ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » เซเรีย อา อิตาลี » อูดิฯยันมิลาน0-0ซิวคัดยูฟ่า,ลาซิโอ4-2คว้ายูโรปา

อูดิฯยันมิลาน0-0ซิวคัดยูฟ่า,ลาซิโอ4-2คว้ายูโรปา

Posted 23/05/2011 by siamsport

 

 

 อูดิเนเซ่า เปิดบ้านยันเสมอ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซีมิลาน 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้มแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ อูดิฯ จบอันดับ 4 ผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ ด้าน "อินทรีฟ้า-ขาว" ลาซิโอ ฟอร์มสดบุกไล่ต้อน เลชเช่ 4-2 จบเพียงแค่อันดับ 5 ได้แค่ไปเตะในศึก ยูโรปา ลีก ขณะที่ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ทำได้เพียงเปิดบ้านไล่ตามเสมอ นาโปลี 2-2 จบอันดับ 7 พลาดโควตาฟุตบอลสโมสรยุโรปไปอย่างน่าผิดหวัง


ฟุตบอล กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2554

อูดิเนเซ่  0  -  0  เอซี มิลาน


สนาม : สตาดิโอ ฟริอูลี่



        อูดิเนเซ่ เปิด สตาดิโอ ฟริอูลี่ รอรับ เอซี มิลาน โดยต้องการเพียงแต้มเดียวก็จะผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า เกมนี้ส่งชุดใหญ่ พร้อมได้ อเล็กซิส ซานเชซ หายเจ็บกลับมาจับคู่ล่าตาข่ายกับ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ส่วนผู้มาเยือนได้ เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง พ้นแบน แต่ส่งสำรองหลายราย คู่หน้าเลือกใช้ อเล็กซานเดร ปาโต้ และ อันโตนิโอ คาสซาโน่


        เจ้าบ้านรุกใส่ทันที ซานเชซ จ่ายเข้าเขตโทษให้ เมาริซิโอ อิสลา ซัดเหินข้ามคานออกหลังไป


        ลูกทีมของ ฟรานเชสโก้ กุยโดลิน ยังดาหน้าบุก และมาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ ดิ นาตาเล่ รับหน้าที่สังหาร บอลพุ่งโค้งชนเสาอย่างน่าเสียดาย


        "ปีศาจแดง-ดำ" มีโอกาสบ้าง มาติเยอ ฟลามินี่ ทำชิ่งให้ ปาโต้ หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช รับสบาย


        ทั้งสองทีมเริ่มเปิดเกมแลกกัน นาทีที่ 35 ปาโบล อาร์เมโร่ ครอสจากขวาเข้ากลาง ซานเชซ สอดเข้ามาโหม่งข้ามคานไปอีก


        จากนั้น คาสซาโน่ โยนจากขวาไปเสาสองให้ บัวเต็ง วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ บอลเหินข้ามคานไปแบบได้เสียว


        ท้ายครึ่งแรก คาสซาโน่ ตัดสินใจสับไกด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งเฉี่ยวเสาไปแบบ ฮันดาโนวิช ขาตายแล้วด้วย จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมจึงเจ๊ากันไปก่อนแบบไร้สกอร์


        ครึ่งหลัง มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี แก้เกมด้วยการถอด มาร์ค ฟาน บอมเมล ออก พร้อมส่ง อูร์บี้ เอมานูเอลสัน ลงเล่นแทน


        มิดฟิลด์ชาวดัตช์ลงมาไม่นานก็มีโอกาสทันที เมื่อกระหน่ำด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งเหินข้ามคานแบบได้ลุ้น


        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 64 ดิ นาตาเล่ วิ่งขึ้นไปรับบอลจากแดนหลัง ก่อนกระหน่ำด้วยขวาเต็มข้อ แต่ มาร์โก อเมเลีย ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม


        ให้หลังไม่นาน ซานเชซ กระชากเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ ยังเป็น อเมเลีย ที่ซูเปอร์เซฟไว้ได้อีกครั้ง


        นาทีที่ 73 อูดิฯ มาได้จุดโทษ หลัง ซานเชซ ไปถูก เซดอร์ฟ เสียบล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ทันที ดิ นาตาเล่ รับหน้าที่สังหาร แต่ อเมเลีย พุ่งปัดบอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย


        เจ้าถิ่นยังดาหน้าบุก โกคาน อินแลร์ ส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนคาน ก่อนกระเด้งมาชนเสาอย่างเหลือเชื่อ


        ช่วงเวลาที่เหลือ อูดิฯ ยังรักษาสกอร์นี้เอาไว้ได้ จบเกมทั้งสองทีมจึงเสมอ 0-0 แต่ยังเพียงพอที่จะทำให้ อูดิฯ จบอันดับ 4 ของตาราง ผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ เรียบร้อย


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


        อูดิเนเซ่ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช; เมห์ดี้ เบนาเตีย, คริสเตียน ซาปาต้า, เมาริซิโอ โดมิซซี่; เมาริซิโอ อิสลา, จามปิเอโร่ ปินซี่, โกคาน อินแลร์, ควัดโว อซาโมอาห์, ปาโบล อาร์เมโร่; อเล็กซิส ซานเชซ, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่

        สำรอง : เอมานูเอเล่ เบลาร์ดี้, กาบริเอเล่ อันเจลล่า, โจวานนี่ ปาสกวาเล่, เอ็มมานูเอล บาดู, อัลเมน อับดี้, เกร์มัน เดนิส, แบร์นาร์โด้ คอร์ราดี้


        มิลาน : มาร์โก อเมเลีย; อินยาซิโอ อบาเต้, ติอาโก้ ซิลวา, มาริโอ เยเปส, ดิดัค บีล่า; มาติเยอ ฟลามินี่, มาร์ค ฟาน บอมเมล, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ; เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง; อเล็กซานเดร ปาโต้, อันโตนิโอ คาสซาโน่

        สำรอง : คริสเตียน อับเบียติ, อเลสซานโดร เนสต้า, จานลูก้า ซามบร็อตต้า, อูร์บี้ เอมานูเอลสัน, อันเดรีย ปีร์โล่, มัสซิโม่ อัมโบรซินี่, โรบินโญ่




เลชเช่  2  - 4   ลาซิโอ


สนาม : เวีย เดล มาเร่


        เลชเช่ ที่การันตีการอย่รอดใน กัลโช่ เซเรีย อา ได้แน่นอนแล้ว เปิดรังเวีย เดล มาเร่ รับมือ ลาซิโอ ที่ยังคงมีลุ้นไป แชมเปี้ยนส์ลีก ลุยจิ เด คานิโอ จัดทัพมาในรับระบบ 4-4-1-1 ให้ อิ๊กนาซิโอ ปิอัตติ ยืนหน้าต่ำ และวาง ดาวิด ดิ มิเคเล่ เป็นหน้าเป้า ขณะที่ เอโดอาร์โด้ เรย่า ได้ อันเดร ดิอาส กับ คริสเตียน บร็อคคี่  พ้นแบนกลับคืนตัวจริง ส่วนสามประสานแนวรุกเป็น สเตฟาโน่ เมารี, แอร์นาเนส และ เมาโร ซาราเต้ หน้าเป้าวาง ตอมมาโซ่ ร็อคคี่


        เปิดฉากมาทีมเยือน "อินทรีฟ้า-ขาว" ทักทายได้ลุ้นก่อนเลย คริสเตียน บร็อคคี่ เลี้ยงบอลมาครอสเข้ากลางให้
ร็อคคี่ เทกขึ้นโขกบอลกลางประตูหลุดเสาไกลนิดเดียว


        อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 6 ร็อคคี่ มาเบิกประตูขึ้นนำ 1-0 ให้ ลาซิโอ จนได้ สเตฟาโน่ เมารี ไหลบอลเรียดมาให้คริสเตียน เลเดสม่า วางบอลยาวสุดสวยมาให้ ร็อคคี่ สับไกบอลด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปงดงาม


        10 นาทีต่อมา ลาซิโอ เกือบบวกเป็นสอง เมารี เปิดบอลมาให้ เมาโร ซาราเต้ แต่งหาจังหวะส่องไกลบอลไปเข้าซอง มัสซิมิเลียโน่ เบนาสซี่ ยืนรับถูกตำแหน่ง


        แต่แล้วในนาที 32 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เริงร่ากับประตูตีเสมอ จูเซ็ปเป้ วิเวส ทำชิ่งกับ ดาวิเด้ บริวิโอ ก่อนจ่ายบอลมาถึง มายูเอล ค็อปโปล่า กดบอลด้วยขวาเสียบตาข่าย  เลชเช่ ตีเจ๊าเป็น 1-1


        ทว่าเจ้าบ้านได้ดีใจเพียงแค่ 2 นาที ก็ต้องมาหงายหลังอีกครั้ง ร็อคคี่ เก็บบอลลงและไหลต่อให้ เมาโร ซาราเต้ ซัดบอลเต็มข้อเสียบมุมเด็ดขาด ช่วยให้ ลาซิโอ ออกนำเป็น 2-1


        เกมสุดมันส์เข้มข้นได้ใจนาที 42 แฟนบอลเจ้าบ้านมาได้เฮคำรบสอง วิเวส วางบอลออกริมเส้นให้ จูลิโอ โดนาติ แบ็กขวาเติมเกมมาเปิดบอลถึง จานนี่ มูนารี่ แปะต่อให้ อิ๊กนาซิโอ ปิอัตติ กระหน่ำบอลเน้นๆด้วยซ้ายเข้าไปซุกก้นตาข่ายเด็ดขาด เลชเช่ ตีเสมอเป็น 2-2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้


        ครึ่งหลังดำเนินมาถึงนาที 52 สถานการณ์ของเจ้าบ้านเลวร้ายลงสุดขีด มัสซิมิเลียโน่ เบนาสซี่ นายด่านเจ้าบ้านไปทำฟาวล์ ร็อคคี่ ในเขตโทษ จานลูก้า ร็อคคี่ ผู้ตัดสินไม่ลังเลเป่าเป็นจุดโทษพร้อมกับชูใบแดงไล่ เบนาสซี่ ออกไปจากสนามด้วย ทำให้ ลุยจิ เด คานิโอ ต้องถอด ดาวิด ดิ มิเคเล่ ออกมา และส่ง อันโตนิโอ โรซาติ นายด่านสำรองยืนเฝ้าเสาแทน


        เวลาเดินมา 2 นาที เป็น ซาราเต้ รับอาสาสังหารจุดโทษเข้าประตูไปไม่มีผลาด ลาซิโอ ออกนำ 3-2 และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในนัดนี้


        หลังได้เปรียบจำนวนตัวผู้เล่น นาที 62 ลาซิโอ มาหนีห่างเป็น 4-2 จนได้แบบไม่ต้องออกแรงส่งบอลเข้าประตู ซาราเต้ โยนลูกเตะมุมเข้ามาเสาแรกและเป็น เนเวส หวดสกัดบอลพลาดปลิ้นเช็ดเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปหน้าตาเฉย โดย โรซาติ ได้แต่ยืนงงตาค้าง


        รูปเกมเป็นอาคันตุกะครองเกมบุกตลอด นาที 75 แซร์โจ้ ฟล็อคคารี่ รับบอลยาวจากแดนกลางมาลากบอลไปล่อเป้ายัดเข้าเสาแรกติดเซฟ โรซาติ ทิ้งตัวป้องกันไว้ได้สวย


        ช่วงเวลาที่เหลือยังเป็น ลาซิโอ มีลุ้นบวกสกอร์เพิ่มตลอด ทว่าสุดท้ายก็ยิงเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลาซิโอ บุกมาถล่มชนะ เลชเช่ 4-2 แต่อกหักได้เพียงแค่อันดับ 5 ชวดคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ได้แค่ไปเตะในศึก ยูโรปา ลีก


รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม


        เลชเช่ : มัสซิมิเลียโน่ เบนาสซี่ ; จูลิโอ โดนาติ, กิเยร์โม่ จาโคมัซซี่, อัลแบร์โต้ จูเลียตโต้, ดาวิเด้ บริวิโอ; จานนี่ มูนารี่, จูเซ็ปเป้ วิเวส, มานูเอล ค็อปโปล่า, ดาเมล เมสบาห์; อิ๊กนาซิโอ ปิอัตติ ;ดาวิด ดิ มิเคเล่

        สำรอง : อันโตนิโอ โรซาติ, อันเดรีย ริสโปลี่, ฟาเบียโน่, เนเวส เยด้า, คาร์ลอส กรอสส์มุลเลอร์, ดานิเอเล่ คอร์เวีย, ฮาเวียร์ เชบันตอน


        ลาซิโอ : เฟร์นานโด มุสเลร่า; สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, จูเซ็ปเป้ เบียว่า, อันเดร ดิอาส, ฆาเบียร์ การ์ริโด้; คริสเตียน บร็อคคี่, คริสเตียน เลเดสม่า; สเตฟาโน่ เมารี, แอร์นาเนส, เมาโร ซาราเต้; ตอมมาโซ่ ร็อคคี่

        สำรอง : ทอมมาโซ่ แบร์นี่, ลิโอเนล สกาโลนี่, กูเยลโม่ สเตนดาร์โด้, ลิบอร์ โคซัค, อัลวาโร่ กอนซาเลซ, แซร์โจ้ ฟล็อคคารี่, จูเซ็ปเป้ สคูลลี่



ยูเวนตุส   2 - 2   นาโปลี


สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก


        ยูเวนตุส เปิด สตาดิโอ โอลิมปิโก ที่ตูริน รอรับ นาโปลี โดยเจ้าถิ่นต้องเก็บชัยชนะให้ได้ และหวังให้ โรม่า แพ้ เพื่อจะผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูโรป้า ลีก ฤดูกาลหน้า เกมนี้มีข่าวดีที่ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และ มิลอส คราซิช พ้นแบน แต่ก็ขาด มาร์โก ม็อตต้า ที่ถูกพักแข้ง ส่วนทีมเยือนไร้ เอดินสัน คาวานี่ ที่ติดแบนนัดสุดท้าย กระนั้นก็ได้ จูเซ็ปเป้ มาสคาร่า พ้นโทษพักแข้ง


        เริ่มเกมมาเป็น "ม้าลาย" ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำทันควัน เมื่อ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ มอร์แกน เด ซานช์ติส ปัดบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย


        ผู้มาเยือนตอบโต้ได้น่ากลัว คริสเตียน มาจโจ้ ครอสจากขวาให้ คริสเตียโน่ ลูคาเรลลี่ เข้าชาร์จ แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ซูเปอร์เซฟปัดบอลไปชนคานอย่างเหลือเชื่อ


        พลพรรค "อัซซูร่า" มาได้ประตูไปก่อนในนาทีที่ 22 โฮเซ่ โซซ่า เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ และเป็น มาจโจ้ ที่โหม่งกดลงพื้นสวน บุฟฟ่อน เข้าไป ขึ้นนำ 1-0


        ยูเว่ โหมบุกหวังทวงคืนให้ได้ ลูก้า โทนี่ พักบอลให้ เดล ปิเอโร่ วิ่งเข้ามากดด้วยขวาบริเวณหน้าเขตโทษ เด ซานช์ติส ยังเหินปัดข้ามคานไว้ได้


        นาทีที่ 32 "ม้าลาย" มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย เดล ปิเอโร่ รับหน้าที่สังหาร บอลพุ่งชนคานดังสนั่น ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย


        จากนั้นเจ้าบ้านยังพยายามบุก เดล ปิเอโร่ เปิดฟรีคิกไปเสาสอง ซิโมเน่ เปเป้ สอดเข้ามาโขกบอลเด้งข้ามคานออกหลังไป จบ 45 นาทีแรก นาโปลี ออกนำไปก่อน 1-0


        ครึ่งหลัง ลุยจิ เดล เนรี่ จัดการส่ง ฟิลิปโป้ โบนิแปร์ติ ลงเล่นแทน ซิโมเน่ เปเป้


        เปิดฉากเพียง 2 นาที "เบียงโคเนรี่" ตามตีเสมอจนได้เป็น 1-1 เมื่อ เดล ปิเอโร่ โยนลูกเตะมุมให้ โทนี่ โหม่งไปติดเซฟ เด ซานช์ติส บอลยังไม่พ้นอันตราย และเป็น จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ที่ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ


        เจ้าถิ่นเริ่มได้ใจ อันเดรีย บาร์ซาญี่ กระชากขึ้นมาจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวา แต่ เด ซานช์ติส ยังทุบทิ้งทัน


        ถัดมาไม่นาน โทนี่ กระดกชิ่งให้ โบนิแปร์ติ หลุดเข้าไปกำลังจะง้างเท้ายิง กระนั้น บิคตอร์ รูอิซ แหย่สกัดออกหลังได้อย่างฉิวเฉียด


        กลับเป็น นาโปลี ที่มาขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่ วอลเตอร์ การ์กาโน่ เปิดลูกเตะมุมให้ ลูคาเรลลี่ โขกเช็ดเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม


        จากนั้น เด ซานช์ติส ต้องออกแรงเซฟถึง 2 ครั้งติดกันจาก เดล ปิเอโร่ และ อัลแบร์โต้ อาควิลานี่


        ช่วงเวลาที่เหลือ ยูเว่ ยังโหมบุก และมาประสบผลสำเร็จก่อนจบเกม 6 นาที เมื่อ อาควิลานี่ จ่ายให้ อเลสซานโดร มาตรี ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง หลุดเข้าไปซัดตุงตาข่าย จบเกมทั้งสองทีมจึงเสมอ 2-2 ทำให้ ยูเว่ จบอันดับ 7 พลาดโควตาฟุตบอลสโมสรยุโรปไปอย่างน่าผิดหวัง


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


        ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน; ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช, อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่; มิลอส คราซิช, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, ซิโมเน่ เปเป้; ลูก้า โทนี่, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่

        สำรอง : มาร์โก สโตรารี่, เปาโล เด เชเญ่, ฟิลิปโป้ โบนิแปร์ติ, มานูเอล จานโดนาโต้, เฟรเดริก โซเรนเซ่น, ฮอร์เก้ มาร์ติเนซ, อเลสซานโดร มาตรี


        นาโปลี : มอร์แกน เด ซานช์ติส; ฟาเบียโน่ ซานตาโครเช่, เอมิลสัน ซานเชซ คริบารี่, บิคตอร์ รูอิซ; คริสเตียน มาจโจ้, วอลเตอร์ การ์กาโน่, รัฟฟาเอเล่ มายเอลโล่, ฮวน ซูนิก้า; โฮเซ่ โซซ่า, จูเซ็ปเป้ มาสคาร่า; คริสเตียโน่ ลูคาเรลลี่

        สำรอง : เจนนาโร่ เยซโซ่, จานลูก้า กราว่า, เปาโล คันนาวาโร่, มาเร็ค ฮัมซิค, อันเดรีย ดอสเซน่า, มิเคเล่ ปาซิเอนซ่า, เอเซเกล ลาเวซซี่


สรุปผลฟุตบอล กัลโช่เซเรีย อา อิตาลี 
- โบโลญญ่า แพ้ บารี่   0 - 4
- อินเตอร์ มิลาน ชนะ คาตาเนีย  3 - 1
- เจนัว ชนะ เชเซน่า  3 - 2
- ปาแลร์โม่ แพ้ คิเอโว  1 - 3
- เบรสชา เสมอ ฟิออเรนติน่า   2 - 2
- กายารี่ เสมอ ปาร์ม่า  1 - 1
- เลชเช่ แพ้ ลาซิโอ  2 - 4
- ยูเวนตุส เสมอ นาโปลี  2 - 2
- อูดิเนเซ่ เสมอ เอซี มิลาน  0 - 0

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ไบรด้ารับมิลานคว้าฟาเบรกาสสุดเพ้อฝัน
    อาเรียโด้ ไบรด้า ผู้บริหารระดับสูง "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน รับข่าวลือการซื้อตัว เชส ฟาเบรกาส จอมทัพเลือดสแปนิชของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล คงเป็นแค่เรื่องในจิตนาการเท่านั้น พร้อมเผยว่าต้องการนักเตะปีกซ้ายมาเสริมความแข็งแกร่งเป็นเป้าหมายอันดับ ต้นๆ ในช่วงปิดฤดูกาลนี้
  • เอเยนต์ชี้จิจี้อยู่โยงม้าลาย
    เอเยนต์โผล่ฟันธงเอง ยอดโกล์ จานลุยจิ บุฟฟ่อน จะอยู่รับใช้ ยูเวนตุส ต่อไปชัวร์ๆ ย้ำข่าวกับ โรม่า เป็นเรื่องสุดมั่ว พร้อมแย้ม เจ้าตัวตั้งใจที่จะอยู่กับ "ม้าลาย" เองด้วย
  • เลโอยันเกมฟัดคาตาเนียสำคัญยิ่ง
    เลโอนาร์โด้ นายใหญ่ อินเตอร์ ย้ำชัด เกมลีกนัดปิดซีซั่น ที่มีคิวฟัดกับ คาตาเนีย วันอาทิตย์นี้ มีความสำคัญไม่น้อย ชี้หากได้รับชัยชนะล่ะก็ ทัพ "งูใหญ่" จะมีกำลังใจมากขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว ในการดวลกับ ปาแลร์โม่ นัดชิงดำ โคปปา อิตาเลีย วีกถัดไป พร้อมซูฮก ซามูเอล เอโต้ ดาวยิงตัวเก่ง เป็นยอดแข้งคนหนึ่งในโลกลูกหนังยุคนี้
  • ฟ้าผ่า!ยูเว่สั่งเด้งเดลเนรี่
    ลุยจิ เดล เนรี่ แถลง ถูก"ม้าลาย"ยูเวนตุสสั่งเด้งแล้วเรียบร้อย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งจะคุมทัพเป็นนัดสุดท้ายในเกมส่งท้ายฤดูกาลเปิดบ้านต้อนรับ นาโปลี ในวันอาทิตย์นี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »