สาวกเดอะ ค็อป คงต้องร้องเพลงรอไปอีกนานกว่าจะได้นั่งเชียร์ทีมรักในสนามแห่งใหม่ หลังจาก เอียน อายร์ ผู้อำนวยการทั่วไป "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เผยถูกบีบให้ต้องกลับมาคิดทบทวนแผนการขยายความจุแอนฟิลด์ หรือการสร้างสนามแห่งใหม่ในสแตนลี่ย์ พาร์ค อีกครั้ง เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคขัดขวาง

  เอียน อายร์ ผู้อำนวยการทั่วไปของลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ ยอมรับว่าสโมสรต้องทบทวนแนวความคิดเพิ่มความจุสนามแอนฟิลด์เป็น 60,000 ที่นั่งเนื่องจากมีปัจจัยข้อจำกัดหลายอย่าง แม้ตอนแรกจะมองว่า การเพิ่มเติมขยายความจุนั้นน่าจะทำให้ทีมจ่ายเงินน้อยกว่าการสร้างสนามแห่ง ใหม่บริเวณสวนสาธารณะสแตนลี่ย์ พาร์ค  ก็ตาม
 
  ผู้บริหาร "หงส์แดง" เผยผ่านเว็บไซต์สโมสรว่า "ตลอด 9 เดือนนับตั้งแต่เจ้าของทีมใหม่ มีการดำเนินงานมากมายที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจการสร้างสนามแห่งใหม่ เช่นเดียวกับการหาข้อมูลในการหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ที่อาจทำให้ความจุของสนาม เพิ่มขึ้นตามความจำเป็น พร้อมกับการรักษามรดกตกทอดและบรรยากาศที่ทำให้แอนฟิลด์เป็นความพิเศษหนึ่ง เดียวของสโมสรลิเวอร์พูลต่อไป"
 
  "อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยประเด็นการได้มาขอที่ดินและทรัพย์สิน สภาพแวดล้อม และข้อกฎหมายต่างๆเป็นอุปสรรคกับความมุ่งหมายของพวกเรา มันดูเหมือนว่าจะมีความเป็นไปไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในแนวทางที่พวกเราจะ สามารถเดินหน้าปรับปรุงแอนฟิลด์ใหม่ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในประเด็นเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ"
 
  "ใน แง่ของสนามในสแตนลี่ย์ พาร์ค กับการปรับปรุงสนามใหม่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การปรับปรุงสนามแอนฟิลด์น่าจะมาพร้อมกับการใช้เงินน้อยกว่าการสร้างสนามแห่ง ใหม่มหาศาล แน่นอนว่า สนามแห่งใหม่มีจุดดี มีความทันสมัย สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า รวมถึงยังก่อนสร้างได้ง่ายกว่าอีกด้วย"
 
 "อย่าง ไรก็ตาม สนามแห่งใหม่ความจุ 60,000 ที่นั่งนั้นมาพร้อมกับราคาการก่อสร้างที่สูงกว่ามาก ขณะที่ในเวลาเดียวกันนั้นมันก็มีความยากลำยากในการปรับปรุงเพิ่มเติมความจุ ของแอนฟิลด์ให้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นขนาดนั้น จากทั้ง 2 ทางเลือกนี้จะทำให้มีที่นั่งเพิ่มขึ้นประมาณ 16,000 ที่นั่ง"
 
 "มัน น่าผิดหวังที่การขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ตรงจุดไหนในตอนนี้นั้น พวกเราดูเหมือนว่าจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เนื่องจากทางเลือกทาง เศรษฐกิจตามความจริงที่มีอยู่ของการปรับปรุงสนามใหม่ แต่พวกเราก็ยังคงรับผิดชอบทำงานในการหาหนทางการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ในระยะ ยาวต่อไป"
 
 "พวกเราได้มีการพูดคุยเป็นอย่างดีกับบริษัทชั้น นำทั้งหลายในเรื่องของการให้สิทธิ์ใช้ชื่อสนามแห่งใหม่ แต่เหมือนกับการทำสัญญาครั้งสำคัญที่พวกเราเคยทำมาตลอดนั้น มันต้องใช้เวลาการในแสวงหาข้อมูลให้ครบถ้วนต่อไป พวกเรายังคงเดินหน้าพูดคุยกับหลายต่อหลายฝ่ายในเรื่องของการเงินรวมถึงข้อ กำหนดต่างๆ ความท้าทายของเราในตอนนี้คือการพยายามหาหนทางรวบรวมองค์ประกอบต่างๆมาเข้า กันเพื่อหาทางแก้ปัญหาซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับสโมสร และแฟนๆ"
 
  พร้อม กันนี้ อายร์ ยังเป็นกังวลว่า อาจมีความผิดพลาดซ้ำรอยเดิมที่ ทอม ฮิคส์ และจอร์จ ยิลเล็ตต์ อดีตเจ้าของสโมสรชาวอเมริกัน เคยทำไว้หลังเข้ามาเทกโอเวอร์ทีมในปี 2007 "พวกเราเข้าใจดีว่าแฟนๆได้รับการสัญญาว่าจะแก้ปัญหาในอดีต แล้วพวกเขาต่างต้องผิดหวัง และคนท้องถิ่นอยากรู้ว่าแนวทางที่พวกเราเดินหน้าไปนั้นจะเป็นอย่างไร"
 
"อย่าง ไรก็ตาม เหมือนกับการทำธุรกิจอื่นๆนั้น พวกเราสามารถดำเนินการไปเรื่อยๆ และเมื่อเรามีความชัดเจนในองค์ประกอบทั้งหมดแล้ว เราก็จะไม่ถูกบีบให้ตัดสินใจที่ไม่ใช่ผลประโยชน์ระยะยาวของสโมสร และเราก็จะไม่ให้คำมั่นสัญญาอะไรกับแฟนๆที่พวกเราไม่สามารถรักษาสัญญาได้ พวกเราจะทำงานอย่างขยันหมั่นเพียรในโครงการนี้ต่อไป และจะแจ้งให้แฟนๆได้ทราบความคืบหน้าอยู่ตลอดเวลา"