เลอันโดร ฮอร์ตยิง2พาอาร์มี่เฉือนเชียงราย2-1 ปลาทูเจ๊าทีเร็กซ์ กูปรีบู่พ่ายเทโรยับ
Posted 03/04/2011 by thaileagueonline
เลอันโดร ดอส ซานโตส ยิง 2 ประตู อาร์มี่ ยูไนเต็ด คืนฟอร์มเก่งอีกครั้งเปิดบ้านเฉือนเชียงราย ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คน 2 - 1 พร้อมขึ้นนำเป็นดาวซัลโวเดี่ยว ขณะที่ เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี เปิดบ้านไล่ตีเสมอ ขอนแก่น เอฟซี 1 - 1 ทางด้าน ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี พังยับเยินถูก บีอีซี เทโรศาสน บุกมาชนะ 3 - 0 ไฟสนามดับอีก
อาร์มี่ ยูไนเต็ด 2 เชียงราย ยูไนเต็ด 1
ที่สนามกีฬากองทัพบก เป็นการพบกันระหว่าง “สุภาพบุรุษวงจักร” อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 ของตารางคะแนน มี 8 แต้ม จากการลงสนาม 5 นัด เปิดบ้านต้อนรับ “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 มี 8 แต้ม จากการลงแข่ง 5 นัดเช่นเดียวกัน
เกมนี้ ธนเดช ฟูประเสริฐ กุนซือเจ้าบ้าน ส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนามครบครันนำโดย วันชนะ รัตนะ, วินิซิอุส เดอ คาร์วัลโญ่, โทนี่ เดอ ปินโญ่, ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า, ธาตรี สีหา, ลีอันโดร ดอส ซานโตส ส่วนสเตฟานโน่ คูกูร่า เฮดโค้ชทีมเยือน ต้องขาด 2 นักเตะชาวบราซิลอย่าง เอ็ดวัลโด้ แฟไรร่า กับ กิลสัน ดิอาซ ที่ติดโทษแบน ทำให้ต้องโรเตชั่นพอสมควร ซึ่งเกมนี้มี ยูเลี่ยน ซูซ่า ดาซิลวา, ภาณุพงษ์ อารัมย์วิโรจน์,วสันต์ นาทะสัน, คาร์ลอส เอดูอาโด้, พิชัย ปรีชาเชาว์ นำทัพ โดยผู้ตัดสินในเกมนี้ได้แก่ ประยูร วีระพูล
เริ่มเกมทั้ง 2 ทีมต่างเปิดเกมบุกเข้าใส่กันทันที และในน.4 เชียงราย ก็เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อนเมื่อ ใหญ่ นิลวงษ์ เปิดบอลให้ วสันต์ นาทะสัน หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา แต่ยังหวะที่ วสันต์ จะง้างเท้ายิง กลับถูกกองหลัง อาร์มี่ เข้ามาเสียบสกัดได้เสียก่อน
จากนั้นน.12 อาร์มี่ ก็ได้ลุ้นบ้างเมื่อ วินิซิอุส เปิดบอลจากด้านขวาเข้าไปหน้าเขตโทษ และเป็นทาง โทนี่ เดอ ปินโญ่ ที่ได้กดเต็มข้อบริเวณหัวกะโหลก แต่บอลพุ่งไปติดบล็อคกองหลัง เชียงราย ออกหลังไป
เกมมาถึงน.15 กองเชียร์อาร์มี่ ก็ได้เฮลั่นเมื่อ ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า ได้จังหวะกระชากบอลได้ทางกราบซ้าย ก่อนจะเปิดจากสุดเส้นหลังเข้ามาหน้าประตู อาทิตย์ ธนูศร นายทวารทีมเชียงราย หวังที่จะออกมาตัดบอลแต่พลาด ทำให้ลูกหลุดไปถึง เลอันโดร ดอส ซานโตส ได้ยืนโหม่งโล่งๆในกรอบ 6 หลา ส่งบอลเข้าประตูไป อาร์มี่ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0
หลังเสียประตู เชียงราย ก็โหมบุกหนัก และในน.23 ก็สามารถตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อ พิชัย ปรีชาเชาว์ โยนฟรีคิกทางกราบซ้ายระยะ 45 หลาเข้าไปในเขตโทษ เลโอติน ชิเทสคู กองหน้าทีมเชียงรายพยายามโถมขึ้นโหม่ง แต่โขกไม่โดน ทว่ากลับกลายเป็นดี เมื่อบอลกระดอนมาเข้าทาง คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ กองหลังร่างโย่งชาวบราซิลของทีมเชียงราย ที่รับส้มหล่นยิงบอลกระเด้งพื้นส่งลูกข้ามมือ นราธิป พันธ์พร้อม ผู้รักษาประตูทีมอาร์มี่เข้าไปตุงตาข่าย เชียงราย ยูไนเต็ด ตามตีเสมอได้เป็น 1-1
หลังสกอร์กลับมาเท่ากัน อาร์มี่ ก็เร่งเกมบุกหนักหวังขึ้นนำให้ได้อีกครั้ง และในน.41 ก็ได้ลุ้นเมื่อ วันชนะ รัตนะ ลากบอลแหวกกองหลังเชียงรายหลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะหักเข้ากลางให้ วินิซิอุส วิ่งเข้ามากดด้วยขวาเต็มข้อ แต่ว่าบอลก็ยังพุ่งไปติด สัญญา พวงจันทร์ กองหลังทีมเชียงรายที่พุ่งเข้ามาสไลด์บล็อกเอาไว้ได้ทัน
ช่วงท้ายครึ่งแรก เชียงราย กลับเป็นฝ่ายได้ครองบอลบุกมากกว่า แต่ยังหวะสุดท้ายยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 1-1
โดยในช่วงพักครึ่ง ทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้ประกาศจะมอบเงินค่าผ่านประตูจำนวน 100,000 บาท ให้กับผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งได้รับเสียงตบมือจากแฟนบอลทั้ง 2 ทีมที่อยู่ในสนามอย่างล้นหลาม
ออกสตาร์ทครึ่งหลัง เชียงราย มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่ง รัฐพล อัฐวงศ์ ลงมาแทน ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ส่วน อาร์มี่ ยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมลงสนาม ซึ่งรูปเกมในต้นครึ่งหลัง ทั้ง 2 ทีมยังแลกหมัดกันสนุก โดยในน.53 เชียงรายได้ลุ้นจากจังหวะที่ สัญญา พวงจันทร์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายมาให้ เลโอติน ชิเทสคู ขึ้นโขกเต็มศีรษะในเขตโทษ แต่บอลพุ่งผ่านหน้าปากประตูออกหลังไป
จากนั้นน.64 อาร์มี่ ได้ลุ้นบ้างเมื่อ โทนี่ เดอ ปินโญ่ วางบอลให้ เลอันโดร หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะจับบอลของ เลอันโดร ทำได้ไม่ดี ทำให้ลุกปลิ้นหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เกมดำเนินมาถึงน.71 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ กองหลังทีมเชียงราย เตะบอลขึ้นหน้ามาไม่ดี ทำให้ลูกมาเข้าทาง โทนี่ เดอ ปินโญ่ บริเวณหน้าเขตโทษของทีมเชียงราย ก่อนที่ โทนี่ จะไหลให้ ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า ทางกราบซ้าย จากนั้น ราฟาเอล ก็ปาดเรียดอีกทีให้ เลอันโดร ดอส ซานโตส วิ่งเข้ามาแปง่ายๆเข้าประตูไป อาร์มี่ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2-1
หลังโดนประตูที่ 2 สถานการณ์ของ เชียงราย ก็ย่ำแย่หนัก เพราะในน.73 ทีมกว่างโซ้งต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ อดิศักดิ์ ศรีงาม กองหลังทีมเชียงราย ที่โดนใบเหลืองมาแล้วในครึ่งแรก ไปเสียบหนักใส่ ราฟาเอล บริเวณกลางสนาม ผู้ตัดสิน ประยูร วีระพูล จึงแจกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป
หลังมีคนมากกว่าและสกอร์ที่นำอยู่ ทำให้ อาร์มี่ ลงไปเน้นเกมรับอาศัยจังหวะโต้กลับ ทำให้ เชียงราย ได้โอกาสทำเกมบุกขึ้นมา โดยในน.79 เชียงรายเกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อ เลโอติน ได้จังหวะโขกบอลเต็มหัวในเขตโทษ แต่ลูกลอยเหินข้ามคานออกหลังไป
ช่วงท้ายเกม อาร์มี่ เน้นการครองบอลเป็นหลัก ทำให้ เชียงราย ไม่มีโอกาสได้ทำเกมรุกมากนัก จนกระทั่งหมดเวลา 90 นาที อาร์มี่ ยูไนเต็ด จึงเป็นฝ่ายเอาชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปได้ 2-1 เก็บ 3 คะแนนไปนอนกอดได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์มี่ ยูไนเต็ด : นราธิป พันธ์พร้อม (GK), อเล็กซานโดร อัลเวส(นิพนธ์ คำทอง น.90), ศิวะเมต ธนูศร(วีรพงษ์ มูลคำแสน น.73), ดาวุฒิ ดินเขต, สราวุธ ทองสวัสดิ์, วันชนะ รัตนะ, วินิซิอุส เดอ คาร์วัลโญ่(จักรพงษ์ สมบูรณ์ น.82), โทนี่ เดอ ปินโญ่, ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า, ธาตรี สีหา, ลีอันโดร ดอส ซานโตส
เชียงราย ยูไนเต็ด : อาทิตย์ ธนูศร (GK), สัญญา พวงจันทร์, อดิศักดิ์ ศรีงาม, ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น(รัฐพล อัฐวงศ์ น.46), ใหญ่ นิลวงษ์, ยูเลี่ยน ซูซ่า ดาซิลวา, ภาณุพงษ์ อารัมย์วิโรจน์(โรแลนด์ วากาส น.67), วสันต์ นาทะสัน, คาร์ลอส เอดูอาโด้, พิชัย ปรีชาเชาว์, เลโอติน ชิเทสคู(อนุ สิงห์ราช น.84)
เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี 1 ขอนแก่น เอฟซี 1
ที่สนาม อบจ.สมุทรสงคราม "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี อันดับ 4 ของตาราง ต้อนรับการมาเยือนของ "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น เอฟซี ทีมอันดับที่ 15 โดยเกมวันนี้ทั้งสองทีมขาดผู้เล่นคนสำคัญ เจ้าบ้านไม่มี ภาณุวัฒน์ ยิ้มสง่า กองกลางตัวเก่งที่ยังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ส่วนทีมเยือนก็ไม่มี ชรินทร์ บุตรฮาด กองหน้าตัวเก่งที่บาดเจ็บเช่นกัน
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกเป็น เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ที่คุมเกมไว้ได้ตั้งแต่ต้น และนาทีที่ 8 ก็ได้โอกาสลุ้นประตูก่อนทันทีจากจังหวะที่ ธนา ศรีพันดร เก็บบอลแถวสองระยะ 28 หลา ก่อนจะเอี้ยวตัวซัดด้วยซ้ายข้างถนัดทันที บอลแฉลบแผงหลังของทีมเยือนก่อนไปตกบนคานพลาดการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
ถัดมา น.18 ยังคงเป็นโอกาสของ ปลาทูคะนอง อีกครั้ง เมื่อได้ลูกฟรีคิกระ 25 หลาและเป็นคนเดิม ธนา ศรีพันดร วิ่งเข้ามาปั่นด้วยซ้ายบอลข้ามกำแพงและเข้ามือของนายทวารทีมเยือนรับไว้ได้สบาย
ผ่าน 30นาทีแรกของการแข่งขันทั้งคู่ยังทำเกมได้ไม่หวือหวาเท่าที่ควร ทำให้จังหวะทำประตูยังมีไม่มากตามไปด้วยเกมส่วนใหญ่เป็นการครองบอลของเจ้าบ้านที่พยายามบุกเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ
แต่แล้ว น.38 แฟนบอลเจ้าบ้านก็ต้องเงียบทั้งสนาม เมื่อ ขอนแก่น เอฟซี มาฉวยโอกาสทำประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้จากจังหวะที่บุกขึ้นมาทางฝั่งขวาและโยนบอลเข้ามากลางประตูบอลข้ามกองหลังเจ้าบ้านมา
หมดและเป็น อดิศักดิ์ จารัตน์ ได้โอกาสเทกตัวโหม่งบอลกดลงพื้นผ่านมือนายทวารเจ้าบ้านเข้าไปอย่างสวยงามเป็นประตูให้กับทีมเยือนออกนำไปก่อน 1 - 0 หลังจากนั้นไม่มีทีมใดพังประตูเพิ่มกันได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรกเป็น ขอนแก่น บุกมานำ เอสซีจี สมุทรสงคราม ด้วยสกอร์นี้
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นทั้งด้วยกันสองฝ่าย ยังคงยึดนักเตะชุดเดิมบู๊ต่อไป และ น.52 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูตีเสมอทันทีจากจังหวะซัดจากนอกกรอบเขตโทษของ โชคลาภ นิลแสง แต่บอลยังไปตรงตัวนายทวารทีมเยือนรับไว้ได้เช่นเดิม
ให้หลังจากนั้น 10 นาที ปลาทูคะนอง พลาดโอกาสทองในการทำประตูตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่อ โชคลาภ นิลแสง ได้ตั้งป้อมซัดระยะ 12 หลาเต็มข้อ แต่ยังโดนปฐิเสธไว้ด้วยปลายมือของนายทวารขอนแก่นเช่นเดิม
เกมผ่านมาถึงในช่วง 15 นาทีสุดท้ายก็ยังคงเป็นเจ้าบ้านที่เดินหน้าบุกแหลกหวังทำประตูตีเสมอให้ได้แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเท่านั้น ต่อมา น.78 ได้ลุ้นอีกครั้งสำหรับเจ้าบ้านจากการยิงของ ดิยุฟ บีเรเม่ แต่บอลเกินบอลเข้าซองนายทวารทีมเยือน
ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย เอสซีจี สมุทรสงคราม ยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง และ น.86 ก็มาประสบความสำเร็จจากจังหวะที่ ธนา ศรีพันดร เปิดลูกฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษและเป็น โชคลาภ นิลแสง โหม่งเช็ดเปลี่ยนทางเข้าไปอย่างง่ายดายเป็นประตูตีเสมอให้กับเจ้าบ้าน 1 - 1 และหลังนานแม้ว่า เอสซีจี สมุทรสงคราม จะบุกหนักแต่ก็ไม่สามารถพังประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 90 นาที เสมอกันไป 1 - 1 แบ่งกันไปทีมละคะแนน
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี : โนกูชิ ปินโต้ (GK), ยานนิค จอร์จ, เอ็นจี้ ดิวาย, พงษ์พิพัฒน์ คำนวน (C), ธนา ศรีพันดร, เอกชัย ปรีชากุล (ณหทัย สุขสมบัติ), เอฟเฟ่ โอโบเด้ (ฟาบิโอ บาโบซ่า), โชคลาภ นิลแสง,นิติพงษ์ ไสยสิทธิ์, เจษฏา ภู่เล็ก (วิทยา นนทะลี), ดิยุฟ บีเรเม่
ขอนแก่น เอฟซี : ปิยะวัฒน์ อินทร์พิมพ์ (GK), สกลวัชร์ สกลหล้า, ศุภกร ฆารดา, หลี่ เซียง, อภิศักดิ์ อาสายุทธ, เริ่มรัตน์ งามเจริญ (C - กัลยา สายสมหวัง), อดิศักดิ์ จารัตน์, กฤษดา เหมวิพัฒน์, คำแพง สายวุฒิ (สุพจน์ จดจำ), โชค สุขแก้ว (พีรวิส ฤทธิ์ศรีบูรณ์), วิลเฟร็ด ดิโจคัม
ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 0 บีอีซี เทโรศาสน 3
"กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทีมอันดับที่ 13 แข่ง 5 นัดมี 5 คะแนนเปิดบ้านที่สนามศรีนครลำดวน พบกับทีมอันดับที่ 3 ของตารางแข่ง 5 นัดเท่ากันมี 10 คะแนน อย่าง "มังกรไฟ 3 เค" บีอีซี เทโรศาสน ในเวลา 18.00 น.
บรรยากาศก่อนเกมการแข่งขัน อากาศร้อนมากประมาณ 39 องศา บริเวณหน้าสนามแข่งขันมีการเล่นเกมของทางบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต มีการประมูลเสื้อทีมศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี และบีอีซี เทโรศาสน พร้อมลายเซ็นของนักเตะทั้งสองทีมด้วย ในขณะเดียวกันแฟนคลับของทีม "กูปรีอันตราย" ก็ได้นำกล่องรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวจังหวัดภาคใต้มารับบริจาคด้วย
เริ่มเกมขึ้นมาทั้งสองทีมก็บุกเข้าใส่กันเลยตั้งแต่นาทีแรก ผ่านมา 20 นาที เป็นทางฝั่งเจ้าบ้านศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ที่ครองบอลบุกได้ชัดเจนกว่าทีมเยือนแต่ว่ายังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้
กระทั่งนาทีที่ 23 ทีมเยือนเริ่มบุกโต้ตอบบ้างและมาได้ประตูขึ้นนำจนได้เมื่อ ไพฑูรย์ นนทะดี ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนจะล็อกหลบกองหลังเจ้าบ้านหนึ่งจังหวะแล้วจัดการซัดด้วยซ้ายที่เสาแรกบอลพุ่งผ่านมือ วัชรพงษ์ กล้าหาญ ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านเข้าไปส่งผลให้ทีมเยือนออกนำ 1-0
หลังจากโดนนำเจ้าบ้านก็ยังบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนักแต่ก็ถูกทีมเยือนโต้กลับใน น.28 จากการหลุดเดียวเข้าไปยิงของ อีเคเล่ บอลลอดหว่างขา วัชรพงษ์ กล้าหาญ เข้าประตูไปทำให้ทีมเยือนบุกมานำ 2-0
น. 33 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูตีไข่แตกเมื่อ ธีรชัย งามเจริญ เปิดฟรีคิกด้วยซ้ายตรงบริเวณกรอบเขตโทษด้านขวาเข้าไปหน้าประตูแล้วก็เป็นทางด้าน เจมส์ ค็อบบลาห์ ขึ้นโหม่งแต่บอลชนคานอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้น 3 นาที วิคเตอร์ อมาโร่ หลุดเข้าไปตรงบริเวณริมเขตโทษด้านขวาก่อนจะตวัดเข้ามาตรงกลางให้ จิมมี่ โชล่า วิ่งมายิงแต่ว่าบอลโดนไม่เต็มเท้าเข้ามือ พิศาล ดอกไม้แก้ว รับไว้ได้
น.45 วิกเตอร์ อมาโร่ ได้ล้มตัวยิงด้วยขวาตรงบริเวณจุดโทษแต่ว่าตรงตัว พิศาล ดอกไม้แก้ว ใช้ขาเซฟช่วยทีมเยือนไว้ได้ จบครึ่งแรก ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ตามหลังบีอีซี เทโรศาสน อยู่ 0-2
ในครึ่งหลัง น.64 ไฟในสนามก็ดับลง โดยตามกฎการแข่งขันถ้าไฟดับเกิน 45 นาทีจะต้องยุติการแข่งขันทันทีและจะทำให้เจ้าถิ่นถูกปรับแพ้ หลังจากเกมหยุดไปประมาณ 36 นาทีก็ทำการแข่งขันกันต่อได้
กลับมาเล่นกันต่อเจ้าบ้านก็ยังเป็นฝ่ายบุกต่อและ น.69 ธนา ชะนะบุตร เปิดบอลข้ามฟากจากซ้ายไปฝั่งขวาให้กับ กี ฮูแบร์ ใช้หน้าขาพักบอลแล้วกระดกหลบผู้เล่นทีมเยือนก่อนจะวอลเลย์ด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแต่บอลก็ยังตรงตัว พิศาล ดอกไม้แก้ว รับไว้ได้
แต่ก็เป็นฝั่งทีมเยือนที่มาได้ประตูนำ 3-0 โดยไม่ต้องออกแรงใน น.73 เมื่อ ไพฑูรย์ นนทะดี จี้เข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะเปิดเข้ามาหน้าประตูแล้วก็เป็น สุพรรณ หาดคำ กองหลังกัปตันทีมเจ้าบ้านที่แหย่เท้าขวาสกัดเข้าประตูตัวเอง
หลังจากเสียประตูที่ 3 ศรีสะเกษเจ้าบ้านก็ดูเหมือนจะถอดใจหมดเวลาการแข่งขัน ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี แพ้คาบ้านให้กับ บีอีซี เทโรศาสน ไป 0-3
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี : วัชรพงษ์ กล้าหาญ(ผู้รักษาประตู), กีย์ ฮูแบร์, สุพรรณ หาดคำ, เจมส์ คอปบร้า, ธีรชัย งามเจริญ, ธนา ชะนะบุตร, อัศวิน บุญมั่น, วิคเตอร์ อมาโร่, วุฒิชัย ทาทอง, ปิยวัฒน์ ทองแม้น, จิมมี่ โชล่า(กิตติศักดิ์ ใจหาญ น.58)
บีอีซี เทโรศาสน : พิศาล ดอกไม้แก้ว(ผู้รักษาประตู), มิก้า ชูนวลศรี, ปรัชญ์ สมัคราษฏร์, อิวาน โบรโซวิซ, ชลากร สงวนดี, ธีรเทพ วิโนทัย, วิลเลี่ยม อจูว่า(พิชิต ใจบุญ น.81), ซาโลมง โอคูตู, ไพฑูรย์ นนทะดี, อีเคเล่(ไฮเตอร์ มาติน น.54), รณชัย รังสิโย(เทวา ศรีธรรมานุสาร น.73)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์