“เฮียฮ้อ” ทุ่ม 100 ล. เปิดทีวีดาวเทียม พร้อมปัดช่อง3 เทกโอเวอร์อาร์เอส
Posted 31/03/2011 by ผู้จัดการ
“เฮียฮ้อ” ทุ่ม 100 ล้าน เปิดทีวีดาวเทียมช่อง 8 บอก สิ้นปีเตรียมควักอีก 100 ล้าน เพราะอยากสร้างให้เป็นฟรีทีวีวาไรตี้ที่ครบรูปแบบที่สุด ลั่น เปิดโอกาสให้ศิษย์เก่าและผู้จัด รวมถึงนักแสดงทุกคนเข้ามาร่วมงานชนิดไม่จำกัดค่าย เดินหน้าดัน “ฟิล์ม” สุดฤทธิ์ กลับเมืองไทยเมื่อไหร่มีทั้งละครและอัลบั้มให้ทำ พร้อมเผย ปีนี้เตรียมเข็น “แร็พเตอร์” และ “โดม” ขึ้นคอนเสิร์ตฉลอง 30 ปีอาร์เอส ก่อนโต้ โดนช่อง 3 เทกโอเวอร์รวบซื้อหุ้นและตึกอาร์เอส
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อย สำหรับสถานีใหม่ “ช่อง 8 อินฟินิตี้” ของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อาร์เอส ซึ่งงานนี้ทางด้านของ “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้เผยถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจทีวีดาวเทียมตัวใหม่ พร้อมชี้แจงรายละเอียดให้ฟังว่าอยากให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ชม ซึ่งจะมีทั้งละคร รายการเรียลลิตี้ ซีรี่ย์เกาหลี รายการตลก-เกมโชว์ เตรียมทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทเพื่อตอบโจทย์ผู้ชมให้มากที่สุด
“วันนี้เรามาเปิดช่อง 8 อินฟินิตี้ในคอนเซ็ปท์คือฟรีทีวีวาไรตี้ 24 ชั่วโมง สำหรับช่องนี้ผมว่าน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ชม เราเชื่อว่าวันนี้อุตสาหกรรมทีวีในมุมผู้ชมนั้นไม่มีเส้นแบ่งอีกแล้ว ไม่มีคำว่าแซทเทลไลท์ทีวี ฟรีทีวีหรือทีวีเคเบิ้ล อยู่ที่ว่าถ้าเราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ดีให้เป็นทางเลือกของผู้ชมได้ ฉะนั้นเราก็เลยลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาทในการเปิดตัวรายการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นละคร รายการเรียลลิตี้ หรือแม้กระทั่งซีรี่ย์เกาหลี รายการตลก รายการเกมโชว์ รายการคุณภาพเหล่านี้ก็จะพบได้ในช่อง 8 อินฟินี้ตี้จากนี้ไปครับ”
“จริงๆ 100 ล้านเป็นการลงทุนเฉพาะคอนเทนต์ในช่วงแรกนะครับ แล้วก็จะมีเฟส 2-3 ตามมา มันต้องมากกว่า 100 ล้านแน่นอน แค่เฉพาะละคร 4 เรื่องแรกของเราก็มากกว่า 100 ล้านแล้ว เฟส 2 คิดว่าจะเปิดปลายปีนี้ก็อีก 100 กว่าล้านครับ จริงๆ วันนี้ผมคิดว่าผู้บริโภคพร้อมที่จะไม่ยึดติดอยู่กับแค่รีโมทคอนโทรล ผู้บริโภคพร้อมเปลี่ยนไปชมช่องที่เขาถูกใจ ฉะนั้นหลังจากนี้ไปผมให้เป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่เขาสามารถลงทุนสร้างงานดีๆ และสร้างคอนเทนต์ดีๆ ให้เป็นทางเลือกที่ถูกใจ ผมเชื่อว่าผู้บริโภคน่าจะพิจารณาช่อง 8 อินฟินิตี้เป็นทางเลือกหนึ่ง”
เผย พร้อมเปิดกว้างให้กับทั้งผู้จัดและนักแสดงทุกค่ายไม่จำกัด รวมถึงศิษย์เก่าของอาร์เอสเอง อย่าง “แดน วรเวช ดานุวงศ์” ก็กลับมาร่วมงานละครกับอาร์เอสอีกครั้ง
“วันนี้เมื่อเทคโนโลยีทลายข้อจำกัดต่างๆ แล้ว ก็เปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตที่มีคุณภาพทุกๆ รายไม่ใช่เฉพาะอาร์เอส ก็ถ้ามีศักยภาพ มีความสามารถและมีความเชื่อมั่น ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่เราจะนำเสนอผลงานที่ดี และเสนอเป็นตัวเลือกให้กับผู้ชมครับ ในมุมของเราเองคิดว่าเป็นการเปิดกว้างของผู้ชมโดยแท้ครับ วันนี้ผู้ชมเป็นผู้เลือกอย่างแท้จริง”
“กับแดนที่กลับมาร่วมงานกับเราครั้งนี้ ก็อย่างที่เรียนว่านโยบายของเรา เราต้องการคอนเทนต์ที่ดีที่สุด และมีคุณภาพมาก จะเห็นว่างานทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นละครหรือเกมโชว์หรือเรียลลิตี้ที่เราสร้างไว้ เราทำในระดับเดียวกับที่เราเคยทำให้กับช่อง ไม่ว่าจะเป็นช่องทีวีหลักที่ทำอยู่ตอนนี้ เราก็ทำในมาตรฐานเดียวกัน การลงทุนเดียวกัน นักแสดงเราก็โฟกัสไปที่นักแสดงดังๆ ที่เคยร่วมงานกับเราและสามารถชวนมาร่วมงานได้ทั้งของอาร์เอสเองและนักแสดงต่างๆ”
“แต่จริงๆ ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรนะครับ เพราะจริงๆ ละครเรื่องนี้เราก็เห็นว่าเหมาะสมกับเขา ก็ลองติดต่อกัน แล้วแดนเขาก็อยากจะร่วมงานกับเรา ก็มีสิทธิที่จะเห็นอดีตของอาร์เอสกลับมาร่วมงานกันอีก เพราะจริงๆ เราก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไร เรามองว่าทำอะไรก็ได้ที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของผู้ชม”
บอก ในด้านของนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ถ้ากลับจากอังกฤษเมื่อไหร่ ก็มีละครต่อให้ทันที 2-3 เรื่อง รวมถึงงานเพลงให้เห็นแน่นอนในปีนี้
“ส่วนของฟิล์มอย่างที่เคยให้ข่าวไปว่าระหว่างที่เขาอยู่อังกฤษก็เรียนภาษาอยู่ แล้วก็ทำเรียลลิตี้พ่วงไปด้วย กลับมาก็คงมีละครต่ออีก 2-3 เรื่อง ก็จะมีละครที่เปิดให้ชมวันนี้ 2 เรื่อง แล้วก็จะมีอีกเรื่องที่ฟิล์มจะเล่นให้กับบรอดคาซท์ทางช่อง 3 ครับ ส่วนกำหนดกลับของเขาก็ประมาณเดือนพฤษภาคม เราก็พิจารณาจากความเหมาะสม และความสามารถและเราเชื่อว่าด้วยกระแสหรือความนิยมในตัวฟิล์ม ผมเชื่อว่ายังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ทั้งประเทศ”
“สำหรับฟิล์มแผนที่เราวางไว้พอเขากลับมาก็จะมีละครวางไว้อยู่ 2-3 เรื่อง แต่ก็คงสลับกันถ่ายไป คงไม่ได้ถ่ายทีเดียว แล้วก็จะมีงานเพลงที่เตรียมไปด้วยภายในปีนี้ แต่เราก็คงไม่ได้จำกัดให้เขาอยู่แค่กับเรา ต้องเรียนว่าในอดีตผู้จัดหรือนักแสดงมีมากกว่าสถานี ผมมองว่าทีวีในเมืองไทยมีน้อยเกินไป มีผู้จัดดีๆ อยากจะผลิตรายการดีๆ แต่ก็ติดขัดเรื่องพื้นที่ หรือแม้กระทั่งนักแสดงก็ขาดโอกาสที่จะแสดงความสามารถ ก็คงไม่ได้กักฟิล์มเอาไว้ เพราะที่เราเอามานี่ก็เป็นช่วงที่เขาว่างจากการทำงานเพลงอยู่แล้ว”
ส่วนโปรเจ็กต์คอนเสิร์ตใหญ่ปีนี้มีให้เห็นแน่นอนหลังจากที่ห่างหายจากการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ไปนาน รวมถึงการกลับมาของ “แร็พเตอร์” และของ “โดม ปกรณ์ ลัม” ด้วย
“เรื่องแผนงานคอนเสิร์ตปีนี้ก็มีคอนเสิร์ตใหญ่นะครับ ทั้งใหญ่และระดับกลางๆ ตลอดปีทุกเดือนสลับกันไป แล้วก็จะมีที่จะฉลอง 30 ปีของอาร์เอสด้วย จะเป็นคอนเสิร์ตในวาระพิเศษที่อยากจะให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน ก็คงเร็วๆ นี้ครับ ผมคิดว่าอยู่ที่จังหวะและโอกาส ปีนี้แผนที่เราจะทำคอนเสิร์ตก็จะมีของศิลปินของค่ายกามิกาเซ่ของเรา แล้วก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่รวมศิลปินทุกค่ายเป็นการฉลอง 30 ปี นอกจากนี้ก็ยังมีคอนเสิร์ตของศิษย์เก่าของอาร์เอส ตอนนี้ทีมงานก็กำลังคุยกันอยู่ว่าจะมีของแร็พเตอร์ แล้วก็ของโดมในตอนนี้”
“แต่สำหรับโปรเจ็กต์อื่นให้ศิษย์เก่าๆ เราก็เปิดกว้างนะครับ วันนี้เรามีช่อง 8 เกิดขึ้นก็นอกจากจะเป็นทางเลือกให้กับผู้ชมแล้ว ก็เป็นเวทีให้ผู้จัดหรือนักแสดงใครที่คิดว่ามีผลงานดีๆ อยากจะนำเสนอกับเรา เราก็เปิดกว้างครับ”
ปัด ข่าวช่อง 3 เข้ามาเทกโอเวอร์ซื้อหุ้นอาร์เอส และซื้อตึกของอาร์เอสไปเรียบร้อย บอก ปกติมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาทาบทามอยู่แล้ว แต่ช่อง 3 ไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
“เรื่องช่อง 3 เข้ามาเทกโอเวอร์ ผมไม่เคยได้ยินนะ(หัวเราะ) ไม่มีครับ เรื่องซื้อตึกก็ไม่มีนะครับ เพราะตอนนี้ผมก็เพิ่งทำตึกใหม่อยู่ 2 ตึก เรื่องหุ้นของอาร์เอสก็มีกองทุนต่างประเทศให้ความสนใจ ก็มีเข้ามาพูดคุยอยู่เป็นระยะ แต่เรามีคนดูแลอยู่แล้วตรงนี้ แต่ช่อง 3 กับเราก็เป็นพาร์ทเนอร์กัน ผมกับผู้บริหารอย่างคุณประวิทย์เราก็สนิทกัน ก็ไม่ได้มีอะไร แต่ถามว่ามีโอกาสจะได้ร่วมหุ้นกันไหม ผมก็ไม่แน่ใจว่ามีข่าวนี้ได้ยังไง คงเป็นเรื่องของกองทุนมาซื้อหุ้นเป็นเรื่องปกติ”
“แต่เป็นเรื่องธรรมดามากเพราะอาร์เอสเราเป็นบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะมีทั้งกองทุนทั้งในและต่างประเทศหรือคนทั่วไปที่เขาสนใจในธุรกิจของอาร์เอสเขาก็มีสิทธิเข้ามาพูดคุยซื้อหุ้นเป็นเรื่องปกติ แต่ที่เข้ามาส่วนใหญ่เขาจะสนใจเรื่องของธุรกิจเพลงของเรา เพราะถือว่าเรามีการปรับตัวที่ดี เราเป็นค่ายเพลงแรกๆ ที่มีการปรับตัวค่อนข้างเร็ว ปรับตัวเข้ามายุคดิจิตอลค่อนข้างเร็วกว่าที่อื่น”
“ฉะนั้นทุกวันนี้ต่างชาติก็จะให้ความสนใจกับธุรกิจเพลงของอาร์เอสในระบบของฟูลลี่ดิจิตอลเป็นอย่างแรก ส่วนอีกตัวนึงที่เขาให้ความสนใจมากก็คือแซทเทลไลท์ทีวี ต้องเรียนว่าประเทศไทยสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันช้ากว่าต่างประเทศ 20 ปี และต่างประเทศเขาก็เห็นว่าธุรกิจนี้ในอนาคตมันจะดียังไง เขาก็จะเข้ามาคุยกับเรา”
“ส่วนธุรกิจหนังตอนนี้เราก็มีการปรับวิธีทำงาน เราก็จะค่อนข้างปรับทีมของภาพยนตร์ให้มีความหลากหลาย ให้มีความยืนหยุ่นในการทำงานให้สนุกมากขึ้น แต่ปีนี้เราให้ความสนใจในเรื่องของภาพยนตร์ลดน้อยลง เราจะโฟกัสเป็นเรื่องๆ จริงๆ และจะพิจารณาเป็นโปรเจ็กต์ๆ ไป เราต้องเรียนว่าธุรกิจภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่ทำกำไรค่อนข้างยากและมีความเสี่ยงสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทำ แต่ก็คงพิจารณาเป็นโปรเจ็กต์ๆ ไป แต่จริงๆ ธุรกิจทุกๆ อย่างของเราเติบโตได้ด้วยดีหมดนะครับ เข้าตามเป้าหมาย แต่ธุรกิจที่เติบโตมากที่สุดก็คือธุรกิจเพลงและแซทเทลไลท์ทีวีครับ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ส่องความเซ็กซี่ คาเรน คาเอเดะ ดารา AV ขวัญใจมหาชน ประกาศรีไทร์สายฟ้าแลบ
บอมบ์ สุภาวดี สวมบิกินี่ตัวจิ๋ว อวดหุ่นแซ่บริมทะเล
นุ่น โดโรธี นางแบบสาวลูกครึ่งไทย ผู้รับบทผีดงโขมดจากธี่หยด 2 ร่างจริง แซ่บเว่อร์ !
วินแอมป์ จิราภรณ์ สาดความแซ่บเต็มร้อย จนไอจีลุกเป็นไฟ
คาเรน ยูซูริฮะ ดาราดาวรุ่งขวัญใจหนุ่ม ๆ ติดอันดับยอดขายหนัง AV แห่งปี
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์