"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เน้นหนักเตรียมจัด 3 ดาวล่าแดนหน้า คือ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ยังคงเป็นเต็งซัดประตูอยู่เหมือนเดิม, ฆวน มานูเอล มาต้า และ นิโกล่าส์ อเนลก้า เกมยกพลออกเยือน "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ หากย้อนดูผลงานที่ทั้งสองทีมฟาดแข้งกันทีมเยือนยังคงเหนือกว่าอยู่หลายขุม จาก 13 เกมหลังสุด เชลซีเก็บชัยได้ถึง 12 นัด และอีก 1 นัดเป็นแมวดำที่บุกช็อกโลกถล่ม 3-0 ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ปรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2554

ซันเดอร์แลนด์ - เชลซี

สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

        สตีฟ บรูซ กุนซือ แมวดำ ถึงกับมึนตึ้บกับผลงานของทีมในช่วงเริ่มต้น ที่ยังไม่ชนะใคร หลังจากเสมอ 1-1 เกมที่แอนฟิลด์ ที่เหลือแพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 และเสมอ สวอนซี 0-0 แถมยังตกรอบ 2 คาร์ลิ่ง คัพด้วย

        วันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย บรูซ จัดการสอย นิคลาส เบนท์เนอร์ กองหน้าเดนมาร์ก ด้วยสัญญายืมตัว และดาวยิงร่างใหญ่ก็พร้อมลงสนามทันที หลังจาก อซาโมอาห์ กียาน กองหน้ากาน่า เจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาจากเกมทีมชาติ

        แนวรับขาย แอนทอน เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟไปแล้ว จึงคาดว่า ไตตัส บรัมเบิ้ล จะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังจาก บรัมเบิ้ล และ ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ ลงเรียกความฟิตในเกมอุ่นเครื่องแบบปิดสนามที่เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-3 เมื่อวันพฤหัสบดี แต่ในราย เทอร์เนอร์ ยังคงต้องเรียกความฟิตต่อ

        นอกจากนี้ จอห์น โอเช ก็เจ็บน่องมาจากการรับใช้ ไอร์แลนด์ ในเกมเสมอ สโลวาเกีย 0-0 ด้วย หมดสิทธิ์ลงสนามพร้อมพวกที่พักยาวอยู่ก่อนอย่าง เคร็ก กอร์ดอน, เดวิด เมย์เลอร์ และ เฟร์เซอร์ แคมป์เบลล์ เจ็บเข่าทั้งหมด

        ระบบการเล่น 4-5-1 ซิมง มิโญเลต์ เฝ้าเสาต่อเนื่อง แนวรับ ฟิล บาร์ดสลี่ย์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, เวส บราวน์, คีแรน ริชาร์ดสัน กองกลาง เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เคร็ก การ์ดเนอร์, ลี แคทเทอร์โมล, แจ็ค โคลแบ็ก, สเตฟาน แซสเซญง หน้าเป้าประเดิม นิคลาส เบนท์เนอร์

        ทางฝั่ง อันเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม ผลงานยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แม้จะเก็บ 7 แต้มจากการเสมอ สโต๊ค 0-0, ชนะ เวสต์บรอมวิช 2-1 และชนะ นอริช 3-1 แต่มีปัญหาเรื่องการเสียประตูให้ทีมอ่อนชั้น

        ก่อนหน้านี้ได้ตัวสองกองหน้า ฆวน มานูเอล มาต้า กับ โรเมลู ลูกากู ซึ่งประเดิมสนามในเกมกับ นอริช ไปแล้วทั้งคู่ในฐานะตัวสำรอง ซึ่ง มาต้า สอยประตูแรกทันที ล่าสุดคว้า ราอูล เมยเรเลส มาเติมเต็มแดนกลางอีกคน พร้อมกับปล่อย ยอสซี่ เบนายูน, กาแอล กากูต้า, แพทริค ฟาน อานโฮล์ท ออกจากทีม

        ซึ่ง เมยเรเลส มิดฟิลด์โปรตุกีส ก็พร้อมประเดิมสนามทันที หลังหายเจ็บกระดูกไหปลาร้ากลับมาลงเล่นให้ทีมชาติไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน

        ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่เจ็บศีรษะถึงขั้นเลือดอาบหน้าในเกมกับ นอริช ยังคงซ้อมได้เบาๆ จะพลาดเกมวันเสาร์นี้ เช่นเดียวกับน่าจะพลาดเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกที่เจอ เลเวอร์คูเซ่น วันอังคาร แต่คาดว่าจะพร้อมสำหรับการเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สัปดาห์หน้า

        ข่าวดีของทีมคือ ปีเตอร์ เช็ก ประตูมือ 1 ที่เจ็บเข่า จนพลาดเฝ้าเสา 2 นัดหลัง ล่าสุดหายเจ็บก่อนกำหนดกลับมาซ้อมเรียบร้อย และ โบอาช ยืนยันว่านายทวารทีมชาติเช็กพร้อมเฝ้าเสาเกมนี้แล้ว ขณะที่ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังบราซิล ก็หายเจ็บต้นขากลับมาด้วย

        นอกจากนี้ยังได้กำลังเสริม ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาแล้ว และข้างสนามก็น่าจะมีชื่อกองกลางคนใหม่ โอริโอล โรเมอู มิดฟิลด์ดาวรุ่งสเปน อย่างไรก็ตาม ทีมยังขาดตัวหลัก ไมเคิ่ล เอสเซียง เจ็บเข่าพักยาว

        ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลัง โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล กองกลางมี ราอูล เมยเรเลส, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด แดนหน้าสดขึ้นเมื่อมี ฆวน มานูเอล มาต้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มิโญเลต์ - ฟิล บาร์ดสลี่ย์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, เวส บราวน์, คีแรน ริชาร์ดสัน - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เคร็ก การ์ดเนอร์, ลี แคทเทอร์โมล, แจ็ค โคลแบ็ค, สเตฟาน แซสเซญง - นิคลาส เบนท์เนอร์

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ราอูล เมยเรเลส, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฆวน มานูเอล มาต้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

        ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต

สิงห์สยบแมว 12 จาก 13 นัดหลัง

        เชลซี แทบจะเป็นฝ่ายผูกขาดเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ มาตลอด 13 นัดหลังสุด หากฤดูกาลที่แล้ว ไม่เกิดเหตุการณ์พลิกล็อกช็อกโลกที่ แมวดำ บุกถล่ม 3-0 ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์

        ตลอด 11 นัด นับตั้งแต่ปี 2002 จนถึงฤดูกาล 2009-10 สิงโตน้ำเงินคราม กวาดชัยชนะติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยสองเกมหลังในบ้านตัวเอง เชลซี ถล่ม 5-0 และ 7-2 ด้วย แต่มาถึงฤดูกาลที่แล้ว แมวดำ กลับพลิกล็อกเอาชนะ 3-0 ถึงลอนดอน

        อย่างไรก็ตาม เกมสุดท้ายที่ทั้งคู่เจอกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เชลซี แก้ตัวบุกชนะคืน 4-2 ทำให้รวม 13 นัดหลังสุดที่พบกัน ซึ่งเป็นเกมพรีเมียร์ลีกล้วนๆ สิงห์บลูส์ เก็บชัยถึง 12 นัด

ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก
6 ประตู - เอดิน เชโก้ (แมนฯ ซิตี้)
5 ประตู - เวย์น รูนี่ย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
3 ประตู - อิวาน คลาสนิช (โบลตัน), เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้)
2 ประตู - หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล), ดาบิด ซิลบา (แมนฯ ซิตี้), แดนนี่ เวลเบ็ค (แมนฯ ยูไนเต็ด), แอชลี่ย์ ยัง (แมนฯ ยูไนเต็ด), ลีออน เบสต์ (นิวคาสเซิ่ล), เชน ลอง (เวสต์บรอมวิช), ฟรังโก้ ดิ ซานโต (วีแกน)

โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
21.00 น. อาร์เซน่อล - สวอนซี   
21.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - เชลซี  
21.00 น. เอฟเวอร์ตัน - แอสตัน วิลล่า    
21.00 น. แมนฯ ซิตี้ - วีแกน    
21.00 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - สเปอร์ส 
21.00 น. สโต๊ค -  ลิเวอร์พูล 
23.30 น. โบลตัน - แมนฯ ยูไนเต็ด