หลังจาก นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตบางรัก เข้าขอแจ้งความดำเนินคดีกับผู้หญิง 3 คนที่ปรากฏในภาพถ่าย และภาพเคลื่อนไหวที่มีการบันทึกลงตามสื่อแขนงต่างๆ กรณีถอดเสื้อเต้นบนรถยนต์ เปลือยท่อนบนโชว์สัดส่วนของร่างกายท่ามกลางฝูงชนจำนวนมาก ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 15 เม.ย. บริเวณกลางสี่แยกถนนสีลมตัดนราธิวาส แขวงสีลม เขตบางรัก นั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 18 เมษายน 2554 หญิงสาวทั้ง 3 ในคลิปได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  โดยมีผู้ปกครองของทั้ง 3 คน เป็นผู้พามา

ทั้งนี้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบทราบว่า เยาวชนทั้ง 3 มีอายุ ระหว่าง 13, 14 และ 16 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 388 ที่บัญญัติว่าผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล โดยเปลือย หรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ซึ่งทั้งหมดรับสารภาพ และเสียค่าปรับเป็นเงินคนละ 500 บาท

โดย  ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เผยว่า ตอนเกิดเหตุการณ์ผู้คนที่เล่นน้ำอยู่บริเวณโดยรอบได้ตะโกนยั่วยุให้ตนลุกขึ้นเต้น  พร้อมกับถอดเสื้อผ้า ตนทำไปเพราะความคึกคะนองตามประสาเด็ก และอยากจะขอโทษสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับอย่าได้นำพฤติกรรมดังกล่าวไปลอกเลียนแบบ เพราะจะได้รับผลกระทบไม่ดีตามมา เช่นเดียวกับเด็กหญิงซี ที่กล่าวคำขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ผู้ปกครองของเด็กหญิงเอ แสดงความขอโทษต่อสังคมกับการกระทำของบุตรหลานที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

ส่วนกองเชียร์ หรือผู้สนับสนุนที่พยายามยุยงให้หญิงสาวแสดงท่าทางในลักษณะที่ลามกอนาจาร นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญาในหมวดลหุโทษ ไม่ได้กำหนดบทลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำการในลักษณะดังกล่าว ดังนั้นกองเชียร์ หรือผู้สนับสนุนจึงไม่มีความผิดตามกฎหมาย ขณะที่ผู้เผยแพร่คลิป จะพิจารณาว่าภาพที่ปรากฏทางอินเทอร์เน็ตเข้าข่ายเป็นภาพลามกอนาจารหรือไม่ โดยจะสอบสวนติดตามผู้เผยแพร่คลิปเพื่อเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการติดตามตัวเด็กทั้ง 3 คนมาพบวันนี้ จากเบาะแสของพลเมืองดีที่แจ้งข่าวให้ตำรวจทราบ

อย่างไรก็ตาม นอกจากคลิปของหญิงสาว และสาวประเภทสองที่เต้นในลักษณะอนาจารแล้ว ล่าสุดยังมีกระแสข่าวออกมาว่าได้มีคลิปของชายหนุ่มที่แก้ผ้าล่อนจ้อน และเต้นโยกย้ายไปมา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ถูกเผยแพร่ออกมาทางอินเตอร์เน็ตอีกด้วย โดยยังไม่มีการระบุสถานที่ชัดเจนว่าเป็นที่ใด หรือจะมีการแจ้งความเอาผิดผู้ที่ทำการอนาจารเหมือนอย่างกรณีสามสาวหรือไม