ปีเตอร์ เช็ก มือกาวดวงแตก "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี รับกังวลลึกๆต้องเจออุบัติเหตุเฉียดตายเหมือน 5 ปีก่อน ที่ปะทะกับคู่แข่งจนเกือบลาโลกกลางสนาม แต่ยันปัญหาบาดเจ็บระหว่างเกมกับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ไม่หนักหนาสาหัสเหมือนครั้งก่อน และเขาสบายดีไม่ได้ฝืนร่างกายขอลงเฝ้าเสาในเกมถล่ม "หงส์ขาว" สวอนซี 4-1 เมื่อวันเสาร์แต่อย่างใด

 
ปีเตอร์ เช็ก นายทวารทีมชาติสาธารณรัฐเช็กของเชลซี รองแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อน ยอมรับตามตรงหวั่นใจเหมือนกันว่าจะต้องประสบชะตากรรมมีอาการบาดเจ็บหัวกะโหลกอีกครั้ง หลังจากล้มฟุบคาห้องแต่งตัวจนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน หลังจากปะทะกับ ออร์แลนโด้ ซา หัวหอกฟูแล่ม ในช่วงท้ายครึ่งแรกของศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 3 เมื่อวันพุธที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา
 
มือกาววัย 29 ปี เคยเจอเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เมื่อครั้งปะทะกับสตีเฟ่น ฮันท์ ดาวเตะของเร้ดดิ้ง เมื่อเดือนตุลาคม 2006 ทำให้เขามีอาการกระโหลกศีรษะแตกจนเกือบเสียชีวิตคาสนาม อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเขาต้องสวมหมวกคลุมป้องกันยามลงสนาม โดยเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้จังหวะปะทะครั้งล่าสุดไม่รุนแรงมากนัก
 
เช็ก กล่าวว่า "หัวของผมสั่นไปหมดจากผลของการปะทะกัน มันหงายหลังไปเหมือนกับว่าคุณโดนหมัดฮุคในการชกมวยเลย ผมคิดว่าหมวกป้องกันรับแรงปะทะส่วนใหญ่ไป และผมรู้สึกสบายดีหลังจากที่ได้รับการรักษาจากนักกายภาพ ผมยังสามารถลงเล่นในช่วง 2-3 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อทันทีที่ผมเข้าไปในห้องแต่งตัวช่วงพักครึ่ง ผมก็รู้สึกทันทีว่ามีอะไรผิดปกติไป"
 
"ผมนั่งลงแล้วก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก ผมมองเห็นไม่ค่อยชัด และไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่รอบๆตัวผมเลย ผมมีอาการกระทบกระเทือน และมันชัดเจนว่า หัวของผมไมได้ทำงานตามปกติที่มันควรจะเป็น ไม่มีทางเลยที่ผมจะลงเล่นต่อไป มันคงเป็นเรื่องโง่มากๆ ที่ผมจะฝืนเล่นต่อ ผมตรงดิ่งไปโรงพยาบาลแล้วเข้ารับการสแกน"
 
"จากประวัติการรักษาของผม พวกเขาไม่เสี่ยงอะไรทั้งนั้นแม้ว่านี่จะเป็นขั้นตอนธรรมดาสำหรับนักเตะทุกคนที่มีอาการกระทบกระเทือนทางสมอง เพื่อทำให้แน่ใจว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในหัวกระโหลก โชคดีที่ทุกอย่างโอเค ผมปวดหัวในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ก็สามารถกลับมาซ้อมในวันศุกร์ และลงเล่นกับสวอนซี วันเสาร์ได้"
 
"แม้ว่าในตอนเช้าของเกมกับสวอนซี เรายังไม่แน่ใจว่าผมจะได้ลงเล่นหรือเปล่า แต่เราก็ตัดสินใจกันหลังจากการอบอุ่นร่างกาย หากผมรู้สึกมีอาการอะไร ผมก็จะไม่ลงสนาม แต่ผมไม่เป็นอะไรเลย" 
 
พร้อมกันนี้ นายด่านร่างโย่ง ยังยอมรับว่า มาร์ติน่า ภรรยาของเขา ยังหวั่นวิตกมากกว่าตัวเขาเองเสียอีก หลังเคยโดนเข่าของฮันท์ จนต้องพักยาวนานกว่า 3 เดือน แถมแพทย์ยังเตือนว่า กระโหลกของเขาไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิมอีกต่างหาก "โชคดีที่ภรรยาของผมดูแลลูกๆในคืนวันพุธ แล้วไม่ได้ไปดูเกม เธอบอกกับผมว่า เธอดีใจที่ไม่เห็นอาการบาดเจ็บนี้ เพราะทุกครั้งที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น มันย้อนให้เธอกลับไปคิดถึงเมื่อปี 2006"
 
"ตั้งแต่นั้น เมื่อผมกลับมาลงเล่นครั้งแรกนับตั้งแต่การบาดเจ็บที่เร้ดดิ้ง ผมก็สัญญาเอาไว้ว่า หากผมจำเป็นต้องเอาศีรษะไปไว้ตรงไหน ผมก็จะทำ มันเป็นส่วนหนึ่งของเกม หากวันใดวันหนึ่งที่ผมกลัวการเอาศีรษะไปอยู่ท่ามกลางการปะทะกัน ผมก็จะเลิกเล่น แต่เท่าที่ผ่านมา ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้น"
 
"ผมไม่ได้ไร้เดียงสาหรือโง่พอที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่สมควรทำ และมันคงเป็นเรื่องโง่อย่างมากสำหรับผมในการลงเล่นวันเสาร์หากรู้สึกไม่ดี หากคุณรู้สึกไม่ดี คุณก็จะก่อความผิดพลาดและสร้างความเสียหายให้กับเพื่อนร่วมทีมได้"
 
"ดังนั้นผมรู้สึกตัวตลอดว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญ และผมตัดสินว่าตัวเองพร้อมที่ลงสนามในช่วงสุดสัปดาห์ มันไม่มีอะไรต้องพูดมากไปกว่านี้ นี่เป็นฟุตบอล และสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ผมแค่โชคไม่ดีที่ต้องบาดเจ็บและมีแผลสวยๆแบบนี้เท่านั้น!"