บรรดาผู้เล่นและเจ้าของทีมเอ็นเอฟแอล ต่างออกมาแสดงความยินดีที่สามารถบรรลุข้อตกลงที่น่าพอใจของทั้ง 2 ฝ่ายได้อย่างลงตัว ยกเป็นเพราะทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานอย่างหนักเพื่อให้แฟนๆได้ชมเกมคนชนคนอัน เป็นที่รักอีกครั้งหลังต้องรอคอยด้วยความอดทนมาอย่างยาวนาน เชื่อสัญญายาว 10 ปีฉบับนี้จะทำให้อนาคตของวงการกลับมาบูมยิ่งขึ้นอีกครั้ง

  ตัวแทนของผู้เล่นเอ็นเอฟแอล บรรลุข้อตกลงอย่างเป็นเอกฉันท์ยอมรับสัญญายาว 10 ปีกับเจ้าของทีมเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ฤดูกาลแข่งขันหน้า จะสามารถลงสนามกันได้ตามแผนการที่วางเอาไว้ในเดือนกันยายนนี้ หลังจากมีการประกาศหยุดดำเนินกิจการ (ล็อกเอาต์) ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมากว่า 4 เดือนครึ่งยุติลงแล้ว
 
 โร เจอร์ กูเดลล์ ประธานศึกคนชนคน กล่าวว่า "ฟุตบอลกลับมาแล้ว นี่เป็นข่าวดีจริงๆ มันเป็นเวลานาน พวกเรารู้ว่าเราทำให้แฟนๆต่างหงุดหงิดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเขาอยากดูฟุตบอลและงานของพวกเราคือการมอบฟุตบอลให้กับพวกเขา การมีข้อตกลงยาวนาน 10 ปีนั้นเป็นเรื่องที่สุดยอดสำหรับเกมของพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟนๆ ผมคิดว่าข้อตกลงนี้จะทำให้เกมดีขึ้น ผมต้องขอบคุณกับสิ่งทั้งหลายที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงมือทำจริงๆ"
 
  เจ้า ของทีม และเหล่าผู้เล่นตกลงข้อสัญญาสุดท้ายเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา และคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้เล่น (เอ็นเอฟเอลพีเอ) ได้เสนอรายละเอียดต่างๆให้กับตัวแทนของบรรดาผู้เล่นก่อนหน้าที่จะมีการลง คะแนนเสียงสำคัญ โดยกลุ่มผู้เล่นนั้นได้มีการโหวตให้มีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านข้อสัญญานี้ในเวลา ต่อมา
 
 เดมัวริซ สมิธ ประธานเอ็นเอฟแอลพีเอ ตัวแทนของฝ่ายผู้เล่น กล่าวเสริมว่า "ผมรู้ว่ามันเป็นกระบวนการที่ยาวนานนับตั้งแต่วันที่เรามายืนอยู่ตรงนี้ใน คืนนั้นเมื่อเดือนมีนาคม แต่พวกเรายืนหยัดอยู่เคียงข้างกันในเวลาที่ไม่มีใครคิดว่าเราจะทำแบบนั้น และฟุตบอลกลับมาเพราะเรื่องนี้ ผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่พวกเรามาพูดคุยถึงอนาคตของฟุตบอลในฐานะ พันธมิตรที่ดีต่อกัน"
 
  กระนั้นรายละเอียดด้านกฎหมายขั้นตอน สุดท้ายยังคงต้องมีการสะสาง จากการที่ผู้เล่นเอ็นเอฟแอลส่วนใหญ่นั้นต้องลงคะแนนโหวตเพื่อก่อตั้งเอ็นเอ ฟแอลพีเอ ขึ้นมาใหม่ภายใน 10 วันให้ดำรงฐานะเป็นสหภาพของอาชีพ จากนั้นจึงมีการยอมรับข้อสัญญากำไรมหาศาลที่ทั้ง 2 ฝ่ายอนุมัติ
 
 สำหรับ สัญญาใหม่นั้นจะไม่มีเงื่อนไขการเลือกไม่ทำบางสิ่งบางอย่างก่อน แต่จะอนุญาตให้มีการขยายจำนวนเกมจาก 16 เป็น 18 เกมต่อฤดูกาลของแต่ละทีมอย่างเร็วที่สุดในปี 2013 โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เล่นจะต้องเห็นชอบการเดินหน้าทำเรื่องนี้ด้วย
 
 สำหรับ กุญแจสำคัญที่ทำให้รอมชอมกันได้ในที่สุดก็คือ ส่วนแบ่งรายได้ประจำปีของลีกที่จะมอบให้กับผู้เล่นนั่นเอง โดยข้อตกลงเดิมที่หมดอายุเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แบ่งกันได้คร่าวๆ ราว 50-50 ขณะที่ข้อตกลงใหม่ เจ้าของทีมจะเก็บไว้ 53 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้เล่นได้ไป 47 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน
 
ด้านเจฟฟ์ แซทเทอร์เดย์ สมาชิกบอร์ดเอ็นเอฟแอลพีเอ เผยว่า "พวกเราล้วนทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดกระบวนการนี้ ตอนนี้เรากำลังรอคอยบทสรุปที่เกิดขึ้นเพื่อที่เราจะสามารถกลับไปเล่นเกมที่ พวกเราทุกคนรักกันได้อีกครั้ง"
 
  ส่วนโรเบิร์ต คราฟต์ เจ้าของทีมนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ออกมาขอโทษบรรดาแฟนๆว่า "ผมอยากขอโทษแฟนๆตลอดช่วงเวลา 5-6 เดือนหลัง ที่พวกเราต้องเจรจาต่อรองกันถึงเรื่องธุรกิจฟุตบอล นี่เป็นข้อตกลงที่จะทำให้กีฬาของเราเฟื่องฟูขึ้นมาอีกครั้ง"
 
 ขณะ เดียวกันเควิน มาเว ตำนานเซ็นเตอร์ของนิวยอร์ก เจ็ตส์ ซึ่งทำหน้าที่ประธานเอ็นเอฟเอลพีเอ ในเวลานี้ กล่าวเช่นกันว่า "เราอยากขอบคุณแฟนๆที่ต้องมาติดอยู่กับเรา นี่เป็นเส้นทางอันยาวไกลที่ทุกคนล้วนมีส่วนร่วม การทำข้อตกลงนี้เป็นส่วนประกอบที่จำเป็นต่อสิ่งที่จะทำให้ผู้เล่น เจ้าของทีมและแฟนๆ มีผลประโยชน์ในสัญญาระยะยาว"
 
 ทั้งนี้ กรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส จะต้อนรับการมาเยือนของ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ในเกมนัดเปิดฤดูกาลปกติ วันจันทร์ที่ 8 ก.ย.นี้ ที่สนาม แลมโบ ฟิลด์ ขณะที่ 10 ทีมจะเปิดแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมในวั พุธที่ 27 ก.ค.นี้ ตามมาด้วยอีก 10 ทีมในวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ค.นี้ และอีก 10 ทีมในวันศุกร์ที่ 29 ก.ค.นี้ ส่วนอีก 2 ทีมสุดท้ายจะเริ่มฟิตซ้อมในวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค.