"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่ฟอร์มยังไม่ดีนักยังคงใช้บริการ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงเป็นศูนย์หน้าตัวหลักและตัวความหวังเช่นเคยเกมเปิดบ้านรับ "หงส์ขาว" สวอนซี ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ฟอร์มดีต่อเนื่องและถูกคาดหมายว่าคือหนึ่งทีมลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ยังคงส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ และ เอดิน เชโก้ ผนึกคมแข้งเพื่อนร่วมทัพลงรับ "เดอะ ลาติกส์" วีแกนผู้มาเยือน ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 10 ก.ย.ศกนี้

ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2554

อาร์เซน่อล - สวอนซี

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

     อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ ปืนใหญ่ ยังไม่คลี่คลายปัญหาเรื่องสภาพทีมในเวลานี้ หลังออกสตาร์ตย่ำแย่ เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 เกมเดียว ที่เหลือแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 และพ่ายหมดรูปต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-8

     การขาดหายไปของ เชส ฟาเบรกาส กับ ซามีร์ นาสรี่ ทำให้ เวนเกอร์ ต้องไปคว้า มิเกล อาร์เตต้า กับ ยอสซี่ เบนายูน มาเสริมแดนกลาง พร้อมกับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ, อังเดร ซานโต๊ส แบ็กซ้าย และ พาร์ค ชู-ย็อง กองหน้าเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันก็ปล่อย อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ กับ นิคลาส เบนท์เนอร์

     เวนเกอร์ อาจใส่ชื่อทั้ง 5 นักเตะใหม่อยู่ในทีมเกมนี้ทันที เพราะสภาพทีมกำลังย่ำแย่ ปัญหาโทษแบนยังเล่นงานต่อเนื่อง เกมนี้ไม่มี แชร์วินโญ่ กับ อเล็กซ์ ซง ที่ติดโทษเหลืออีก 1 นัด พร้อมกับ คาร์ล เจนกินสัน ที่โดนโทษ 1 นัดเพิ่มอีกคนด้วย แต่จะได้ เอ็มมานูเอล ฟริมปง กองกลางดาวรุ่งพ้นโทษกลับมา

     แจ็ค วิลเชียร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งมีการยืนยันแล้วว่าต้องพักนาน 2 เดือน จากอาการบาดเจ็บข้อเท้า ล่าสุด โธมัส แฟร์มาเล่น เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก ต้องผ่าตัดข้อเท้าซ้าย คาดพักยาว 1 เดือน ทำให้ อาร์เตต้า กับ แมร์เตซัคเกอร์ โอกาสประเดิมมากกว่าเพื่อน

     ข่าวดีคือ คีแรน กิ๊บบ์ส หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาแล้ว ขณะที่ โทมัส โรซิชกี้ ต้องเช็กความฟิต หลังเจ็บเข่ากลับมาจากทีมชาติ เช่นเดียวกับ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่ต้องเรียกความฟิต ส่วนตัวเจ็บก่อนหน้านี้มี อาบู ดิยาบี้ เจ็บข้อเท้า กับ เซบาสเตียง สกิลลาชี่ เจ็บน่อง

     ระบบการเล่น 4-2-3-1 วอยเช็ก เชสนี่ เฝ้าเสา แนวรับ บาการี่ ซานย่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส แดนกลางมี อารอน แรมซี่ย์ กับ เอ็มมานูเอล ฟริมปง คุมเกมกลางสนาม แนวรุกวาง ธีโอ วัลค็อตต์, มิเกล อาร์เตต้า, อังเดร อาร์ชาวิน หน้าเป้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

     ด้าน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือทีมน้องใหม่ สวอนซี เก็บสองคะแนนในบ้านตัวเองด้วยผลเสมอ วีแกน 0-0 และ ซันเดอร์แลนด์ ในสกอร์เดียวกัน หลังจากนัดแรกพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยับเยิน 0-4

     ร็อดเจอร์ส เสริมทัพวันสุดท้ายด้วยสามกองหลัง ดาร์เนล ซิตู, ราฟิค ฮัลลิเช่ และ เฟเดริโก้ เบสโซเน่ โดยมีเพียง เบสโซเน่ แบ็กซ้ายอาร์เจนไตน์ที่เซ็นกลับมาร่วมทีมอีกครั้งคนเดียวที่พร้อมลงสนาม ส่วนอีก 2 คนต้องรอเคลียร์เรื่องเอกสารย้ายทีมจากฟีฟ่าเสียก่อน

     ก่อนหน้านี้ แกร์รี่ มองค์ กองหลังกัปตันทีม บาดเจ็บเท้า ยังพลาดลงสนาม ล่าสุด อลัน เทต กองหลังอีกคนขาหักจากอุบัติเหตุรถกอล์ฟชนต้นไม้ ต้องพักยาวหลายเดือน ส่วนแดนกลาง เฟอร์รี่ บ็อดเด้ ยังรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่า

     แดนหน้า เคร็ก บีทตี้ ยังเจ็บข้อเท้า พลาดช่วยทีมควานหาประตูแรกในพรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับชัยชนะนัดแรกด้วย

     ระบบการเล่น 4-5-1 มิเชล ฟอร์ม ที่กำลังท็อปฟอร์มลงเฝ้าเสา แผงหลัง อังเคล รานเคล, สตีเว่น คอลเกอร์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, นีล เทย์เลอร์ กองกลาง เวย์น เราท์เล็ดจ์, ลีออน บริตตัน, เคมี่ อกุสเตียน, เนธาน ดายเออร์, สกอตต์ ซินแคลร์ หน้าเป้า แดนนี่ เกรแฮม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     อาร์เซน่อล : วอยเช็ก เชสนี่ - บาการี่ ซานย่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส - อารอน แรมซี่ย์, เอ็มมานูเอล ฟริมปง - ธีโอ วัลค็อตต์, มิเกล อาร์เตต้า, อังเดร อาร์ชาวิน - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

     สวอนซี : มิเชล ฟอร์ม - อังเคล รานเคล, สตีเว่น คอลเกอร์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, นีล เทย์เลอร์ - เวย์น เราท์เล็ดจ์, ลีออน บริตตัน, เคมี่ อกุสเตียน, เนธาน ดายเออร์, สกอตต์ ซินแคลร์ - แดนนี่ เกรแฮม

     ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอ็ตเวลล์

ปืน-สวอนสูสีเจอกันหนสุดท้ายปี 83

     การพบกันในลีกของ อาร์เซน่อล กับ สวอนซี ทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก เพิ่งเคยเจอกันเพียงแค่ 4 นัดเท่านั้น ครั้งสุดท้าย ต้องย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 1982-83 ที่ทั้งคู่เจอกันในเกมลีกสูงสุด ที่ยังใช้ชื่อว่าเป็นดิวิชั่น 1

     ฤดูกาล 1982-83 เดอะ กันเนอร์ส เป็นฝ่ายกำชัยเหนือ เดอะ สวอนส์ ด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งเหย้าและเยือน แต่ย้อนกลับไป 1 ฤดูกาล ในซีซั่น 1981-82 สวอนซี ก็เป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งเหย้าและเยือนเช่นกัน ซึ่งเป็นเพียง 4 นัดที่ทั้งคู่เคยพบกันมาในเกมลีก

     ที่เหลืออีก 5 นัดเป็นบอลถ้วยทั้งหมด อาร์เซน่อล ชนะ 2 และแพ้ 1 ในเอฟเอ คัพ ส่วน ลีกคัพ เสมอกัน 1-1 ต้องเตะอีกนัด ปืนใหญ่ เป็นฝ่ายกำชัย
     

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - วีแกน

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

     โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ เรือใบสีฟ้า ชวดนำจ่าฝูงหลังจบนัดที่ 3 เพราะประตูได้เสียเป็นรองคู่แข่งร่วมเมืองลูกเดียว แต่โดยรวมถือว่ายอดเยี่ยม กับชัยชนะ 3 นัดรวด ยิง 12 เสีย 3 โดยเฉพาะล่าสุดที่บุกถล่ม สเปอร์ส 5-1

     ก่อนตลาดปิด เรือใบสีฟ้า เสริมทัพคนเดียวเซ็นฟรี โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ แต่ยังไม่ฟิตสำหรับเกมนี้ ขณะเดียวกันก็ปล่อย เคร็ก เบลลามี่, เดดริค โบยาต้า, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, วลาดิเมียร์ ไวส์, โรเก้ ซานตา ครูซ ออกจากทีม

     หลังจบสัปดาห์ทีมชาติ ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์คนใหม่ กระดูกที่มือแตกกลับมา แต่นักเตะค่าตัว 24 ล้านปอนด์ จะพร้อมสำหรับการลงเล่นนัดแรกในบ้านตัวเอง

     อีกคนคือ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กองหลังที่ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษ เพราะเอ็นหลังหัวเข่าตึง ก็จะพร้อมลงสนาม แต่ในราย แกเร็ธ แบร์รี่ เจ็บข้อเท้าต้องรอเช็กอาการ และ ไนเจล เดอ ย็อง ที่เจ็บเท้า ต้องพักอีก 2 สัปดาห์

     ในราย โคโล่ ตูเร่ กองหลังผู้ถูกลืม ที่ไม่ผ่านการตรวจหาสารกระตุ้น ชดใช้โทษแบน 6 เดือนครบเรียบร้อยแล้ว พร้อมกลับมาอยู่ในทีมชุดใหญ่อีกครั้ง

     ระบบการเล่น 4-3-3 โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แนวรับ ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ แดนกลาง ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่ แดนหน้า ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ เอดิน เชโก้ ผู้นำดาวซัลโว 6 ประตู

     ด้าน โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือ เดอะ ลาติกส์ ยังไม่แพ้ใครในซีซั่นนี้ จากผลงาน 3 นัดแรกเสมอ นอริช 1-1, เสมอ สวอนซี 0-0 และชนะ ควีนส์ปาร์ค 2-0 โดย ฟรังโก้ ดิ ซานโต เหมายิงคนเดียวสองประตู

     การเสริมทัพวันสุดท้ายของ มาร์ตี้ ถือว่าไม่เลวทีเดียว เมื่อได้ อัลเบิร์ต กรูซาต กับ ฌอน มาโลนี่ย์ สองตัวรุกริมเส้น พร้อมกับยืม แพทริค ฟาน อานโฮล์ท กองหลังอีกคน ซึ่งทั้งหมดพร้อมประเดิมเกมนี้ทันที

     สภาพทีม อันโตลิน อัลการาซ กองหลังปารากวัย กล้ามเนื้อขาฉีก ต้องพักนาน 2 เดือน ส่วน สตีฟ โกฮูรี่ ยังอยู่ในช่วงเรียกความฟิตจากอาการบาดเจ็บน่อง

     ระบบการเล่น 4-4-2 อาลี อัล ฮับซี่ ประตูทีมชาติโอมาน ลงเฝ้าเสา แผงหลัง เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, แกรี่ คัลด์เวลล์, อาเดรียน โลเปซ, มายนอร์ ฟิเกรัว แดนกลาง ฌอน มาโลนี่ย์, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, เบน วัตสัน, จอร์ดี้ โกเมซ คู่หน้า ฮูโก้ โรดาเยก้า เล่นกับ ฟรังโก้ ดิ ซานโต

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่ - ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้

     วีแกน : อาลี อัล ฮับซี่ - เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, แกรี่ คัลด์เวลล์, อาเดรียน โลเปซ, มายนอร์ ฟิเกรัว - ฌอน มาโลนี่ย์, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, เบน วัตสัน, จอร์ดี้ โกเมซ - ฮูโก้ โรดาเยก้า, ฟรังโก้ ดิ ซานโต

     ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน

'เชโก้' กอดคอ 'กุน' เต็งยิงลูกแรก

     จากฟอร์มการสังหารประตูอันร้อนแรงของ เอดิน เชโก้ กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ สองกองหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ทั้งคู่ถูกยกขึ้นมาเป็นเต็ง 1 ยิงประตูแรกร่วมกันในเกมเปิดบ้านรับมือ วีแกน วันเสาร์นี้

เรือสอยลาติกส์ 3 นัดหลังเกมศูนย์

     แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ วีแกน แอธเลติก พบกันมาแล้วในศึกพรีเมียร์ลีกรวม 6 ฤดูกาล โดยหลังจาก เดอะ ลาติกส์ ไม่แพ้มาก่อนใน 7 นัดแรก แต่ 5 นัดหลังกลับเป็น เรือใบสีฟ้า ที่เป็นฝ่ายไม่ปราชัยบ้าง

     อย่างไรก็ตาม แม้ แมนฯ ซิตี้ จะผลงานดีกว่าในช่วงหลัง แต่โดยรวม 12 นัดในพรีเมียร์ลีกที่พบกันมาตั้งแต่ฤดูกาล 2005-06 จนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่า วีแกน เอาชนะไป 5 ครั้ง เสมอกัน 3 ครั้ง และ แมนฯ ซิตี้ ชนะไป 4

     ทั้งนี้ทั้งนั้น ชัยชนะ 4 นัดของ เรือใบสีฟ้า 3 นัดในนั้นเป็น 3 เกมหลังสุดที่ทั้งคู่พบกันด้วย ซึ่งทีมดังจากเมืองแมนเชสเตอร์ ยิงไป 7 ประตู ไม่เสียประตูให้ เดอะ ลาติกส์ เลย

ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก
6 ประตู - เอดิน เชโก้ (แมนฯ ซิตี้)
5 ประตู - เวย์น รูนี่ย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
3 ประตู - อิวาน คลาสนิช (โบลตัน), เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้)
2 ประตู - หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล), ดาบิด ซิลบา (แมนฯ ซิตี้), แดนนี่ เวลเบ็ค (แมนฯ ยูไนเต็ด), แอชลี่ย์ ยัง (แมนฯ ยูไนเต็ด), ลีออน เบสต์ (นิวคาสเซิ่ล), เชน ลอง (เวสต์บรอมวิช), ฟรังโก้ ดิ ซานโต (วีแกน)

โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
21.00 น. อาร์เซน่อล - สวอนซี   
21.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - เชลซี  
21.00 น. เอฟเวอร์ตัน - แอสตัน วิลล่า    
21.00 น. แมนฯ ซิตี้ - วีแกน    
21.00 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - สเปอร์ส 
21.00 น. สโต๊ค -  ลิเวอร์พูล 
23.30 น. โบลตัน - แมนฯ ยูไนเต็ด