เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ศูนย์หน้า เรอัล มาดริด รับตอนนี้ชินชากับการโดดเหยียดสีผิวไปแล้ว และล่าสุดเจ้าตัวเผยเพิ่งโดนสาวก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างเกมที่แข้ง "ชุดขาว" ไล่ทุบ "ไก่เดือยทอง" 4-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคาร บอกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งเรื่องนี้ได้เลย ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือแค่อย่าไปใส่ใจมัน

เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้า เรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งศึกลา ลีกา สเปน ยอมรับว่า ตนเองรู้สึกชินชากับโดนเหยียดสีผิวจนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว หลังจากที่ระบุว่าแฟนบอล ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กลุ่มหนึ่งตะโกนถ้อยคำที่หยาบคายใส่เขา ในระหว่างเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ "ราชันชุดขาว" เปิดถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ไล่ต้อน "ไก่เดือยทอง" 4-0 เมื่อวันอังคารที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา

อเดบายอร์ ที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลนี้ ตกเป็นเป้าหมายในการโห่ใส่ของแฟน สเปอร์ส เนื่องจากเขาเคยอยู่กับ อาร์เซน่อล ทีมคู่อริร่วมกรุงลอนดอนมาก่อน และมีถ้อยคำหยาบคายที่เสียดสีเชื้อชาติแอฟริกันของนักเตะด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะทำให้ "ไก่เดือยทอง" ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เพราะสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) คงไม่สามารถเพิกเฉยกับเรื่องดังกล่าวได้ โดยค่าปรับขั้นต่ำสำหรับการเหยียดสีผิวมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 20,000 ปอนด์ (ราว 960,000 บาท)

อเดบายอร์ ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า "นักเตะชื่อดังกว่าผมพยายามที่จะหยุดมัน แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย เราทำทุกอย่างแล้ว เราสามารถชูใบแดงให้กับการเหยียดผิว แต่ผู้คนก็ยังเข้าไปอยู่ในวงจรนี้อีก นั่นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเสียแล้ว การมีถิ่นกำเนิดมาจาก แอฟริกา ผมก็แค่รู้สึกมีความสุข การได้เล่นฟุตบอลมันเหมือนฝันที่เป็นจริง"

"ผมก็แค่ต้องการส่งแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กับชาวแอฟริกาทุกคน ทั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลิเบีย และสิ่งที่เกิดขึ้นที่ไอวอรี่โคสต์ ผมมีสมาชิกในครอบครัวอยู่ที่นั่นหลายคน รวมไปถึงเพื่อนฝูงอีกมากมาย การเหยียดสีผิวยังคงมีอยู่ เราไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ ซามูเอล เอโต้ และนักเตะชื่อดังหลายราย พูดเกี่ยวกับมันได้ดีกว่าผม แต่มันก็ไม่อาจหยุดยั้งพวกเขาได้เลย" ดาวยิงวัย 27 ปี กล่าวในที่สุด