โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมอหังการทัพ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ปากดีไม่เลิกยืนยันไม่ได้รู้สึกเสียใจกับการพลาดท่าปล่อยให้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ ไปครอง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากมองว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่มีความสำคัญมากมาย พร้อมทั้งยืนยันว่าลูกทีมของเขาก้าวขึ้นมาทาบรัศมียอดทีมแห่งแคว้นกาตาลันได้แล้ว

 
โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์เรอัล มาดริด ออกมาให้สัมภาษณ์สบประมาท บาร์เซโลน่า ทีมคู่แค้นตลอดกาล หลังจากยืนยันว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการลงทำศึกแชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ หลังจากเป็นฝ่ายออกมาปราชัย 3-2 ทำให้ขุนพล "เจ้าบุญทุ่ม" เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2 นัด 5-4 เมื่อวันพุธที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา
 
มูรินโญ่ ต้องเป็นผู้แพ้อีกครั้งในเกมเอล กลาซิโก้ ไม่ได้แสดงความกังวล พร้อมทั้งคุยว่าตอนนี้ทัพ "ราชันชุดขาว" ยกตัวเองขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับยอดทีมแคว้นกาตาลันได้แล้ว "ถ้าเราพูดว่าเรามีความสุขมากในตอนที่เราไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ เราคงจะกลายเป็นพวกปากว่าตาขยิบ มันแชมป์ที่ค่อนข้างไม่มีความสำคัญ แต่เราก็ไม่มีความสุขที่ไม่สามารถคว้ามันมาครองได้ แต่ด้วยพัฒนาการของทีม เราเล่นทั้ง 2 เกมได้อย่างยอดเยี่ยม เราเล่นได้อย่างมหัศจรรย์" 
 
"ถ้าเราดูเกม (กับ บาร์เซโลน่า) ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมานี้ คุณจะเห็นได้ว่ามันมีความสมดุลอันยอดเยี่ยม มีผลเสมอหลายครั้ง ชัยชนะสำหรับเรา 1 เกม (รอบชิงสแปนิช คัพ) และของพวกเขา 1 นัดในเกมที่ผ่านมา โดยไม่ต้องไปเอ่ยถึงเกมที่มีเรื่องราวซึ่งไม่ควรนำเอาไปเล่าต่อให้มากความ"
 
นอกจากนี้กุนซือเจ้าของฉายา "สเปชี่ยล วัน" ยังวิจารณ์แท็กติกนอกสนามของ "บาร์ซ่า" รวมถึงปกป้อง มาร์เซโล่ แบ็กซ้ายเลือดแซมบ้า ที่โดนใบแดงจากการเข้าสกัด เชส ฟาเบรกาส จอมทัพคนใหม่ของ "เจ้าบุญทุ่ม" ในช่วงท้ายเกม
 
"ตั้งแต่เริ่มนาทีแรกของครึ่งหลัง ซึ่งผมไม่ต้องการจะวิจารณ์ในเรื่องนี้เพราะว่ามีหลายๆคนทำมัน นั่นคือการให้เด็กเก็บบอลออกไปซ่อนตัวตามริมสนาม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทีมเล็กเขาใช้กันในยามที่มีปัญหาในการเล่น ส่วน มาร์เซโล่ โดนไล่ออกเพราะว่าทุกคนรู้ดีว่าการเข้าสกัดบอลในบางพื้นที่ของสนาม (คัมป์ นู) จะเป็นอย่างไร" 
 
ทางด้าน อิเกร์ กาซียาส ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนของ เรอัล มาดริด ออกมาให้ความเห็นว่าผลเสมอน่าจะยุติธรรมที่สุดสำหรับนัดที่ 2 ของศึกสแปนิช ซูเปอร์ คัพ เนื่องจากเชื่อว่าไม่มีทีมใดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน "เมื่อดูจากโอกาสทำประตูของทั้ง 2 ทีม สิ่งที่ยุติธรรมที่สุดคือผลเสมอ"
 
นอกจากนี้ นายด่านวัย 30 ปี ยังออกโรงป้อง มาร์เซโล่ ว่าไม่ใช่ต้นเหตุให้บรรดาสตาฟฟ์โค้ชของทั้ง 2 ทีม โต้เถียงกันที่ข้างสนามในช่วงท้ายเกม พร้อมทั้งกล่าวว่าบรรดาแข้ง "อาซูลกราน่า" พยายามเข้าไปกดดันผู้ตัดสินทำให้ อดีตดาวรุ่งฟลูมิเนนเซ่ โดนไล่ออกไปในที่สุด "ในเกมแบบนี้ มันมีส่วนได้ส่วนเสียมากมาย และแน่นอนว่าความขัดแย้งมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ มาร์เซโล่ ทำฟาวล์แต่พวกเขา (นักเตะ บาร์เซโลน่า) ก็พาไปห้อมล้อมกดดันผู้ตัดสินตามเคย"