''เอม-เจษยา'' ร่ำไห้! รับสะเทือนใจคำพูด ''สเตฟาน'' ว่ามีหรือไม่มีอะไรให้คิดเอาเอง เผยผู้ใหญ่ในกองถ่าย ''อิเหนา'' สั่งจัดคิวไม่ให้ตนและพระเอกลูกครึ่งเจอหน้ากัน แต่ยังไงก็ต้องมีฉากเข้าร่วมกันอยู่ดี เคลียร์ภาพหลุดสาวหล่อคนสนิทกับ ''เอมมี่-มรกต'' แค่เพื่อนเท่านั้น! ยันเชื่อใจและไม่หึงนางเอกรุ่นพี่อย่างแน่นอน

ยังคงเป็นประเด็นค้างคาใจมานาน จนจะกลายเป็นคู่เกาเหลาไปอีกคู่หนึ่งแล้ว สำหรับกรณีของพระเอกหนุ่มลูกครึ่ง ''สเตฟาน'' ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ กับดาราสาว ''เอม'' เจษยา เวียงเกตุ หลังจากที่มีภาพหลุดของ ''สเตฟาน'' กับ ''สาวเอม'' ควงกันขึ้นห้องจนทั้งคู่ออกมาชี้แจงแต่ไม่ตรงกั้น จนกลายเป็นสงครามน้ำลายที่ดูเหมือนจะจบแต่ก็ยังไม่จบเสียที และก่อนหน้านี้ ''สาวเอม'' ก็ได้ออกมายืนยันชัดว่าไม่ชอบผู้ชาย พร้อมเปิดตัว ''สาวหล่อคนสนิท'' อีกต่างหาก

ล่าสุดก็ได้มีภาพหลุดของสาวหล่อคนสนิทกับ ''เอม-เจษยา'' ที่ถ่ายคู่กับนางเอกสาวรุ่นพี่ ''เอมมี่'' มรกต กิตติสาระ ในท่าทีที่สนิทสนมกันอย่างมาก จนไม่วายมีกระแสวิจารณ์ไปทั่วโลกไซเบอร์ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่อีกด้วย และทันทีที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอ ''สาวเอม-เจษยา'' ในงาน ''เปิดตัวสถาบันเอ็มคอท อะคาเดมี่'' ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาครารที่ทำการ บมจ.อสมท จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาพหลุดดังกล่าวทันที ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ยอมรับว่าเห็นภาพดังกล่าวแล้ว และเปิดเผยว่ายังไม่ได้คุยกับสาวหล่อคนสนิท แต่รู้เพียงแค่ว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาได้สักพักหนึ่งแล้วนั่นเอง

''อ๋อ เห็นภาพแล้วค่ะ ก็หนูถึงบอกไงค่ะว่า เรื่องแบบนี้มันกังวลไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ก็คุยกันแต่ว่าไม่ได้ถามว่าอะไรยังไง คือช่วงที่ผ่านมาหนูถ่ายละครด้วยไงค่ะ ถ่ายเรื่องอิเหนาเนี่ยแหละค่ะ ก็เลยไม่ได้คุยอะไรกันมากมายเลยค่ะ เพราะว่าเรื่องอื่นก็ค่อนข้างจะซีเรียสอยู่แล้วค่ะ ถ้าถามว่าเห็นภาพแล้วหึงพี่เอมมี่ไหมหรือ...หนูรู้สึกว่าเขารู้จักกันมานานแล้วนะคะ ก็เท่าที่หนูรู้นะคะ ตอนที่คันปากทำข่าวพี่เอมมี่ยังบีๆมาบอกพี่เขาเลย เขารู้จักกันอยู่แล้วมากกว่าค่ะ ก็คงเป็นเพื่อนกันค่ะ''

ต่อข้อซักถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ''เอม'' กับสาวหล่อคนดังกล่าวว่าสรุปยังไงกันแน่ ดาราสาวก็ได้ยอมรับว่าเป็นคนที่ตนเองคุยๆ และคบอยู่แต่ยังไม่ถึงขั้นเปิดตัวสักเท่าไร พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เปิดตัวสาวหล่อเพื่อกลบข่าวฉาวระหว่างตนกับพระเอกหนุ่ม ''สเตฟาน'' อย่างแน่นอน

''สนิทๆ กันก็คือถือว่าสนิทกันเลยค่ะ สนิทอยู่ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ก็คุยๆ กันอยู่ค่ะ ก็คบๆ กัน แต่คงไม่ถึงขั้นเปิดตัวค่ะก็คุยๆ อยู่กับคนนี้ค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าถ้าเราเปิดตัวไปแล้ว แล้วมันไม่ใช่ พวกพี่ก็จะรู้สึกอีกแล้วหรอ (คนมองว่าเปิดตัวเพื่อกลบข่าว ''สเตฟาน''?) มีคนพูดเยอะมากค่ะเรื่องนี้ ถามว่าจริงๆ แล้วคือหนูกับพี่เรารู้จักกันมาก่อน ก่อนที่หนูจะรู้จักกับพี่ฟานอีกนะคะ ถ้าเกิดว่าหนูจะมากลบข่าวหรือว่าอะไร คือทุกอย่างหนูไม่เคยไปบอกใครว่าหนูคุยทอมอีกคนหนึ่งอะไรอย่างนี้ จริงแล้วพอมีข่าวเรื่องนี้ออกมา หนูก็เลยบอกว่า ส่วนใหญ่หนูคบทอมนะ หนูไม่ใช่ได้ 2 เพศนะ แต่ว่าถ้าทอมดีกว่าหนูก็คุยกับทอมมันก็ไม่ได้เสียหาย ซึ่งหลังจากที่มีข่าว เขาไม่ได้หึงค่ะ เขารู้ทุกอย่างว่ามันคืออะไร เกิดอะไรขึ้น เกิดขึ้นเพราะว่าอะไร เขาไม่ได้ให้กำลังใจค่ะ เขาบอกว่าทุกอย่างที่เอมทำถูกต้องแล้ว''

ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปถึงปัญหาระหว่าง ''เอม'' กับ ''สเตฟาน'' ที่ผ่านมา ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นคู่เกาเหลากันไปแล้ว แต่ยังต้องทำงานร่วมกันอยู่จะมีปัญหาอะไรไหม? ดารสาว ''เอม'' ก็ได้ยอมรับว่าตอนนี้ทางกองถ่ายละครต้องจัดคิวไม่ให้ตนและพระเอกลูกครึ่ง ''สเตฟาน'' เจอหน้ากันไปก่อน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีฉากที่ต้องเข้าร่วมกันอยู่ดี

''มีถ่ายละครค่ะ แต่ว่าจัดคิวไม่ได้เจอกันค่ะ (ต่างคนต่างอยู่เลย?) ใช่ค่ะ คือว่าเอมถ่ายละครมาที่ผ่านๆ มาถ่าย 2-3 คิวเนี่ยก็จะสวนกันตลอดเลยค่ะ แต่มันก็จะมีเข้าฉากด้วยกันอยู่แล้ว ต้องร่วมฉากกันอยู่แล้ว หนูคิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ช่วงนี้คือต้องบอกตรงๆ เลยว่าผู้ใหญ่จะคิดว่าเราแรงกันทั้งคู่ เขากลัวว่ามันจะมีปัญหาในการทำงาน เพราะตัวหนูเองด้วยการสัมภาษณ์ของหนูด้วยการพูดจาของหนูด้วย สิ่งที่หนูต้องการเรียกร้องความเป็นจริง บางครั้งดูเหมือนแรง แต่จริงๆ แล้วถ้าหนูต้องเจอเขาจริงๆ หนูก็พอทำงานได้ แต่คนที่อ่านข่าวพี่ๆ ในกองที่เขาอ่านข่าว แต่เขาไม่เคยรู้จากปากหนู เพราะหนูไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยสักคนค่ะ เขาจะไม่กล้าพูด แต่เขาก็จะจัดคิวไม่ให้เราเจอกันไปก่อนในช่วงนี้ค่ะ คือภาพหนูมันออกมาเป็นแบบนี้ไปแล้ว เคลีย์ไปยังไงหนูก็เสียไปแล้วอะค่ะ หนูก็แค่อยากจะให้คนเชื่อหนูบ้าง''

จากนั้นดาราสาว ''เอม-เจษยา'' ยังได้กล่าวต่อไปอีกด้วยว่า ตนเองคิดว่าเรื่องราวบาดมางดังกล่าวที่เกิดขึ้นต้องมีคนอยู่เบื้องหลังพระเอกลูกครึ่งอย่างแน่นอน

''หนูคิดว่าเรื่องนี้พี่ฟานไม่ได้เป็นคนคิดเองค่ะ ในความคิดหนูนะคะ หนูว่าเขาไม่ได้คิดเอง ถ้าถามว่าเพราะอะไร หนูก็ไม่ทราบค่ะ แต่หนูคิดว่าคนอย่างเขา คำพูดเขาที่ว่ามีอะไรไม่มีอะไรให้คิดเอาเองเนี่ยหนูคิดว่ามันไม่น่าใช้พี่ฟานค่ะ อาจมีคนบอกเขาให้พูดก็ได้ หนูคิดว่าไม่น่าออกมาจากปาก หนูก็ไม่ทราบค่ะว่าใคร หนูไม่อยากคิดอะไรไปเองคนเดียว คือ ทุกอย่างหนูไม่เคยพูดว่าเขามาจีบหนูอยู่แล้วไงค่ะ แต่คือเขาออกมาพูดอย่างนี้มันก็เหมือนกับเตี๊ยมไว้แล้ว ออกมาพูดแบบนี้ซึ่งมันไม่ใช่อะพี่ เราไม่ได้คุยกันมาก่อน ถามว่าผู้หญิงทุกคนมันก็ต้องเป็น เออแบบว่าไปงานไหนมาไหนดูรูปหน่อยสิ...ก็โดนด่าว่าเกาะผู้ชายดัง ซึ่งบอกตรงๆ ว่าดังแบบนี้มันจะดังไหม เขาเรียกว่าหนูสร้างกระแสให้ตัวเองเสียเนี่ยไม่ได้อะไร ถ้างานอีเวนต์หนูก็ไม่ได้ เพราะหนูไม่เคยมีอีเวนต์อยู่แล้ว (น้ำตาเริ่มคลอ) แค่หนูอยากจะบอกว่าที่หนูออกมาพูดเนี่ย เพราะว่ามันต้องทำงานไงค่ะ หนูก็ไม่คิดว่าอะไรจะขนาดนั้น ก็พูดความจริงทุกอย่าง บางอย่างหนูก็ไม่สามารถพูดได้ หนูก็ตอบได้เท่าที่หนูตอบได้เท่านั้นค่ะ''

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า คำพูดตรงไหนของ ''สเตฟาน'' ที่ทำให้ ''เอม'' สะเทือนใจ จนต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองนั้น ดาราสาวก็ได้ปล่อยโฮออกมาทันที

''ก็ที่พี่ฟานบอกว่า มีอะไรหรือไม่มีอะไรให้ทุกคนคิดเอาเอง คือหนูไม่รู้จะพูดไงพี่ (ร้องไห้) หนูไม่ได้พูดว่าพี่ฟานจีบหนู ถูกไหมค่ะ เป็นพี่เป็นน้องกัน คือเป็นพี่เป็นน้องกันแล้วที่เขาพูดว่าเขาเตี๊ยมกับหนูแล้วทำไมให้ข่าวตลบหลัง คือตรงนี้ถ้าพวกพี่จำได้ หนูเคยพูดหนูเคยส่งเมสเซจไปหาเขาอะไรก็แล้วแต่ อย่าทำให้หนูเสีย แต่หนูไม่ได้บอกพวกพี่ตรงนี้ว่าภาพที่หลุดมันออกมาจากห้างก็ได้  แต่คือเขาหนูเสียใจตรงนี้ที่เขาบอกว่าหนูพูดอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมันไม่ใช่เรา ไม่ได้คุยกันอ่ะพี่  คือหนูส่งเมสเซจไปจริงตอนที่เห็นภาพ ตอนนั้นเราไม่ได้คุยกันอยู่แล้วค่ะ คือเราไม่คุยกันเลยค่ะ คือให้หนูพูดอีกหนูไม่พูดแล้ว หนูพูดความจริงไปหมดแล้ว หนูก็พูดเต็มที่แล้ว เต็มที่แล้วแค่นี้ แต่เขามาให้ข่าวว่าเขาจะจีบหนูจริงจังแล้วเตี๊ยมกันไว้ แต่แบบนี้ก็ไม่อยากจะติดต่อแล้ว ซึ่งหนูก็อยากจะบอกว่า ผู้ชายไม่ได้จีบหนูนะ แต่พี่ฟานให้ข่าวแบบนี้หนูก็ไม่รู้จะพูดยังไง หลังจากนั้นหนูก็ไม่ได้เจอสื่ออีกเลย แต่ก็มีโทร.มาถามบ้าง แต่หนูก็พูดความจริงเท่าที่หนูพูดได้เท่านั้น''

อย่างไรก็ตามเมื่อถามต่อว่า ผู้ใหญ่ว่ายังไงกับกระแสข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นบ้าง ''สาวเอม'' ก็ได้ชี้แจงทันทีว่า

''ผู้ใหญ่แทบไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำค่ะ เขาก็รู้แค่จากข่าวเขาก็ไม่กล้าถามหนู หนูก็ต้องออกมาแก้ในสิ่งที่หนูเสียหาย เขาก็คงจะเสียหายคงแก้ตัวของเขา อย่างอื่นก็ออกมาพูดเท่าที่หนูพูดได้ ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เรื่องมันเป็นแบบนี้เท่านั้นเองค่ะ'' เอมกล่าวในที่สุด