ชักติดใจโชว์เป้าบึ้ม...เดวิด เบ็คแฮม ดาวเตะรูปหล่อคนดัง หาทางรวยอีกแล้วครับท่าน! ล่าสุดไอเดียบรรเจิด เตรียมเปิดขายกางเกงในยี่ห้อตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย หลังถ่ายแบบสยิวกิ้วกับ "อาร์มานี่" ทำยอดขาย กระฉูดแตก เผยเดินเครื่องกิจการเรียบร้อย แม้ต้องขัดใจแม่ที่แทบช็อกหลังได้เห็นป้ายโฆษณาโชว์ตุงก็ตาม

  เด วิด เบ็คแฮม กองกลางซูเปอร์สตาร์ประจำทีม ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ ในศึก เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ (เอ็มแอลเอส) สหรัฐอเมริกา เตรียมเสนอโอกาสให้แฟนๆ ได้สวมใส่กางเกงในของตัวเอง ด้วยการเจริญรอยตาม วิคตอเรีย ศรีภรรยา ในการเป็นดีไซเนอร์ โดยจะออกแบบกางเกงในยี่ห้อของตัวเองเพื่อวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ หลังจากที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการลงทุนแก้ผ้าเป็นนายแบบเป้าบึ้มให้กับ กางเกงใน "อาร์มานี่" ซึ่งทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดเกือบ 2 เท่าตัวเลยทีเดียว

  อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ กล่าวว่า "ตอนนี้ผมมีไอเดียที่จะทำชุดชั้นในคอลเล็กชั่นใหม่มาพักใหญ่แล้ว แรง

ผลักดันในการทำยี่ห้อของตัวเองนี้มาจากผลพวงในการร่วมงานกันระหว่างผมกับ อาร์มานี่ นั่นเอง มันพิสูจน์ให้ผมได้เห็นไปแล้วว่า มีตลาดที่แท้จริงสำหรับชุดชั้นในท่านชายที่ดูดีมีระดับ และผลิตด้วยวัสดุชั้นเยี่ยมอย่างถนัดชัดเจน"

    อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์รูปหล่อที่กำลังจะมีลูกคนที่ 4 ซึ่งกำลังร่วมงานกับทีมงานของตนเองในการออกแบบ

ปราการด่านสุดท้ายของท่านชายอย่างขะมักเขม้น ยอมรับว่า เกรงใจมารดาของตนเองอยู่ไม่น้อย หลังจากที่เคยทำให้

คุณแม่ถึงกับช็อกมาก่อนแล้ว จากการโชว์ของดีในการถ่ายแบบโฆษณาให้กับ "อาร์มานี่" ที่มีการนำไปเผยแพร่ในรูป

แบบป้ายโฆษณายักษ์ใหญ่ในหลายๆ ประเทศเลยทีเดียว

 "ทีมของผมกำลังทำงานร่วมกับผมเพื่อเสาะแสวงหาเส้นใยที่เหมาะสม และรูปแบบที่จะทำให้มั่นใจได้ว่า

ผลิตภัณฑ์จะออกมาดูดีที่สุด และทำให้รู้สึกดีที่สุด และผมก็ภูมิใจอย่างใหญ่หลวงกับผลลัพธ์ที่ออกมา ผมแทบจะอดทนรอคอยไม่ไหวอยู่แล้วที่จะแสดงให้ผู้คนได้เห็นคอลเล็กชั่นนี้ แม้ผมจะไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่า แม่ของผมจะมีความสุข เมื่อได้เห็นป้ายโฆษณายักษ์ใหญ่ที่มีรูปผมนุ่งกางเกงในอีกครั้งก็ตามที"

   ด้าน ไซม่อน ฟูลเลอร์ อดีตผู้จัดการ สไปซ์ เกิร์ลส์ วงดนตรีหญิงล้วนชื่อดังเมืองผู้ดี ซึ่งทำหน้าที่ดูแลธุรกิจของ

ผัวเมียเบ็คแฮม กล่าวว่า "เดวิด กับผมมีความทะเยอทะยานมากมาย และไอเดียที่น่าตื่นเต้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่

หลากหลาย อีก 10 ปีข้างหน้าจะได้เห็น เดวิด ก้าวหน้าไปสู่การเป็นที่จดจำไม่เพียงแต่ในฐานะผู้มีชื่อเสียงและเป็น

สัญลักษณ์ของวงการกีฬาเท่านั้น หากแต่ยังจะเป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจคนสำคัญอีกด้วย"