"สิงห์บลูส์" เชลซี โชว์ฟอร์มเปิดบ้านอัด "นกขมิ้น" นอริช ซิตี้ น้องใหม่ไปแบบสนุก 3-1 โดยได้ประตูจาก โชเซ่ โบซิงวา น.6 แฟร้งค์ แลมพาร์ด จุดโทษ น.80 และ ฆวน มาต้า ประเดิมยิงให้ต้นสังกัดใหม่ในน.90 ขณะที่ทีมเยือนทวงคืนแค่ประตูเดียวจาก แกร้นท์ โฮลท์ น.63 เชลซี เก็บสามคะแนนเข้าประเป๋าไปแบบมั่นใจ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2554

เชลซี 3-1 นอริช ซิตี้ 

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

         ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดบ้านรับแข้งทีมน้องใหม่ "นกขมิ้น" นอริช ซิตี้ เกมนี้อังเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือเจ้าบ้านปรับหมากเล็กน้อยในแนวรุก โดยส่งดิดิเย่ร์ ดร็อกบาลงเป็นตัวจริงร่วมกับทั้งเฟร์นานโด ตอร์เรส และ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ส่วนสตาร์ใหม่อย่างฆวน มานูเอล มาต้า มีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย ขณะที่เดอะ คานารี่ส์นำทัพมาโดยคู่หัวหอกตัวเก่งแกรนท์ โฮลท์ กัปตันทีม และ คริส มาร์ติน

          ออกสตาร์ทเกมได้แค่ 2 นาที เชลซีก็ได้ลุ้นทันที ในจังหวะที่รามิเรสลองยิงไกลประมาณ 25 หลา บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่จอห์น รัดดี้ นายด่านขมิ้นก็ยังล้มตัวป้องกันเอาไว้ได้

          จากนั้นถัดมา 4 นาที ตาข่ายของทีมเยือนก็ต้องถึงฆาต ในจังหวะที่เชลซีต่อบอลกันขึ้นมา บอลมาอยู่ที่แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก่อนจ่ายขวางสนามให้โชเซ่ โบซิงวา แบ๊กขวาที่เติมเกมรุกขึ้นมาจับหนึ่งจังหวะ ก่อนตะบันเน้นๆจากระยะเกือบ 30 หลา ส่งบอลพุ่งชนเสาในกระดอนเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด เจ้าบ้านนำอย่างรวดเร็ว 1-0

          อย่างไรก็ตามนอริชก็เกือบตีเสมอได้ในนาทีที่ 17 แกรนท์ โฮลท์ หลุดกับดักล้ำหน้าโฉบเข้าไปรับบอลที่เปิดยาวมาและพยายามเอี้ยวตัววอลเล่ย์แต่โดนไม่ดี บอลเข้ามือเอ็นริเก้ อิลาริโอ นายทวารเชลซีแบบไม่ยาก

          เชลซียังเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกได้มากกว่าถัดมา 3 นาที เฟร์นานโด ตอร์เรสแทงทะลุช่องให้ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หลุดเข้าไปเหยียดขายิง แต่ไม่โดน เลยพลาดโอกาสได้เม็ด 2 ไป 

          แต่นอริชก็ไมยอมง่ายๆนาที 27 ก็มีลุ้นตีเสมออีกครั้ง คริส มาร์ตินได้โอกาสลากบอลเข้าไปยิงในกรอบติดเซฟอิลาริโอ แต่บอลยังกระดอนมาเข้าทางมาร์ตินอีกครั้ง ก่อนไหลคืนหลังให้ไคล์ นอห์ตันยิงไกล บอลจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่อิลาริโอยังบินปัดทิ้งไปได้อย่างยอดเยี่ยม

          จากนั้นทั้งสองทีมก็ผลัดกันรุก-รับอย่างสนุก แต่ก็ยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรกเชลซียังนำอยู่แค่ 1-0

          ครึ่งหลังเชลซีก็ยังเดินหน้าบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง นาที 50 จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมเชลซีเติมเกมรุกขึ้นมาโหม่ง วิถีบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ยังดีที่มีแอนโธนี่ พิลคิงตัน ขวางเอาไว้บอลเลยโดนศีรษะกองหลังสำรองของนอริชหลุดกรอบออกหลังไป

          ต่อด้วย 3 นาทีต่อมาที่แลมพาร์ดเปิดเตะมุมมาให้บรานิสลาฟ อิวาโนวิชสอดมาโขกส่งบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

          อย่างไรก็ตามนาที 63 ความพยายามของนอริชก็ประสบความสำเร็จ จากความผิดพลาดในแนวรับของเชลซีระหว่างอิวาโนวิช และ อิลาริโอ ที่ไม่ให้เสียงกัน ในจังหวะออกมาตัดลูกเปิดยาวของไคล์ นอห์ตัน เลยกลายเป็นการอิวาโนวิชที่โหม่งตั้งให้โฮลท์กระโดดตีลังกายิงส่งบอลเข้าประตูโล่งๆไป เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1

          นาทีที่ 65 เกมต้องหยุดลงพักใหญ่ เมื่อดร็อกบาได้รับบาดเจ็บ จากการกระทบกระเทือนอย่างหนักบริเวณศีรษะถึงขั้นหมดสติไปนานหลายนาที หลังปะทะกับรัดดี้นายทวารนอริชในจังหวะขึ้นโหม่ง ทำให้โบอาชต้องส่งนิโกล่าส์ อเนลก้าลงมาเล่นแทน รวมไปถึงฆวน มานูเอล มาต้า ที่ได้ประเดิมสนาม โดยลงมาแทนฟลอร็องต์ มาลูด้า

          จากนั้นนาที 73 นอริชพลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย สตีฟ มอร์ริสัน กองหน้าสำรองได้หลุดเดี่ยวขึ้นไปทางกรอบโทษด้านซ้าย ทว่ามัวแต่เงอะงะไม่ยอมยิง เลยโดนเทอร์รี่ตามมาสไลด์ไว้ได้ทัน

          กระทั่งนาทีที่ 79 เชลซีก็มาได้จุดโทษในจังหวะที่ไหลบอลให้รามิเรสหลุดเข้าไปโดนรัดดี้รวบล้มลง พร้อมกับที่ผู้ตัดสินไมค์ โจนส์ควักใบแดงไล่รัดดี้ออกจากสนามด้วย

          ส่วนนอริชที่เหลือแค่ 10 คน ก็ต้องถอดคริส มาร์ตินออกแล้วส่งดีแคลน รัดด์ ประตูสำรองลงมาเฝ้าเสาแทน อย่างไรก็ตามแลมพาร์ด ซึ่งรับหน้าที่สังหารก็อัดลูกนิ่งเข้าไปไม่พลาด เชลซีนำอีกครั้ง 2-1 ก่อนที่โบอาชจะส่งโรเมลู ลูกากู อีก 1 แข้งใหม่ลงประเดิมสนามแทนตอร์เรสในนาที 83

          ช่วงท้ายเกมเชลซีพลาดโอกาสได้ประตูที่ 3 ปิดท้าย แลมพาร์ดเปิดจากซ้ายให้อิวาโนวิชโขกจ่อๆจากระยะแค่ 3 หลาหลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะทดเวลาออกไปนานถึง 11 นาที จากทั้งเหตุการณ์ที่ดร็อกบาบาดเจ็บและรัดดี้โดนไล่ออก

          กระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 10 หรือนาที 100 เชลซีก็มาได้เม็ด 3 ปิดท้ายจนได้ จากความผิดพลาดของริทชี่ เด ลาเอ้ต์ที่จ่ายบอลคืนหลังไปเข้าทางมาต้า ก่อนที่สตาร์สเปนที่ลากเข้าไปแปหนีมือรัดด์เสียบโคนเสาสองไม่เหลือ จบเกมเชลซีถล่มนอริชที่เหลือ 10 คนไป 3-1 เก็บอีก 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เชลซี  : ฮิลาริโอ , โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,  จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล , รามิเรส , จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด ,  เฟร์นานโด ตอร์เรส (โรเมลู ลูกากู ร.83), ฟลอร็องต์ มาลูด้า (ฆวน มาต้า น.67) , ดิดิเยร์ ดร็อกบา (นิโกล่าส์ อเนลก้า น.67)

สำรองไม่ได้ใช้ : รอสส์ เทิร์นบูลล์ (ผู้รักษาประตู),   เปาโล เฟร์เรยร่า, จอช แม็คเอคราน, อเล็กซ์

นอริช  : จอห์น รัดดี้ , ไคล์ นอตัน, ริทชี่ เดอ เลต, ลีออน บาร์เน็ตต์, มาร์ก เทียร์นี่ย์ , แซค วิธเบรด (แอนโธนี่ พิลคิงตัน น.30), เวสลี่ย์ ฮูลาฮาน ( สตีฟ มอริสัน น.60),  แอนดรูว์ ครอฟท์, แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน, คริส มาร์ติน (ดีแคลน รุดด์  น.81), แกร้นท์ โฮลท์

 สำรองไม่ได้ใช้ :  เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์,  รัสเซลล์ มาร์ติน, ซิเมียน แจ็คสัน, เดวิด ฟ็อก

ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์

สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลล่า เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน   0-0 
วีแกน ชนะ ควีนส์ปาร์ค  2-0 
สวอนซี เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0   
เชลซี ชนะ นอริช ซิตี้  3-1  
แบล็คเบิร์น แพ้ เอฟเวอร์ตัน  0-1