วงการไอทีโลกต้องเผชิญการสูญเสียครั้งสำคัญ หลังจากแอปเปิล บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐฯ ส่งแถลงการณ์ออกมาประกาศว่า สตีฟ จ๊อบส์ นักประดิษฐ์อัจฉริยะชาวอเมริกัน และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทของพวกเขา ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 56 ปี เมื่อวันพุธที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งตับอ่อนมายาวนานถึง 7 ปี

1 วันหลังจากแอปเปิล เพิ่งจะสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์ไอโฟน 4 เอส ที่สำนักงานใหญ่ ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย บอร์ดบริหารของบริษัทส่งแถลงการณ์แจ้งข่าวการเสียชีวิตของจ๊อบส์ ในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาประเทศสหรัฐฯ
 
''เรารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องประกาศว่า สตีฟ จ๊อบส์ ได้จากไปแล้วในวันนี้ สตีฟ ผู้มีความปราดเปรื่อง, ความหลงใหล และความกระตือรือร้นที่ไม่มีขีดจำกัดในการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณค่า และยกระดับชีวิตของพวกเราทุกคน ทุกคนในโลกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะสตีฟ''
 
''เขามีความรักที่ยิ่งใหญ่ต่อภรรยา ลอเรน และครอบครัวของเขา เราขอส่งกำลังใจให้พวกเขา และทุกคนที่สามารถสัมผัสถึงพรสวรรค์ที่พิเศษของเขา''
 
หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวจ๊อบส์ส่งแถลงการณ์ออกมาเผยว่า สตีฟที่ตรวจพบเนื้องอกบริเวณตับอ่อน ในปี 2004 ก่อนจะพัฒนากลายเป็นมะเร็งจากไปอย่างสงบ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ได้รับระหว่างที่เขากำลังต่อสู้กับโรคร้าย
 
''ในวันนี้สตีฟเสียชีวิตอย่างสงบ ท่ามกลางสมาชิกในครอบครัว ในสายตาสาธารณชน สตีฟเป็นที่รู้จักในฐานะผู้มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า แต่ในชีวิตส่วนตัวเขาเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว เราอยากขอบคุณผู้คนมากมายที่ร่วมแบ่งปันคำอธิษฐาน และการสวดมนต์ในช่วงปีสุดท้ายที่สตีฟล้มป่วย และจะมีการเปิดเว็บไซต์เพื่อให้ทุกคนเข้ามาร่วมไว้อาลัย และระลึกถึง''
 
จ๊อบส์ เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1955 ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีชื่อเต็มว่า สตีเว่น พอล จ๊อบส์ โดยร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล กับ สตีฟ วอซเนียค ในปี 1976 ด้วยทุนเริ่มต้นเพียง 700 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 21,000 บาท) ก่อนที่จะเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ Apple II ในอีก 1 ปีต่อมา
 
อย่างไรก็ตาม ในปี 1985 จ๊อบส์ต้องลาออกจากแอปเปิลหลังพ่ายแพ้ในการชิงอำนาจบอร์ดบริหาร ก่อนจะมาก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์เน็กซ์ แต่แอปเปิลเข้าซื้อกิจการในปี 1996 และแต่งตั้งให้เขากลับมาเป็นประธานบริหาร (ซีอีโอ) ในปี 1997
 
จ๊อบส์เริ่มต้นปฏิวัติสายการผลิตของแอปเปิลด้วยการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลไอแม็ค ที่มีสีสันดึงดูดวัยรุ่น และตัดราคาขายลงมาอยู่ที่ 1,300 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 39,000 บาท) ในปี 1998 ตามด้วยการสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้วงการดนตรีด้วยการส่งไอพอด เครื่องฟังเพลงดิจิตอลแบบพกพา ออกขายในปี 2001 ที่ทำให้การฟังเพลงของผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงตลอดกาล
 
อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางปี 2004 จ๊อบส์ประกาศกับพนักงานของแอปเปิลว่า เขาตรวจพบเนื้องอกที่ตับอ่อน และต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษา แต่เขายังขึ้นมาเป็นผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทอยู่ตลอด รวมทั้งการทำให้โลกเข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟน ในปี 2007 ด้วยการส่งไอโฟนออกมา จนทำยอดขายรวมทุกรุ่นทะลุ 100 ล้านเครื่อง เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
 
ผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่ปรากฏการณ์ชิ้นสุดท้ายของจ๊อบส์ คือการเปิดตัวไอแพด คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตพกพา เมื่อเดือนเมษายน 2010 จนทำให้แอปเปิลสามารถแซงไมโครซอฟต์ คู่แข่งสำคัญขึ้นเป็นบริษัทไอทีที่มูลค่าสูงสุดของประเทศสหรัฐฯ ได้สำเร็จ
 
แต่ในเดือนมกราคมปีนี้ จ๊อบส์ประกาศขอพักงานอีกครั้งเพื่อรักษาตัว แต่เขายังมาแนะนำไอแพด 2 เมื่อเดือนมีนาคม และปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งสุดท้าย ระหว่างงานแอปเปิล เวิลด์ ไวลด์ คอนเฟอเรนซ์ ที่ซานฟราซิสโก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน เพื่อแนะนำ ไอคลาวน์ โปรแกรมเก็บไฟล์ออนไลน์ ก่อนที่จะประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ พร้อมเลื่อน ทิม คุ้ก หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ขึ้นมาทำหน้าที่แทนในวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา 
 
สำหรับชีวิตครอบครัว จ๊อบส์แต่งงานกับลอเรน พาวลล์ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 1991 โดยพวกเขามีลูกชาย 1 คน และลูกสาว 2 คน โดยบอสใหญ่ของแอปเปิลเคยมีลูกสาว 1 คน กับ คริสซานน์ เบรนเน่น จิตรกรชาวซานฟรานซิสโก ในปี 1978

ปธน.โอบามานำขบวนร่วมอาลัยยกย่องสุดยอดนักประดิษฐ์โลก

 
บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบุคคลสำคัญทั่วโลก ออกมาร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ สตีฟ จ๊อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล โดยยกย่องให้เป็น 1 ในสุดยอดนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของประเทศ
 
''เขาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเราทุกคน สร้างนิยามใหม่ให้อุตสาหกรรม และประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งในสิ่งที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เขาเปลี่ยนแปลงแนวทางที่เราทุกคนมองโลกใบนี้ สตีฟเป็นหนึ่งในนักประดิษฐ์ชาวอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล มีความกล้ามากพอที่จะคิดต่าง มีความเชื่อมั่นที่แนวแน่ว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลก และพรสวรรค์ที่มากพอจะทำในสิ่งที่คิด''
 
''การสร้างหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบนโลกใบนี้จากโรงรถ เขาได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของความเป็นนักสร้างสรรค์ของชาวอเมริกัน การสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และนำอินเตอร์มาอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเรา เขาไม่ได้แค่ปฏิวัติข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่เข้าถึงได้ง่าย แต่สามารถเข้าใจ และสนุกไปกับมัน'' แถลงการณ์ของผู้นำหมายเลขหนึ่งของโลก ระบุ
 
ขณะที่ บิล เกตส์ เจ้าของไมโครซอฟต์ บริษัทคู่แข่งสำคัญของแอปเปิล ออกมาเผยว่า เขารู้สึกเศร้าใจที่รู้ข่าวการตายของจ๊อบส์ ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและคู่แข่งมาตลอดเวลาหลายทศวรรษ ''สตีฟกับผมเจอกันครั้งแรกเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน และกลายเป็นเพื่อนร่วมงาน คู่แข่ง และเพื่อนตลอดระยะเวลามากกว่าครึ่งชีวิตของเรา''
 
''ไม่บ่อยครั้งนักที่โลกจะได้พบใครสักคนที่สามารถสร้างอิทธิพลได้อย่างสตีฟทำเอาไว้ ผลงานของเขาจะส่งผ่านสู่ผู้คนอีกหลายรุ่นจากนี้ สำหรับพวกเราที่โชคดีพอได้ทำงานร่วมกับเขา ถือเป็นเกียรติที่ไม่อาจหาอะไรมาเทียบได้ ผมจะต้องคิดถึงสตีฟอย่างมากแน่นอน''
 
ทางด้าน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อัจฉริยะคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เว็บไซต์สังคมออนไลน์สุดฮิต โพสต์ข้อความไว้อาลัยในหน้าเฟซบุ๊กของเขาว่า ''สตีฟ ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ และความเป็นมิตร ขอบคุณที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่คุณสร้างสามารถเปลี่ยนแปลงโลก ผมคงจะต้องคิดถึงคุณ''