คนเราชีวิตไม่แน่นอน ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ได้รับการยกย่อง แต่พอถึงเวลาเปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนที่อยู่ ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง ดูได้จากบรรดานักเตะที่ได้รับการจับตามองว่าจะฟอร์มฮอต แต่สุดท้ายพอย้ายทีมกลายเป็นส่วนเกินแบบไม่อยากเชื่อ ว่าแล้วก็ลองมาพิจารณากันดูว่าจริงหรือเปล่า

10. มารูยาน ชามัคห์ (บอร์กโดซ์ มาเล่นให้ อาร์เซน่อล แบบไม่มีค่าตัว)
      ดาวยิงทีมชาติโมร็อกโก เป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองอย่างมากตอนที่ล่าตาข่ายให้กับ บอร์กโดซ์ โดยนักเตะได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสร แต่ อาร์เซน่อล เป็นทีมที่คว้า ชามัคห์ มาครอบครองได้สำเร็จ แน่นอนว่าการได้ดาวยิงฝีเท้าฉมังทำให้สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ยิ้มระรื่นกันยกใหญ่ แต่ไปๆ มาๆ ความสามารถของเขาไม่สามารถเอาชนะคุณภาพของ นิคลาส เบนท์เนอร์ ได้ และต้องทำหน้าที่เป็นเพียงยางอะไหล่เท่านั้น ดังนั้นสถิติกระซวยตาข่ายคู่แข่งแค่ 11 ประตูคงไม่ต้องแปลกใจหาว่า หัวหอกรายนี้ จะอำลาถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจบฤดูกาลนี้

9. มาริโอ บาโลเตลลี่ (จาก อินเตอร์ มิลาน มาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 23 ปอนด์ ประมาณ 1,104 ล้าน)
       เรื่องพรสวรรค์คงไม่มีใครปฏิเสธว่า บาโลเตลลี่ เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนังโลก เมื่อย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ช่วงแรกๆ "ซูเปอร์มาริโอ" ก็ทำผลงานได้ดี แต่หลังๆ ผลงานก็ยังโอเค เพียงแต่พฤติกรรมในสนามกับนอกสนามแย่เหลือเกิน ล่าสุดเพิ่งจะสร้างวีรกรรมแสดงความยินดีต่อหน้าสาวก "เร้ด อาร์มี่" หลังเขี่ย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วงตกรอบตัดเชือก ศึกเอฟเอ คัพ งานนี้สร้างความขุ่นเคืองให้กับคนเสื้อแดงอย่างถ้วนหน้า

       ยังไม่หมดแค่นั้น หากเคยสังเกต บาโล ไม่เคยแสดงความยินดีไม่ว่าจะยิงประตูได้เอง หรือเพื่อนร่วมทีมตะบันตาข่ายคู่แข่ง (ยกเว้นกรณีชนะ แมนฯ ยูฯ) เหตุหนึ่งที่นักเตะเป็นแบบนี้เพราะหัวใจอยากย้ายไปเล่นกับ เอซี มิลาน เพราะตั้งแต่ต้นซีซั่นจนถึงตอนนี้ไอ้น้องหน้าดำเลือดอิตาเลียน ไม่เคยเก็บความรู้สึกอยากเป็นแข้ง "ปีศาจแดง-ดำ" แม้แต่ครั้งเดียว

8. สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ (จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นกับ แอสตัน วิลล่า)
       อุตสาห์ซุ้มซ่อมพิเศษช่วงปิดซีซั่น หวังจะได้เป็นตัวจริงกับ แมนฯ ซิตี้ แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังเพราะ ไอร์แลนด์ ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือชาวอิตาเลียน และโดนขายให้ วิลล่า ไปแบบไม่ใยดี อย่างไรก็ตาม การที่ มาร์ติน โอนีล นายใหญ่คนเก่ง ตัดสินใจอำลาถิ่นวิลล่า พาร์ค งานนี้ ไอร์แลนด์ ก็เคว้งซิครับ และไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเจ้าตัวถึงตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งแบบยืมตัวกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สำหรับตอนนี้ชีวิตยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน แต่ที่แน่ๆ คงหวังทำผลงานให้ดีกับ "สาลิกาดง" เพื่ออนาคตอาจจะไปได้สวยก็เป็นไป

7. โจ โคล (จาก เชลซี มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล แบบไม่มีค่าตัว)
       โคลหล่อ เป็นหนึ่งในนักเตะเนื้อหอมหลังจากเจ้าตัวมีสิทธิ์ย้ายไปเล่นกับทีมไหนก็ได้ตามกฎบอสแมน แน่นอนว่าคุณภาพของเขามีหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกเมืองผู้ดีที่พร้อมควักกระเป๋าค่าเหนื่อยให้ โคล เต็มเม็ดเต็มหน่วย และก็เป็น ลิเวอร์พูล ที่คว้าตัวมิดฟิลด์เชิงสูงรายนี้มาครอง โดยตอนนั้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีม ถึงขนาดแหกปากโวว่า อดีตแข้งเชลซี มีทักษะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ลิโอเนล เมสซี่  เลยทีเดียว !!??

       อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คาดฝัน เพราะ โคล มักจะมีปัญหาบาดเจ็บเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงไม่สามารถพิสูจน์ความสามารถของเขาได้มากนัก แต่หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป ถ้านักเตะไม่ย้ายทีม ตำแหน่งของเขาน่าจะอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่แหงๆ

6. เซบาสเตียน สกิลลาชี่ (จาก เซบีย่า มาเล่นกับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ ประมาณ 240 ล้านบาท)
       เซนเตอร์แบ็กเลือดเฟร้นช์ ถือว่าเป็นนักเตะที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่ด้วยฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวา ทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยได้โอกาสมากนัก แน่นอนว่านักเตะเซ็นสัญญาอยู่กับ "ไอ้ปืนใหญ่" ระยะยาวก็ตาม แต่ผลงานแบบนี้ยังไม่แน่ใจว่านักเตะจะได้อยู่ครบสัญญา 2013 หรือเปล่า ?

5. พอล คอนเชสกี้ (จาก ฟูแล่ม มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ ประมาณ 168 ล้านบาท)
       สำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" คอนเชสกี้ น่าจะเป็นการเซ็นสัญญาที่เลวร้ายสิ้นดี โดยนักเตะโดน รอย ฮ็อดจ์สัน อดีตกุนซือ "หงส์แดง" ดึงตัวมาร่วมทีมด้วยสัญญา 4 ปี แต่รู้สึกว่านักเตะไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเอาซะเลย แน่นอนว่าหลังจาก ฮ็อดจ์สัน โดนปลดออกจากตำแหน่ง ดาวเตะวัย 29 ปี ก็ไม่มีที่ยืนในถิ่นแอนฟิลด์อีกต่อไป และหนทางเดียวก็คือการออกไปหาประสบการณ์ใหม่ดีกว่า ว่าแล้วเจ้าตัวก็ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ส่วนอนาคตกับ ลิเวอร์พูล คงต้องดูผลงานของเขากับ "เจ้าป่า" แต่หากยังห่วยเหมือนเดิม ก็เตรียมเก็บเสื้อผ้าออกจาก "เดอะ เร้ดส์" ได้เลย

4. คริสเตียน โพลเซ่น (จาก ยูเวนตุส มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ ประมาณ 216 ล้านบาท)
       ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์ก ย้ายมาพร้อมกับความคาดหวังว่าจะทำหน้าที่แทน ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ห้องเครื่องเลือดอาร์เจนไตน์ที่ย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า รวมทั้ง อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ที่ถูก ยูเวนตุส ยืมตัว แต่ขอโทษครับผลงานของ โพลเซ่น ไม่เข้าตาทั้ง ฮ็อดจ์สัน และ เคนนี่ ดัลกลิช นายใหญ่คนปัจจุบัน ที่สำคัญตอนนี้ โพลเซ่น ยังต้องเป็นแค่ยางอะไหล่ของ เจย์ สเพียริ่ง ดาวรุ่ง "หงส์แดง" แบบนี้คงรู้ว่าเจ้าตัวอนาคตมืดมนขนาดไหน

3. เฟร์นานโด ตอร์เรส (จาก ลิเวอร์พูล มาเล่นกับ เชลซี ค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ประมาณ 2,400 ล้านบาท)
       ลองดูจำนวนเงินที่ ตอร์เรส ย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริจด์ กับจำนวนประตูที่ถล่มให้ ลิเวอร์พูล คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าตัวตกเป็นที่คาดหวังของแฟนบอล "สิงห์บลูส์" แต่ขอโทษ "เอล นินโญ่" แทบจะไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับต้นสังกัดใหม่เลย อาจเป็นเพราะค่าตัวมหาศาลทำให้เขาต้องแบบรับความกดดันจนไม่สามารถตะบันตาข่ายคู่แข่งได้เลยนับตั้งแต่ที่ย้ายมาเล่นกับ เชลซี

       อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เลวร้ายของ ตอร์เรส หมดไปแล้ว เมื่อเจ้าตัวกดประตูในเกมช่วย "สิงโตน้ำเงินคราม" ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ยุติสถิติไร้สกอร์จำนวน 903 นาที ลงได้ซะที แต่กระนั้น หัวหอกเลือดกระทิง ก็ถือว่าเป็นการซื้อที่ไม่คุ้มค่าเอาซะเลยหากมองจากค่าตัวตั้ง 50 ล้านปอนด์ เอาเหอะทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกลืมเลือนไปทันทีหากวินาทีต่อจากนี้ ดาวยิงทีมชาติสเปน จะซัดกระจายจนนำ เชลซี แซงหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ได้

2. เอดิน เซโก้ (จาก โวล์ฟบวร์ก มาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ประมาณ  1,296 ล้านบาท)
       เซโก้ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สโมสรชั้นนำในยุโรปอยากดึงตัวไปล่าตาข่ายอย่างมากเมื่อ 12 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเป็น แมนฯซิตี้ ที่คว้าตัวมาได้สำเร็จ โดยหัวหอกทีมชาติบอสเนีย ทำผลงานได้น่าผิดหวังกับ "เรือใบสีฟ้า" เพราเพิ่งทำประตูได้แค่ 1 ลูก จากเกมลีกเมืองผู้ดี ในแมตช์เฉือน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-0 แต่ถ้าฟอร์มในฟุตบอลถ้วยพี่ท่านซัดสนุกเท้า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของนักเตะในตอนนี้ทำให้มีข่าวลือว่าอาจจะหมดอนาคตในถิ่นซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แต่ก็ไม่แน่หากเกิดฟอร์มฮอตในช่วงท้ายซีซั่น แถมนำความสำเร็จมาสู่ต้นสังกัด ก็มีสิทธิ์อยู่โยงกับ แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ ต้องรอดูต่อไป

1. เบเบ้ (จากวิตอเรีย กิมาไรช์ มาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ประมาณ 336 ล้านบาท)
       จากนักเตะโนเนม เบเบ้ กลายเป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างมากเมื่อย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยการเซ็นสัญญาในครั้งนี้หลายคนต่างช็อก เพราะไม่เคยรู้จักชื่อหัวหอกเลือดฝอยทองรายนี้เลย แต่ "ผีแดง" มั่นใจว่า เบเบ้ มีดีแน่นอนไม่งั้นไม่ควักกระเป๋าซื้อมาร่วมทีมหรอก

       อย่างไรก็ตาม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" ได้แต่นั่งเศร้า เพราะไม่คิดว่า เบเบ้ จะห่วยได้ใจขนาดนี้ โดยเจ้าตัวไม่เคยสร้างความประทับใจจนยึดตำแหน่งในทีมชุดใหญ่เลย ที่สำคัญมีข่าวว่า เซอร์เฟอร์กี้ เอือมระอากับผลงานของนักเตะจนอยากจะเขี่ยทิ้งแล้ว และการดึงตัวในครั้งนี้เป็นเครื่องการันตีว่าแมวมองของ "เร้ด เดวิลส์" ห่วยแตกแค่ไหน