เรียกน้ำย่อยก่อน 2 ยกสุดท้าย "เอล กลาซิโก้" ในสังเวียน แชมเปี้ยนส์ ลีก เกจิด้านจิตวิทยาและโค้ช ฟันธง โชเซ่ มูรินโญ่ กับ โจเซป กวาร์ดิโอล่า มีวิธีการคุมทีมแทบไม่แตกต่างกัน ยกเว้นบุคลิกภาพและพฤติกรรมนอกสนาม ระบุ "จ่ามู" เหนือกว่าเรื่องความเก๋าประสบการณ์ เหตุผ่านงานกุมบังเหียนทีมยักษ์ใหญ่มากมาย แถมรับมือกับความกดดันได้ดีกว่า ส่วน "เป๊ป" ทั้งเก่งทั้งสุภาพและจงรักภักดีต่อ "บาร์ซ่า" อย่างสุดๆ

 นักจิตวิทยาการกีฬา และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกสอนกีฬา ร่วมด้วยช่วยกันเปรียบเทียบสองสุดยอดโค้ชลูกหนังโลกระหว่าง โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวแคว้นกาตาลันที่มีบุคลิกหมกหมุ่นครุ่นคิด และลึกลับซับซ้อนของ บาร์เซโลน่า กับ โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ปากสว่างชาวโปรตุเกสของ เรอัล มาดริด ที่มีอันต้องนำลูกทีมลงซดแข้ง "เอล กลาซิโก้" 4 ยกในรอบ 18 วัน โดย 2 ยกสุดท้ายจะเป็นการชิงชัยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ 2 นัดรวดโดยชี้ว่า ทั้งคู่มีวิธีการทำงานคล้ายคลึงกัน และมัดใจลูกทีมได้เหมือนกัน หากแต่แตกต่างกันอย่างแรงในเรื่องบุคลิกภาพ โดยเฉพาะพฤติกรรมนอกสนาม ตั้งแต่การนั่งโต๊ะแถลงข่าวไปจนถึงการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

  กวาร์ดิโอล่า ดูจะพูดจานิ่มนวลและสุภาพมากกว่า อีกทั้งยังเคารพคู่แข่งเป็นอย่างมาก และแทบจะไม่เคยสูญเสียการควบคุมอารมณ์ตัวเองต่อหน้าสาธารณชนแต่อย่างใด ในขณะที่ความมั่นใจในตัวเองของ มูรินโญ่ มักจะถูกตีความไปในทางเย่อหยิ่งจองหอง รวมทั้งเจ้าตัวยังชอบโจมตีฝั่งตรงข้ามอย่างสม่ำเสมอ, ประณามกรรมการในทำนองว่า อคติ, วิจารณ์ฝ่ายจัดการแข่งขันว่า จัดคิวแข่งโดยไม่ยอมให้ลูกทีมของตนได้พักเพียงพอ, ปะทะคารมกับโค้ชทีมคู่แข่งอยู่เป็นประจำ และแม้กระทั่งตำหนิสโมสรของตัวเองก็เคยทำไปได้

  โจอากิน โดซิล ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการกีฬาจากมหาวิทยาลัยบีโก้ ทางตอนเหนือแดนกระทิงดุ กล่าวผ่าน "รอยเตอร์ส" สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง ว่า "พฤติกรรมของ กวาร์ดิโอล่า เป็นแบบฉบับของโค้ชสโมสรฟุตบอลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหมกหมุ่นครุ่นคิด, ทัศนคติที่ถูกต้อง, เห็นอกเห็นใจ และพร้อมที่จะเข้าใจคนอื่นๆ ส่วน มูรินโญ่ มีภาพลักษณ์ของโค้ชที่มีความยืดหยุ่นต่อกฎระเบียบ, ก้าวร้าว, ตรงไปตรงมา และมีความทะเยอทะยาน"

   "ทั้งสองคนมีวิธีการทำงานวันต่อวันเหมือนๆ กันในการจัดระบบการฝึกซ้อมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้นักเตะแสดงฝีเท้าออกมาได้ในระดับสูงสุดของตัวเอง" โดซิล ที่เคยตีพิมพ์หนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับจิตวิทยาการกีฬา ระบุ

  ด้าน ฆวน การ์ลอส กูเบโร่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกสอนกีฬา และร่วมเป็นนักเขียนในหนังสือ "มูรินโญ่ ปะทะ กวาร์ดิโอล่า" (Mourinho versus Guardiola) ชี้ว่า กวาร์ดิโอล่า ประสบความสำเร็จในการสร้างสถานภาพของ "บาร์ซ่า" ในฐานะสัญลักษณ์และความภาคภูมิใจในความเป็นชนชาติกาตาลัน ขณะที่ มูรินโญ่ เหมาะสมอย่างมากๆ กับ เรอัล มาดริด ที่มีภาพลักษณ์ความเป็นสากลมากกว่า ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเป้าหมายของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร ที่ต้องการสร้างสโมสรให้ร่ำรวยที่สุดในโลกทั้งในแง่รายได้และความสำเร็จ

  กูเบโร่ อธิบายว่า "กวาร์ดิโอล่า มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นหรือได้ประโยชน์จาก บรรยากาศรอบๆ สโมสรที่ดูเหมือนบริษัทครอบครัว มูรินโญ่ หล่อหลอม "ฟลอเรนติโน่ โมเดล (แบบจำลอง)" ซึ่งมีความเป็นสากลมากกว่า และคุณจะเห็นจุดนี้ได้เลยจากหลากหลายภาษาที่เขาพูดได้ กวาร์ดิโอล่า จงรักภักดีต่อ บาร์ซ่า มากๆ และเขาก็มักจะแสดงให้เห็นถึงเรื่องนั้นเสมอ มูรินโญ่ เกิดมาเพื่อเป็นนักเดินทาง ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่คลาสสิกสุดๆ สำหรับชาวโปรตุเกสในต่างแดน"

 สำหรับจุดแข็งอีกประการหนึ่งของ "จ่ามู"  ซึ่งเชื่อมโยงกับความเป็นตัวตนในที่สาธารณะของเจ้าตัว นั่นก็คือการประพฤติตนเสมือนหนึ่งเป็นโล่กำบังให้กับนักเตะ โดย กูเบโร่ ชี้ว่า "นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาทำงานที่สโมสรแห่งนี้ และเป็นบางสิ่งที่เขาทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเป็นพิเศษ"