ไทยลีกเครียด!เอเอฟซีชี้ผ่านแค่3สนาม เดดไลน์สุดท้าย14ต.ค.
Posted 01/04/2011 by thaileagueonline
เอเอฟซี แถลงผลประเมินมาตรฐานทีมไทยลีก รอบ 2 ชี้มีแค่ 3 สนาม เมืองทอง, ตำรวจ, ชลบุรี ที่ผ่านเกณฑ์ระดับเอเชีย ติงแผนดันเยาวชนน้อยเกิน ให้โอกาสสุดท้าย 14 ต.ค. หากไม่ผ่านต้องรอโควต้า เอซีแอล อีก 3 ปี
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน นายโทกูอากิ ซูซูกิ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแข่งขันของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เป็นประธานแถลงข่าวสรุปหลังเดินทางมาสำรวจเกณฑ์มาตรฐานของ 18 สโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก 2011
นายซูซูกิ กล่าวว่า ขอชื่นชมทุกสโมสรที่ตั้งใจ และต้องการจะปรับปรุงสโมสรให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานของเอเอฟซี จุดเด่นของไทยพรีเมียร์ลีกเวลานี้ คือ 1.การได้รับความสนใจจากสื่อโดยเฉพาะการถ่ายทอดสด และการเสนอข่าวทางโทรทัศน์ จนลีกได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย 2.บรรยากาศในสนาม ที่แฟนมีหลายกลุ่มทั้งวัยรุ่น, เด็ก, ครอบครัว, ผู้หญิง และมีการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว 3.สมาคม และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก แสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาลีก ซึ่งในภาพรวมทั้งหมดถือว่าไทยพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่มีศักยภาพสูง และมีอนาคตที่สดใสรออยู่
นายซูซูกิ กล่าวต่อว่า ส่วนสิ่งที่ต้องเร่งปรับปรุงนั้นคือ สนาม โดยปัจจุบันมีเพียง 3 แห่งเท่านั้นที่อยู่ในเกณฑ์ระดับเอ คือ ยามาฮ่า สเตเดียม (เมืองทองฯ ยูไนเต็ด และทีโอที เอสซี), ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต (อินทรีเพื่อนตำรวจ) และชลบุรี สเตเดียม (ชลบุรี เอฟซี) โดย 13 สนามที่เหลือไม่สามารถใช้ในการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ ด้วยเหตุผล อาทิ ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับสื่อ, ไม่จัดแยกทางเดินเข้า-ออก, ขาดห้องที่ได้มาตรฐาน, ไฟ, พื้นสนามยังไม่ดีพอ
ส่วนจุดอ่อนของลีกอีกด้านคือ การพัฒนาเยาวชนที่ส่วนใหญ่ยังไม่มีแผนพัฒนาเด็กอายุ 20, 18, 16, 14, 12 และ 10 ปี อย่างไรก็ดี ไทยพรีเมียร์ลีกยังมีเวลาถึงวันที่ 14 ตุลาคมในการส่งเอกสารยืนยันการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อด้อยต่างๆ โดยหากไทยพรีเมียร์ลีกผ่านเกณฑ์ประเมินครั้งนี้ ก็จะได้สิทธิเล่นศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยอัตโนมัติ ระหว่างปี 2012-2014 แต่หากไม่ผ่านก็ต้องรอถึงอีก 3 ปี คือ ปี 2015
ทั้งนี้ จากเอกสารของเอเอฟซี ระบุว่า มี 3 สนามที่ปรับปรุงเพียงไม่กี่จุดก็จะเข้าเกณฑ์เอ คือ ลีโอ สเตเดียม (บางกอกกล๊าส เอฟซี), พิจิตร สเตเดียม (ทีทีเอ็ม พิจิตร) และสนามกีฬากองทัพบก (อาร์มี่ ยูไนเต็ด) ส่วนอีก 4 สนามคือ ไอ-โมบาย สเตเดียม (บุรีรัมย์ พีอีเอ), สนามกีฬากลางจ.สมุทรสงคราม (เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี), สพล.ชลบุรี (ราชนาวี, พัทยา ยูไนเต็ด) และ ม.ราชภัฏมหาสารคาม (ขอนแก่น เอฟซี) เอเอฟซี แนะนำว่าควรต้องเปลี่ยนไปใช้แห่งใหม่ โดยผลการประเมินจะประกาศในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกจำกัด กล่าวว่า น่าหนักใจเรื่องเยาวชน เพราะสโมสรต้องใช้งบประมาณในการสร้างทีม ยอมรับว่ายากมากที่ไทยพรีเมียร์ลีกจะผ่านเกณฑ์ไปได้ แต่จะประสานกับสโมสรและพยายามอย่างดีที่สุดก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 14 ตุลาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์