แอชลีย์ ยัง โหม่งประตูท้ายเกมช่วย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นฝ่ายออกนำ เอฟซี บาเซิ่ล ทีมเยือนในครึ่งแรกไปก่อนถึงสองเม็ดจาก แดนนี่ เวลเบ็ค แต่กลับเป็นฝ่ายต้องไล่ตามตีเสมอ บาเซิ่ล 3-3 แบ่งกันไปทีมละแต้มแบบหืดขึ้นคอ

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี
วันอังคารที่ 27 กันยายน 2554
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3   -   3 เอฟซี บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์)

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

        แมนฯ ยูไนเต็ดกลับมาเล่นในบ้านหลังจากเกมแรกบุกไปเสมอกับเบนฟิก้า 1-1 แต่นัดนี้ไม่มีทั้งเวย์น รูนีย์กับฮาเวียร์ เอร์นานเดซสองกองหน้าที่บาดเจ็บ ทำให้แดนนี่ เวลเบ็คได้ลงบู๊ก่อนหน้าทั้งไมเคิ่ล โอเว่น และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟโดยมีไรอัน กิ๊กส์คอยช่วยประคองเป็นหน้าต่ำ

        ด้านบาเซิ่ลซึ่งชนะโอเตลุล 2-1 ประสบปัญหาขาดสองคีย์แมนเบนจามิน ฮักเกิ้ลกับเซอร์ดาน ชากิรี่ที่ติดโทษแบน แต่ยังมีสองจอมเก๋ามาร์โก สเตรลเลอร์กับอเล็กซานเดอร์ ฟรายลงสนาม ขณะที่สก็อตต์ ชิปเปอร์ฟิลด์หายเจ็บกลับมานั่งเป็นตัวสำรอง

        เริ่มเกมขึ้นมา บาเซิ่ลก็เดินหน้าเข้าหาก่อนทันที และเกือบขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 5 เมื่อสเตรลเลอร์จ่ายบอลทะลุให้ฟาเบียง ฟรายหลุดไปซัดระยะ 18 หลาโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

        อย่างไรก็ดี นาทีที่ 8 ผีแดงน่าจะเช็คบิลได้เช่นกันจากจังหวะที่อันแดร์สันไหลบอลขึ้นทางซ้ายให้แอชลีย์ ยังลากไปโยนเข้าเสาสอง แต่อันโตนิโอ วาเลนเซียโขกเผาขนถากหน้าปากประตูไปอย่างไม่น่าเชื่อ

        ถัดมาในนาทีที่ 15 เจ้าบ้านได้เสียวอีกหนเมื่อวาเลนเซียปีกขวาลุยขึ้นไปสาดบอลเข้าเขตโทษ แต่ยังง้างยิงจาก 14 หลาไปเข้าซองยานน์ ซอมเมอร์พอดี

        ถึงกระนั้นอีกแค่นาทีเดียว สาวกอสูรก็ได้เริงร่าเมื่อวาเลนเซียแทงบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ฟาบิโอ ดา ซิลวาจ่ายไปเสาไกลอีกที แล้วกิ๊กส์ตบคืนมาหน้าประตูให้เวลเบ็คกลับตัวซัดจาก 12  หลาส่งบอลกลิ้งชนเสาตุงตาข่ายเป็นสกอร์นำ 1-0 ของรองแชมป์เก่า

        เท่านั้นไม่พอ อีดอึดใจเดียวในนาทีที่ 17 แมนฯ ยูไนเต็ดก็คายพิษสงได้อีกโดยกิ๊กส์โชว์ชั้นเชิงแทงบอลจังหวะเดียวจากแถวสองให้เวลเบ็คสลัดหนีตัวประกบที่คุมหลวมเข้าแปง่ายๆจากสิบหลาพาแชมป์พรีเมียร์ลีกนำเพิ่มเป็น 2-0

        บาเซิ่ลพยายามฮึดสู้ และนาทีที่ 21 อเล็กซานเดอร์ ฟรายได้กดจากหน้าเขตโทษระยะ 23 หลาส่งบอลโด่งข้ามคานไปอีก

        ทีมเยือนได้ลุ้นตีไข่แตกชนิดใกล้เคียงมากขึ้นในนาทีที่ 25 จากการต่อบอลกันสวยเมื่อสเตรลเลอร์ตวัดเข้าเขตโทษให้อเล็กซานเดอร์ ฟรายแปเหน่งๆระยะ 10 หลาเฉี่ยวเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

        พอเห็นท่าไม่ดีปีศาจแดงก็กลับไปบุกใส่อาคันตุกะอีกรอบ และนาทีที่ 27 กิ๊กส์ก็รับบอลจากกราบขวาที่วาเลนเซียป้ายเข้ามาให้กระทุ้งจากหน้าเขตโทษแฉลบกองหลังโด่งข้ามคานไปนิดเดียว

        นาทีที่ 33 เร้ด เดวิลส์มีเสียวอีกเมื่อวาเลนเซียผ่านลูกสั้นให้เวลเบ็คแปจาก 18 หลา แต่ไม่มีน้ำหนักทำให้ซอมเมอร์รับเข้าซองสบาย

        ทีมเยือนตอบโต้ทันควันในนาทีต่อมาเมื่อฌัคส์ ซูอาหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปโยนบอลเข้ากลาง แต่อเล็กซานเดอร์ ฟรายโขกจาก 15 หลาข้ามคานไปอีก

        เกมของปีศาจแดงยังเหนือกว่าเยอะ และน่าจะพังประตูเพิ่มได้อีกในนาทีที่ 41 จากการเติมเกมของปาทริซ เอวร่าที่จ่ายบอลจากเส้นหลังด้านซ้ายหลุดมาเสาไกลให้วาเลนเซียเข้าเข่นระยะหกหลา  ทว่าซอมเมอร์ทิ้งตัวใช้ขาสกัดได้หวุดหวิด ครบ 45 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ดจึงนำหน้า 2-0

        เริ่มครึ่งหลังมาได้สามนาที วาเลนเซียก็พลิ้วขึ้นกราบขวาแล้วไหลให้ยังซัดที่เสาแรกระยะหกหลาไม่เหลือ แต่เป็นจังหวะที่อดีตสตาร์ทีมแอสตัน วิลล่าล้ำหน้า

        ถัดมาในนาทีที่ 51 บาเซิ่ลน่าจะพังประตูได้จากจังหวะที่ซูอาโยนบอลจากกราบซ้ายเข้าเสาไกลให้สเตรลเลอร์แปเหน่งๆแปดหลา แต่ดาบิด เด เคอาขยับออกมาใช้เท้าเคลียร์ได้อย่างมหัศจรรย์

        กระนั้นก็ดี  นาทีที่ 58 ทีมจากเมืองนาฬิกาก็เริ่มมีหวังแชร์แต้มกลับรังจากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่เด เคอาปัดลูกโขกของสเตรลเลอร์ได้ แต่ฟาเบียง ฟรายเข้าซ้ำด้วยลูกวอลเลย์จาก 12 หลาส่งบอลชนเสาเข้าประตูช่วยให้บาเซิ่ลไล่มา 1-2

        เขี่ยบอลใหม่ได้แค่สองนาที แฟนผีก็ต้องตะลึงเมื่อฟาเบียน ฟรายรับบอลจากกรานิต ซาก้าแล้วสาดจากกราบขวาไปเสาสองให้อเล็กซานเดอร์ ฟรายโขกย้อนศรตุงตาข่ายโดยเด เคอาทำได้แค่ปัดด้วยปลายนิ้ว สกอร์จึงพลิกเป็น 2-2 บีบให้แมนฯ ยูไนเต็ดต้องแก้เกมด้วยการเปลี่ยนพาร์ค ชี ซองลงไปแทนกิ๊กส์ทันทีในอีกสองนาทีต่อมา

        สถานการณ์ของเจ้าบ้านเลวร้ายลงไปอีกเมื่อฟาบิโอโดนซูอาเข้าปั๊มบอลแถวกลางสนามจนเจ็บข้อเท้าขวา ต้องเดินออกให้นานี่ลงไปแทนในนาทีที่ 69 โดยวาเลนเซียต้องถอยไปเล่นเป็นแบ็คขวาอีกหน

        จากนั้นอีกสองนาที กรานิต ซาก้าเข้ารวบคว่ำยังจึงได้ใบเหลือง และแม้จะพยายามเดินหน้า แต่ผีแดงก็ไม่มีลุ้นแถมนาทีที่ 76 มาเสียลูกโทษอย่างน่ากังขาอีกในจังหวะเคลียร์บอลไม่ขาด และแม้วาเลนเซียจะถึงบอลก่อนและบังเอาไว้ แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าว่าทำฟาวล์สเตรลเลอร์ล้มก่อนที่อเล็กซานเดอร์ ฟรายจะตะบันไม่พลาดทำให้บาเซิ่ลแซงนำ 3-2 จนได้

        นาทีต่อมา ทีมเยือนเปลี่ยนชิปเปอร์ฟิลด์ลงไปแทนฟาเบียง ฟราย

        นาที 90 ความพยายามของผีแดงมาประสบผลสำเร็จเมื่อทำประตูตีเสมอ 3-3 จากการโยนบอลด้านข้างของ นานี่ ก่อนเลยไปทางเสาสองและเป็น แอชลี่ย์ ยังขึ้นโหม่งโล่งๆ บอลพุ่งต่ำผ่านมือ ซอมเมอร์นายด่านทีมเยือนที่พุ่งปัดสุดเอื้อมแต่ไม่ถึงเข้าไปตุงตาข่าย

        ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเป็นผีแดงที่ครองเกมบุกฝ่ายเดียวหวังขุดประตูชัยแต่ก็ไม่สามารถเจาะแผงรับทีมเยือนได้ จบเกม แมนฯ ยู ที่นำห่างในครึ่งแรกไปก่อนถึงสองเม็ดกลับเป็นฝ่ายต้องไล่ตามตีเสมอ บาเซิ่ล 3-3 แบ่งกันไปทีมละแต้มแบบสุดมันส์

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        แมนฯ ยูไนเต็ด :  ดาบิด เด เคอา , ฟาบิโอ ดา ซิลวา (นานี่ น.69)  ,  ฟิล โจนส์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , ปาทริซ เอวร่า  , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิ่ล คาร์ริค , อันแดร์สัน (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.83) , แอชลีย์ ยัง , ไรอัน กิ๊กส์ (พาร์ค ชี ซอง น.62)  , แดนนี่ เวลเบ็ค

        สำรอง : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ,  มาเม่ ดิยุฟ , ไมเคิ่ล โอเว่น

        เอฟซี บาเซิ่ล :ยานน์ ซอมเมอร์ , พาร์ค ชู โฮ , อเล็กซานเดอร์ ดราโกวิช , ดาวิด อิบราฮิม , มาร์คุส สไตน์โฮเฟอร์ ,ฌักส์ ซูอา , คาบราล ,   กรานิต ซาก้า , ฟาเบียง ฟราย (สก็อตต์ ชิปเปอร์ฟิลด์ น.77)  , อเล็กซานเดอร์ ไฟร (โตล็องต์ ซาก้า น.89) , มาร์โก สเตรลเลอร์ (กวาง ยอง ปัก น.81)

        สำรอง : มัสซิโม่ โคลอมบ้า , อาร์แล็งด์ อาเชติ , ปาสกาล ชุร์ฟ   , ราโดสลาฟ โควัช

        ผู้ตัดสิน : เปาโล ตายาเวนโต้ (อิตาลี)

สรุปผลฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 

กลุ่มเอ
- บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) ชนะ แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)   2 - 0         
- นาโปลี (อิตาลี) ชนะ บียาร์เรอัล (สเปน)   2 - 0   

กลุ่มบี
- ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) แพ้ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)   2 - 3       
- แทร็บซอนสปอร์ (ตุรกี) เสมอ ลีลล์ (ฝรั่งเศส)  1 - 1 

กลุ่มซี
- แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) เสมอ บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์)  3 - 3         
- โอเตลุล กาลาติ (โรมาเนีย) แพ้ เบนฟิก้า (โปรตุเกส)   0 - 1 

กลุ่มดี
- ลียง (ฝรั่งเศส) ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย)  2 - 0      
- เรอัล มาดริด (สเปน) ชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)  3 - 0