั้งเกิดขึ้นที่เดิมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ในชัยชนะ 1-0 จากประตูบีชบอลของ ดาร์เรน เบนท์

นอกจากผลงานไม่ค่อยดีแล้ว ซันเดอร์แลนด์ ยังมีปัญหาเรื่องการยิงประตู ลิเวอร์พูล ด้วย เพราะ 9 นัดหลังสุดที่พบกัน แมวดำ ยิงได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น ซึ่งทั้ง 3 ลูกมาจาก ดาร์เรน เบนท์ ซึ่งย้ายไป แอสตัน วิลล่า แล้วทั้งหมด

บรูซติวเข้มแนวรับจับตายแคร์โรลล์

 สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีม ซันเดอร์แลนด์ ติวเข้มผู้เล่นแนวรับของทีมให้จับตาย แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอก ลิเวอร์พูล ในเกมลีกที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคมนี้ หลังจากที่เคยเจอฤทธิ์ของกองหน้าทีมชาติอังกฤษมาแล้ว ในเกมที่ นิวคาสเซิ่ล ถล่มลูกทีมของเขา 5-1 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

 แคร์โรลล์ ไม่ได้ยิงประตูในเกมที่ นิวคาสเซิ่ล ไล่ถลุง ซันเดอร์แลนด์ แต่ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อชัยชนะของ สาลิกาดง และหัวหอกร่างใหญ่ก็ได้รับการคาดหมายว่าจะลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกนัดแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมเยือน แมวดำ สุดสัปดาห์นี้ ซึ่ง บรูซ ต้องการให้ลูกทีมประกบติดกองหน้าทีมชาติอังกฤษเอาไว้

 "เรารู้ดีเกี่ยวกับเขาและสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับเขาคือคุณต้องสู้กับเขาด้วยความแข็งแกร่ง และผมก็มั่นใจมากว่านักเตะของเรามีความสามารถที่จะทำอย่างนั้นได้ ในสมัยที่ผมเป็นนักเตะ มันมีกองหน้าอังกฤษสไตล์โบราณอยู่ 10 หรือ 12 คน เขามีช่วงเวลา 18 เดือนที่มหัศจรรย์และผมก็หวังว่าเขาจะทำได้ดี แต่แน่นอน หลังจากวันอาทิตย์นี้ เขาเหมือนย้อยกลับไปยังอดีต เราแค่หวังว่าเราจะสามารถป้องกันได้ดีและเล่นได้ดีในการเผชิญหน้ากับเขา ซึ่งเราต้องทำ เพราะเรารู้ว่าเขาอันตราย" บรูซ กล่าว

หวังแนวรับเล่นเยี่ยมเหมือนเจอปืน

 บรูซ ก็หวังว่านักเตะ ซันเดอร์แลนด์ จะยังคงเล่นได้อย่างเหนียวแน่นเหมือนในเกมที่พวกเขาเสมอกับ อาร์เซน่อล 0-0 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน แม้ว่าเกมนี้มีโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะส่งสองกองหน้าตัวใหม่ หลุยส์ ซัวเรซ กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ ประสานงานร่วมกัน

 "ในเกมกับ อาร์เซน่อล เราแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและสาเหตุที่เราไม่เสียประตูได้ถึง 12 นัด ซึ่งเทียบเท่ากับ เชลซี มีเพียง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้นที่ทำคลีนชีตได้มากกว่าเรา ดังนั้น เกมรับของเราคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นในฤดูกาลนี้ เรายังมีผู้เล่นในแนวรุกที่สามารถยิงประตูได้ตลอดอีกด้วย ความยืดหยุ่นคือสิ่งที่เราทำในเกมกับ อาร์เซน่อล และเราต้องทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นอย่างนั้นในการรับมือกับ แคร์โรลล์ และ ซัวเรซ" บรูซ กล่าว

โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
20.30 น. ซันเดอร์แลนด์ - ลิเวอร์พูล 
23.00 น. เชลซี - แมนฯ ซิตี้