"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง หลุยส์ ซัวเรซ นำทัพแนวรุกยกพลออกเยือนทำศึกแห่งศักดิ์ศรี "เมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้" กับคู่ต่อกร "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เจ้าถิ่น ที่มี ทิม เคฮิลล์ เป็นดาวเพชรฆาตรตัวความหวังลุ้นซัดหักปีกหงส์เหมือนครั้งที่เคยทำได้มาแล้วเมื่อซีซั่นก่อน แต่เมื่อดูสถิติสองทีมพบกันในถิ่น กูดิสัน พาร์ค 4 นัดหลังสุด เป็น หงส์แดง ที่บุกมาเคี้ยวทอฟฟี่แหลกถึง 3 นัดเลยทีเดียวเชียว
 

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554

เอฟเวอร์ตัน - ลิเวอร์พูล

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

        เดวิด มอยส์ กุนซือ ทอฟฟี่เมน พลาดท่าปราชัยอย่างง่ายดายในเกมล่าสุดที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 โดยมาเสียสองประตูในครึ่งหลัง แต่สำหรับเกมใหญ่วันเสาร์นี้ พวกเขามีข่าวดี เมื่อจะได้ ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์จอมถล่มประตู พร้อมลงสนาม

        เคฮิลล์ บาดเจ็บในเกมที่แมนเชสเตอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะไปปะทะกับ แว็งซ็องต์ ก็อมปานี จนเป็นแผลที่หน้าแข้ง อย่างไรก็ตาม มอยส์ หวังว่ามิดฟิลด์ออสซี่จะฟิตสมบูรณ์พร้อมลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก

        ในราย วิคเตอร์ อนิเชเบ้ กองหน้าไนจีเรีย เจ็บโคนขาหนีบอยู่ แต่ก็มีข่าวดีตรง หลุยส์ ซาฮา เคลียร์ปัญหากับ มอยส์ กลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรองในนัดก่อนแล้ว และพร้อมทำหน้าที่ในเกมนี้ตามปกติ

        สองแข้งใหม่ รอยส์ตัน เดรนเธ่ กับ เดนิส สตรัคควาลูร์ซี่ ยังไม่ได้ประเดิมตัวจริงในเกมลีกเลย ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ มอยส์ ว่าจะมอบโอกาสให้ใครในเกมนี้

        ระบบการเล่น 4-5-1 ทิม ฮาวเวิร์ด เฝ้าเสา แนวรับ ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ แดนกลาง เชมัส โคลแมน, ฟิล เนวิลล์, มารูยาน เฟลไลนี่, แจ็ค ร็อดเวลล์, ลีออน ออสแมน หน้าเป้าใช้ ทิม เคฮิลล์

        ฝั่งหงส์แดง ของกุนซือ เคนนี่ ดัลกลิช อาจปรับทัพเล็กน้อยในเกมนี้ หลังเกมล่าสุดเฉือนชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน 2-1 แบบยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นมากพอสมควร

        เดิร์ค เค้าท์ มีโอกาสลงตัวจริงแทน แอนดี้ แคร์โรลล์ ในแดนหน้า หรือไม่ก็อาจส่งลงแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตำแหน่งกองกลางฝั่งขวา

        ขณะที่ กัปตันสตีวี่จี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่พักยาว 6 เดือนจากการผ่าตัดโคนขาหนีบ ถูกส่งลงสนามในช่วงท้าย สองนัดติดต่อกันแล้ว แต่ ดัลกลิช ก็ต้องตัดสินใจว่าจะส่งลงตัวจริงเกมลีกวันเสาร์นี้หรือไม่ เพราะถือว่าเป็นเกมหนัก

        แผงหลังยังขาด ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ที่เจ็บซี่โครงหัก ขณะที่แบ็กขวา เกล็น จอห์นสัน ยังเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า เป็นสองกองหลังที่ไม่พร้อมลงสนาม

        ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แนวรับ มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้ แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า, ชาร์ลี อดัม, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง คู่หน้า เดิร์ค เค้าท์ ยืนคู่ หลุยส์ ซัวเรซ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด - ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ - เชมัส โคลแมน,  มารูยาน เฟลไลนี่, แจ็ค ร็อดเวลล์, ลีออน ออสแมน - ทิม เคฮิลล์

        ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า, ชาร์ลี อดัม, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - เดิร์ค เค้าท์, หลุยส์ ซัวเรซ

        ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน

ทอฟฟี่ดวล 9 นัดในลีกเป็นรองหงส์

        เอฟเวอร์ตัน มีผลงานการพบกับ ลิเวอร์พูล ช่วงหลังค่อนข้างเป็นรองเยอะ 9 นัดหลังสุดที่ทั้งคู่เจอกันในพรีเมียร์ลีก ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เก็บชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมที่ กูดิสัน พาร์ค เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

        นอกจาก 9 นัดหลังในลีกที่เป็นรองแล้ว เอฟเวอร์ตัน ยังแพ้คาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล ถึง 3 จาก 4 นัดหลังสุดในเกมลีกด้วย ยกเว้นเกมเอฟเอ คัพ นัดรีเพลย์ ฤดูกาล 2008-09 ที่ ทอฟฟี่เมน กลับมาชนะในบ้าน 1-0 ผ่านเข้ารอบ

        ซีซั่นที่แล้ว เอฟเวอร์ตัน เอาชนะในบ้าน 2-0 จาก ทิม เคฮิลล์ และ มิเกล อาร์เตต้า ส่วนอีกนัดที่บ้านหงส์ เสมอ 2-2 ราอูล เมยเรเลส ยิงก่อนทีมเยือนแซงจาก ซิลแว็ง ดิสแต็ง กับ เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด และ เดิร์ค เค้าท์ ตีเจ๊าจากจุดโทษ

        นับรวมสถิติที่พบกันทั้งหมดในลีกแล้ว ทั้งคู่เจอกันมามากถึง 184 นัดแล้ว โดย ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะ 70 และ เอฟเวอร์ตัน ชนะ 57 ที่เหลือเสมอกัน

ซัวเรซเต็งลูกแรกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้

        หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ถูกยกเป็นเต็ง 1 ยิงประตูแรกในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค วันเสาร์นี้ จากการเปิดราคาของ วิลเลียม ฮิลล์ ร้านรับพนันถูกกฏหมายชื่อดังของอังกฤษ

โปรแกรม ฟุตบอล พรีเมียรลีก อังกฤษ
18.45 น. เอฟเวอร์ตัน - ลิเวอร์พูล
21.00 น. แอสตัน วิลล่า - วีแกน
21.00 น. แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส - แมนฯ ซิตี้
21.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - นอริช
21.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - เวสต์บรอมวิช
21.00 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - นิวคาสเซิ่ล