คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือเชลซี สะกิดลูกทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" มองเกมพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก พุธนี้ เป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต หลังเคยแพ้รอบชิงฯ ปี 2008 เหตุสมัยคุม มิลาน ก็แพ้ ลิเวอร์พูล นัดชิงฯ ปี 2005 ก่อนได้โอกาสเอาคืนในรอบชิงฯ อีก 2 ปีถัดมา

 
คา ร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมเชลซี กระตุ้นแข้ง "สิงโตน้ำเงินคราม" เต็มที่ รับนักเตะคงหัวเสียหากคิดถึงเกมนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แพ้จุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2008 แต่บอกให้มองในทางบวก และเอามาเป็นแรงผลักดันว่า นี่คือโชคชะตาของพวกเขาที่ต้องโค่น และแก้แค้น "ปีศาจแดง" ให้ได้ ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่รัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันพุธนี้ เหมือนที่เขาเคยมีประสบการณ์กับ ลิเวอร์พูล สมัยที่ยังคุม เอซี มิลาน อยู่
 
 มิลาน ของ อันเชล็อตติ แพ้ "หงส์แดง" รอบชิงปี 2005 แต่มาเอาคืนได้ในเกมนัดชิงฯ อีก 2 ปีถัดมา ทำให้ "คาร์เล็ตโต้" มองว่า เชลซี ก็เปรียบเหมือนกับ มิลาน ที่ชะตาฟ้ากำหนดให้ต้องมาเจอ ยูไนเต็ด อีกครั้ง หลังความผิดหวังในเกมนัดชิงฯ ที่ มอสโก ปี 2008 โดยกล่าวว่า "สำหรับเรา (มิลาน) แล้ว ช่วงเวลานั้นคือโชคชะตาของเรา การต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ในเกมนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ปีถัดมา"
 
"จอห์น เทอร์รี่ จะคิดถึงเกมนั้นว่าทีมแพ้ยังไง และถ้าหากนักเตะคิดถึงเรื่องนี้ ก็แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่มีความสุข แต่ผมคิดว่ามันอาจเป็นแรงจูงใจที่ดี เพราะนี่คือโชคชะตาของเรา นี่มีสิทธิเป็นช่วงเวลาของ เชลซี ที่จะคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก นี่คือถ้วยโปรดของผม ผมไม่คิดว่าพวกเขาต้องการให้ผมคว้าแชมป์รายการนี้เพื่อเซฟเก้าอี้ ผมว่าสโมสรไม่ได้คิดแบบนี้ แต่มันสำคัญที่จะชนะเพื่อภาพลักษณ์ของทีม และนักเตะ"

"การมีประวัติศาสตร์ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเรื่องสำคัญ ประสบการณ์ของทีม, บุคลิก, คาแรคเตอร์ ล้วนมีความสำคัญในเกมที่เต็มไปด้วยความกดดันแบบนี้ เหตุผลที่ว่าทำไม มิลาน ถึงคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก หลายสมัย เพราะมันเป็นประวัติศาสตร์ของพวกเขา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เหมือนกัน แน่นอนว่าพลังของพวกเขามาจากการมี รูนี่ย์, นักเตะชั้นยอดมากมาย และโค้ชที่วิเศษ แต่ประวัติศาสตร์ก็เป็นพลังของพวกเขาเหมือนกัน" อันเชล็อตติ กล่าว