ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » แข้ง19ไทยสุดโหดกระทุ้งจีน7-2ศึกแม่โขงคัพ

แข้ง19ไทยสุดโหดกระทุ้งจีน7-2ศึกแม่โขงคัพ

Posted 11/10/2011 by siamsport

ทีมชาติไทย 7 - ทีมชาติจีน 2

 

แข้งช้างศึก 19 ปีไทย โคตรโหด!! ถล่มทีมชาติจีนไม่ไว้หน้า 7-2 เป็น ชญาวัต ศรีนาวงษ์ กับ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ช่วยกันส่องคนละสองตุง คว้า 3 แต้มประเดิมสนามได้อย่างสวยงาม ในศึกลูกหนัง แม่โขง คัพ ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา  
  
 

ฟุตบอลนานาชาติลุ่มแม่น้ำโขง "แม่โขง คัพ" ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา

      ธนู คุณาธรรม ผู้สื่อข่าวสยามกีฬา และ ณัฐวุฒิ ใจธรรม ช่างภาพฟุตบอลสยามทีวี รายงานที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา การแข่งขันฟุตบอลนานาชาติลุ่มน้ำแม่โขง หรือ "แม่โขง คัพ" โดยเกมนี้เป็นการลงสนามนัดแรกของไอ้หนูเยาวชน 19 ปีของไทยลงสนามพบกับทีมชาติจีน ซึ่งลงเล่นเป็นนัดที่ 2 โดยเกมแรกเสมอกับเวียดนามมา 1-1

     เกมนี้ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม เฮดโค้ชของทีมชาติไทยใช้ผู้เล่นที่ดีที่สุดประกอบไปด้วย สำหรับ 11 ผู้เล่นคนแรก ผู้รักษาประตูจะใช้ วัชระ บัวทอง แนวรับมี พีระพัตร โน้ตชัยยา ลงประจำการทางด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะใช้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

     คู่เซนเตอร์ตรงกลาง เป็น อดิสร พรหมรักษ์ และ ธนากร สายปัญญา กองกลาง 4 ตัวมี วิทยา มูลวงศ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สุบรรณ เงินประเสริฐ และ นิติพงษ์ เสลานนท์ ส่วนคู่ศูนย์หน้าจะใช้บริการของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ และ ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ลงประเดิมสนามในเกมแรก

     ส่วน ลี จูน กุนซือของทีมชาติจีนใช้นักเตะจากชุดที่แล้วที่เสมอกับเวียดนามมา 1-1 นำมาโดย แดงค์ เช็ง กัปตันทีมตัวเก่ง และจะมี ไช ลี, ชาง เว่ย จุน, ชาน เฮ่า และ ฮองลี ผู้ทำประตูเวียดนามมาได้ในเกมแรกลงสนาม โดยก่อนการแข่งขันของคู่นี้จะเริ่มขึ้นสักประมาณ 20 นาที ฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้สภาพสนามเจิ่งนองไปด้วยน้ำและการคอนโทรลบอลกับพื้นของทั้งสองทีมเป็นไปด้วยความยากลำบาก

     เปิดฉากเริ่มเกมครึ่งแรกแค่เพียงนาทีที่ 6 เป็น จีนที่มีโอกาสลุ้นประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ แดงค์ เช็ง กระชากบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะตัดสินใจสับไกด้วยขวาแต่จังหวะนี้ วัชระ บัวทอง ผู้รักษาประตูของทีมชาติไทยอ่านเกมได้ดีโดยออกมาปิดมุมและบล็อกลูกยิงไว้ได้ช่วยให้ทีมไทยไม่เสียประตู

     จากนั้นทีมชาติไทยเริ่มที่จะตั้งหลักได้และในนาทีที่ 10 โอกาสก็เป็นของทีม "ช้างศึก" บ้าง เมื่อ อดิสร พรหมรักษ์ กระชากบอลหลุดไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดบอลเข้าไปลุ้นตรงกลางประตูบอลเลยหลุดกองหลังจีนมาเข้าทางปืนของ นิติพงษ์ เสลานนท์ ที่วิ่งเติมขึ้นมาได้สับไกคนเดียวโล่งๆ แต่กลับยิงข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

     จนกระทั่งเกมดำเนินเข้าสู่นาทีที่ 21 โอกาสลุ้นประตูเป็นของไทยอีกครั้งคราวนี้เป็นทางด้าน ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ได้ลองสับไกจากระยะประมาณ 28 หลา แต่ลูกนี้บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปชนิดได้ลุ้น

     จากนั้นเวลาที่เหลือทั้งสองฝั่งต่างก็เปิดเกมรุกแลกกันอย่างสนุก จนกระทั่งเกมดำเนินเข้าสู่นาทีที่ 43 เมื่อทีมจีนเสียฟาวล์บริเวณฝั่งขวา และเป็น พีระพัตร โน้ตชัยยา อาสาเปิดลูกนี้เข้าไปในกรอบเขตโทษแต่บอลกลับพุ่งแฉลบน้ำเข้าประตูไปทีมชาติไทยออกนำ 1-0 จากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มกันได้ ทำให้ครึ่งเวลาทีมชาติไทยขยับสกอร์ออกนำทีมชาติจีน 1-0

     กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังเป็นทีมชาติจีนที่เปิดเกมรุกหวังที่จะทวงประตูคืนให้เร็วที่สุด แต่ในนาทีที่ 46 ก็กลับมาเสียประตูที่สองจากจังหวะสวนกลับเมื่อ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ตัดบอลได้ก่อนจะลากมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดบอลเรียดเข้าไปหน้าปากประตู

     และจังหวะสุดท้ายเป็น ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ที่วิ่งเข้ามาแปโล่งๆ เข้าประตูไปช่วยให้ทีมชาติไทยนำห่างเป็น 2-0 เกมของจีนยิ่งเร่งยิ่งรวน นาทีที่ 55ต้องมาเสียประตูที่ 3 จนได้จากจังหวะที่ ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ที่คราวนี้ลากบอลเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ เซีย ยอง ผู้รักษาประตูทีมชาติจีนเข้าประตูไป ช่วยให้ทีมชาติไทยนำห่างเป็น 3-0

     นาทีที่ 63 ทีมชาติจีนก็มาได้ประตูตีไข่แตกจนได้ เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาก่อนที่จังหวะสุดท้าย ลี เจีย จะเบียดกองหลังไทยเข้าไปโขกลูกนี้เข้าประตูไปไล่มาเป็น 1-3 แต่ทีมชาติจีนก็ดีใจได้ไม่นานเมื่อทีมชาติไทยมาได้ประตูนำห่างอีกครั้งจากการขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ ของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ช่วยให้ทีมไทยนำห่าง 4-1 แต่ถัดมาอีกเพียงแค่ 3 นาทีจีนก็มาได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 คราวนี้เป็น ฮองลี ที่อาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายลากบอลเดี่ยวเข้าไปยิงที่เสาแรกบอลผ่านมือ วัชระ บัวทอง นายทวารทีมชาติไทยเข้าประตูไป

     เข้าสู่ช่วงท้ายเกมทีมชาติไทยมาได้ 3 ประตูรวดจาก นรากร คนา ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาใหม่ มาบวกประตูที่ 5 ให้ทีมชาติไทยนำห่าง 5-2 จากการผ่านบอลมาจากฝั่งขวาของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ นาทีที่ 90 ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ก็มีชื่อบนสกอร์บอร์ดจนได้เมื่อได้จังหวะซ้ำดาบสองจากการยิงชนเสาของ นิติพงษ์ เสลานนท์ ในจังหวะแรก ทีมชาติไทยนำห่าง 6-2

     เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ก็มาบวกประตูที่สองของตนเองจากการได้จังหวะสับไกบริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทีมชาติไทยนำห่าง 7-2 ในนาทีที่ 90+3 จากนั้นผู้ตัดสินก็เป่าหมดเวลาทันที่ ทำให้จบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติจีน ไปได้ 7-2

      วาทะโค้ช

      "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม เฮดโค้ชของทีมชาติไทย : เกมนี้ต้องบอกว่าลูกทีมทุกคนเล่นกันได้ดีอย่างมาก ถึงแม้ว่าทีมชาติจีนจะมีรูปร่างที่ได้เปรียบเราก็ตามทีก็พอใจกับ 3 แต้มในวันนี้มาก และเกมหน้าอาจจะสลับหมุนเวียนนักเตะกันเพื่อเก็บตัวหลักไว้ใช้งานในรายการชิงแชมป์เอเชีย

      ลี จุน กุนซือของทีมชาติจีน : เกมนี้ลูกทีมเล่นค่อนข้างผิดฟอร์ม และยอมรับว่าเด็กไทยเล่นกันได้ดีมาก ซึ่งโอกาสเข้ารอบต่อไปของเราตอนนี้คงลุ้นลำบาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »