"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ประกาศพร้อมทำงานกับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ต่อไปด้วยความสัมพันธ์ที่ดี แม้ ยอดทีมจากแคว้นกาตาลัน จะประกาศตัดความสัมพันธ์ระหว่าง 2 สโมสร หาก ยอดทีมจากเมืองหลวง ยังพยายามเล่นเกมโจมตีนอกสนามต่อไป พร้อมระบุ เข้าใจดีว่าบอร์ดบริหาร "บาร์ซ่า" ได้รับแรงกดดันจากสื่อท้องถิ่นบีบให้ออกมาแถลงการณ์เช่นนี้

เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ศึกลา ลีกา สเปน ออกแถลงการณ์ตอบโต้ บาร์เซโลน่า คู่อริร่วมลีก หลังจาก ซานโดร โรเซลล์ ประธานถิ่นคัมป์ นู ออกมาแสดงความไม่พอใจการกระทำหลายๆ อย่างของทีมคู่ปรับจากเมืองหลวง พร้อมประกาศตัดความสัมพันธ์หากยังดึงดันดำเนินการโจมตีแบบนี้ต่อไป
 
บิ๊กบอสทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" จัดงานแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา วิพากษ์วิจารณ์คำพูดของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือทัพ "ราชันชุดขาว" หลังจบศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ทั้ง 2 ทีมเจอกันที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ว่าน่าละอาย และประกาศตัดสัมพันธ์ทันที หาก มาดริด ยังกระทำการในทำนองเดียวกับที่กล่าวหานักเตะของเขาว่า มีการใช้สารกระตุ้นในฤดูกาลที่ผ่านมา
 
มาดริด ออกแถลงการณ์ตอบโต้มาในวันเดียวกันว่า "เรอัล มาดริด ซี.เอฟ. รู้สึกเสียใจกับแถลงการณ์ของประธาน เอฟ.ซี. บาร์เซโลน่า ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม คำพูดดังกล่าวเข้าใจได้ว่าเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันที่บอร์ดบริหารของสโมสรได้รับจากสื่อมวลชนที่ใกล้ชิดกับสโมสร และต้องการให้มีการตอบโต้ที่รุนแรงมากกว่านี้ต่อการกระทำของเรา"
 
"การพูดเป็นนัยที่ผิดพลาดและน่าเศร้านี้ สืบเนื่องจากข่าวการใช้สารกระตุ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ เรอัล มาดริด เลยนั้น นับเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับเรา ที่จะให้ทุกคนรู้ว่า สโมสรของเราออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวผ่านสื่อในทันทีที่พวกเขาเผยแพร่ออกมา มันสำคัญที่จะจดจำว่า การเผชิญกับความกดดันดังที่กล่าวมาแล้ว บาร์เซโลน่า ได้แสดงความไม่พอใจอย่างเป็นทางการต่อโค้ชของ เรอัล มาดริด ไปยัง ยูฟ่า (สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป) ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนระหว่างทั้ง 2 สโมสร"
 
"แม้จะมีเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ กับแถลงการณ์ของประธาน บาร์เซโลน่า แต่เพื่อฟุตบอลที่ดี เรอัล มาดริด จะขอทำงานด้วยความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดร่วมกับ บาร์เซโลน่า ต่อไป เหมือนอย่างที่ทุกสโมสรในสเปน และสโมสรอื่นๆ ทั่วโลกปฏิบัติกันตลอดมา สุดท้าย เรอัล มาดริด ขอยืนยันในความยึดมั่นต่อความมีน้ำใจนักกีฬา และคุณค่าในฟุตบอล โดยเฉพาะการเล่นอย่างขาวสะอาด และต่อต้านการเหยียดผิว สโมสรมองว่านี่เป็นองค์ประกอบสำคัญของกีฬาที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ทั่วโลก"