"กระทิงดุ" สเปน ที่ไร้แรงกดดันเนื่องจากผ่านเข้าไปอวดฝีแข้งรอบสุดท้ายที่ยูเครนและโปแลนด์ ด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ไอ.แล้ว เตรียมส่ง ฆวน มานูเอล มาต้า นำทัพแผงหน้าเปิดบ้านล่าตาข่าย สกอตแลนด์ ทีมเยือนที่ต้องสู้สุดชีวิตเพื่อสามแต้มและการันตีการได้เล่นรอบเพลย์ออฟ ข้ามมาฝั่ง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน เตรียมจัด มาริโอ โกเมซ ลงแผงแนวรุกผนึกคมแข้งลุ้นปิดสกอร์หวังซิวชัยเหนือ "ปีศาแดงแห่งยุโรป" เบลเยียม เพื่อสร้างสถิติสุดหรูในรอบคัดเลือก 10 นัดเก็บ 30 แต้มเต็ม ของกลุ่ม เอ.

ปรีวิวฟุตบอลยูโร 2012

รอบคัดเลือก กลุ่ม ไอ.

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2554

สเปน - สกอตแลนด์

 
สนาม: เอสตาดิโอ ริโก้ เปเรซ, อลิกันเต้, สเปน

     ย้อนกลับไปดูสถิติการเจอกันของคู่นี้ใน 5 เกมหลังสุด (รวมทุกรายการ) นั้น ปรากฏว่า สเปน เหลื่อมกว่าเล็กน้อย ชนะไป 2 นัด เสมอ 2 นัด และ สกอตแลนด์ ชนะไปหนึ่งนัด

กระนั้นก็ดี เกมที่ สกอตแลนด์ เอาชนะได้นั้น ต้องย้อนไปในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 1986 ซึ่งเปิดบ้านต้อน สเปน ไปได้ 3-1 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 1984 หรือเกือบ 27 ปีที่แล้ว

ทว่าสิ่งที่น่าสนใจไปยิ่งกว่านั้นคือ 4 นัดหลังสุดที่เจอกัน สเปน ไร้พ่ายก็จริง แต่มีจุดที่น่าสังเกตอยู่อย่างคือ สเปน เล่นในบ้านสองเกมหลังสุด กับ สกอตแลนด์ นั้น ลงเอยด้วยผลเสมอทั้งหมด ไล่ตั้งแต่เจ๊า 0-0 ในเกมอุ่นเครื่องที่มาดริด เมื่อเดือนเมษายน ปี 1988 และ เสมอ 1-1 ในเกมอุ่นเครื่องที่บาเลนเซีย เมื่อปี 2004

บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือทีมชาติสเปน แชมป์โลกปี 2010 สามารถพาทีมผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของศึกยูโร 2012 ที่ยูเครนและโปแลนด์ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากคว้าแชมป์กลุ่มไอ. ด้วยสถิติชนะ 7 นัดรวด ยิงได้ 23 เสียแค่ 5 ประตู เท่านั้นเอง

 เดล บอสเก้ เรียกผู้เล่นมาทำศึกเกมนี้ทั้งหมด 22 ราย แต่ไม่มี อัลบาโร่ เนเกรโด้ ศูนย์หน้าวัย 26 ปี จากสโมสรเซบีย่า มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา ถอนตัวออกไปแล้ว ตามหลัง เชส ฟาเบรกาส กองกลางตัวกลั่นจากสโมสรบาร์เซโลน่า ที่เจ็บจากเกมช่วยต้นสังกัดทำศึกกับ บาเต้ บอริซอฟ บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก จนต้องพักสามสัปดาห์

 นอกจากนั้นยังต้องขาด อันเดรส อิเนียสต้า ที่ไม่ถูกเรียกตัวมาติดทีม หลังจากเพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อขาซ้าย

 ล่าสุดนี้ สเปน ไม่มี ราอูล อัลบิโอล ปราการหลังของสโมสรเรอัล มาดริด โชคร้ายสุดขีดได้รับบาดเจ็บกระดูกโหนกแก้มแตก ในระหว่างการฝึกซ้อม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา

 ขณะเดียวกันต้องรอเช็คความฟิตของ ชาบี อลอนโซ่ กองกลางจากเรอัล มาดริด ที่บาดเจ็บกระดูกหน้าแข้งมาจากเกมกับ สาธารณรัฐเช็ก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อีกรายด้วย โดย อลอนโซ่ กลับมาซ้อมแล้ว อาจมีชื่ออยู่ในกลุ่มด้วย แต่จะได้เล่นเป็นตัวจริงหรือไม่ ยังต้องลุ้น

ด้าน เซร์คิโอ รามอส แบ็คขวาจากเรอัล มาดริด อีกรายนั้น ไม่ได้ลงฝึกซ้อม เนื่องจากเจ็บกล้ามเนื้อ ดูแล้ว เดล บอสเก้ ไม่น่าจะเสี่ยงส่งลงสนาม ทำให้ จอร์ดี้ อัลบา แบ็คซ้ายจากบาเลนเซีย จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในทีมชาติชุดใหญ่เป็นนัดแรก แล้วโยกเอา อัลบาโร่ อาร์เบลัว มายืนเป็นแบ็คขวาแทน

 สามประสานแดนหน้าให้ ฆวน มานูเอล มาต้า, ดาบิด บีย่า และ ดาบิด ซิลบา ลงมาล่าตาข่าย โดย เฟร์นานโด ตอร์เรส จะโดนดร็อปเป็นสำรองบ้าง

  ข้ามมาดู เคร็ก เลวีน ผู้จัดการทีมชาติสกอตแลนด์ นำทัพบุกไปเอาชนะ ลิกเต่นสไตน์ ได้สนุก 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา เก็บสามแต้มอันล้ำค่า ขยับขึ้นมาเป็นอันดับสองของกลุ่มไอ.แล้ว ถ้าเกมนี้บุกชนะ สเปน ได้ จะการันตีการได้เล่นรอบเพลย์-ออฟ ทันที

 อย่างไรก็ตาม สภาพทีมของสกอตแลนด์ มีปัญหาเยอะทีเดียว ไล่ตั้งแต่ สกอตต์ บราวน์ กองกลางคนสำคัญวัย 26 ปี ของกลาสโกว์ เซลติก บาดเจ็บข้อเท้าขวาต้องพักยาวถึง 10 สัปดาห์

ในรายของ ลี วัลเลซ แบ็คซ้ายจากสโมสรกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ถูกเรียกเข้ามาแทน สตีเฟ่น เครนี่ย์ ดาวเตะจากแบล็คพูล ซึ่งเจ็บข้อเท้า ส่วน โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ กองกลางจากลีดส์ ยูไนเต็ด ถอนตัวออกไปเพราเจ็บข้อเท้า เลยต้องเรียก เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ กองกลางดาวรุ่งของวีแกน แอธเลติก เข้ามาแทน

 ข่าวดีคือ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์ตัวกลั่นจากสโมสรแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งรับบทบาทกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ชุดนี้ หายป่วยจากอาการทอนซิลอักเสบ แล้ว นำทีมลงบู๊เกมนี้ได้

 นอกจากนั้น อลัน ฮัตตัน ฟูลแบ็ควัย 26 ปี จากสโมสรแอสตัน วิลล่า หายเจ็บเข่า ฟิตเต็มที่แล้ว

 ล่าสุดนี้ แบร์รี่ แบนแน่น มิดฟิลด์ตัวริมเส้นจากแอสตัน วิลล่า ได้รับบาดเจ็บส้นเท้า มาจากเกมชนะ ลิกเต่นสไตน์ ต้องรอเช็คความฟิต ขณะที่รายของ เคนนี่ มิลเลอร์ กองหน้าคนสำคัญที่เจ็บโคนขาหนีบ ส่อแววชวดลงเล่นเกมนี้ หลังจากเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็พลาดบู๊

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

สเปน: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เคราร์ด ปิเก้, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ, ฆาบี มาร์ติเนซ, ติอาโก้ อัลกานตาร่า - ฆวน มานูเอล มาต้า, ดาบิด บีย่า, ดาบิด ซิลบา

   สกอตแลนด์: อัลลัน แม็คเกรเกอร์ - อลัน ฮัตตัน, คริสตอฟ เบอร์ร่า, แกรี่ คัลด์เวลล์, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ - ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, เจมส์ มอร์ริสัน, ชาร์ลี อดัม, แบร์รี่ ร็อบสัน - เคร็ก แม็คเคล-สมิธ, สตีเว่น เนสมิธ

 ผู้ตัดสิน: สเตฟาน โยฮันเนสสัน (สวีเดน)

ปรีวิวฟุตบอลยูโร 2012

รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ.

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2554

เยอรมัน - เบลเยียม

สนาม : แอลทียู อารีน่า, ดุสเซลดอร์ฟ

 โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายไปนานแล้ว ทว่ายังเน้นทุกนัดและ เลิฟ ออกมาประกาศแล้วว่าจะขอพา "อินทรีเหล็ก" คว้าชัยชนะ 10 นัดรวดเก็บ 30 คะแนนเต็มในรอบคัดเลือก เพื่อทำลายสถิติชนะ 8 นัดรวดของวงการฟุตบอลเยอรมัน ครั้งสมัยในการคัดเลือกฟุตบอลโลก 1982

 สภาพทีมถือว่าสมบูรณ์พร้อมจะขาดแค่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ที่บาดเจ็บเข่า ส่วน เมซุต โอซิล ที่มีปัญหาบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายจนไร้ชื่อในเกมบุกไปถล่ม ตุรกี  3-1 ฟิตกลับมาแล้วและคาดว่าน่าจะได้ลงตัวจริงด้วย เช่นเดียวกับ โทนี่ โครส ฟิ้นจากไข้หวัดพร้อมลงมายืนคู่ทำเกมแดนกลางร่วมกับ โอซิล

 นอกจากนี้ เลิฟ ยังได้เรียก อิลคาย กุนโดกัน แข้ง ดอร์ทมุนด์ จากทีมชุด ยู-21 ขึ้นมาใช้งานเกมนี้ด้วย สำหรับการจัดทัพคาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนพอสมควร หันมาใช้ระบบ 4-1-4-1 แนวรับเปิดโอกาสให้ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ลงมาจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ แดนกลางปรับมาใช้ ซามี่ เคดิร่า ยืนหน้าแผงหลังคนเดียว และให้ โอซิล กับ โครส ร่วมประสานงานทำเกมรุกเต็มที่

 ฝั่งซ้ายดร็อป ลูคัส โพดอลสกี้ เป็นสำรอง และส่ง อันเดร เชอร์เล่อ ลงมาลากเลื้อยแทน ฝั่งขวายังเป็น โธมัส มุลเลอร์ เช่นเดียวกับหน้าเป้าที่ยังใช้ มาริโอ โกเมซ ยืนล่าตาข่าย

อย่างไรก็ตามชื่อของ เบเนดิกท์ เฮอเวเดส, มาร์โค รอยส์, กุนโดกัน และ คาเคา ต่างมีลุ้นสอดแทรกลงสนามเช่นกัน

ข้ามมาดูฝั่งทัพ "ปีศาแดงแห่งยุโรป" เบลเยียม ที่สถานการณ์พลิกกลับมากุมชะตาไว้ในมือเองแล้ว แต่นัดนี้บีบบังคับให้ต้องบุกมาหักปีก อินทรีเหล็ก สถานเดียว เพราะฝั่ง ตุรกี ที่มีแต้มน้อยกว่า 1 คะแนน มีคิวรอเปิดรังเชือด อาเซอร์ไบจาน อยู่

 สภาพทีม จอร์จส์ เลเค่นส์ กุนซือ เบลเยียม ยังขาด เยลเล่ ฟอสเซ่น (ข้อเท้า) และ ดาวิด ฮูแบร์ท (กล้ามเนื้อท้อง) ที่ถอนตัวไปก่อนแล้ว ขณะที่ มาร์วิน โอกุนยิมี่ ฟิตกลับมาลงสนามและยังยิงปิดท้ายได้ด้วยในเกมถล่ม คาซัคสถาน 4-1 แต่เกมนี้คงเป็นเพียงสำรองไปก่อนเหมือนเดิม

 ปัญหาหลักเลยของ เบลเยียม คือจะขาด ดาเนียล ฟาน บุยเต็น กองหลังตัวจาก บาเยิร์น มิวนิค ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบโควตา ทำให้ต้องขยับ ยาน แฟร์ทองเก้น เข้ามายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กองหลังกัปตันทีมจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และให้ นิโกล่าส์ ลอมแบร์ทส์ ลงยืนแบ็กซ้าย

 แดนกลางอาจจะปรับมาเน้นความรัดกุมส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ ลงมายืนมิดฟิลด์คู่กลางกับ ทิมมี่ ซิมงส์ และใช้  มุสซ่า เดมเบเล่,  อักเซิ่ล วิทเซิ่ล และ เอแด็น อาซาร์ คอยทำเกมรุกจากขวาไปซ้าย วาง อิกอร์ เด คาร์มาโก้  ดาวยิงสังกัด มึนเช่นกลัดบัค ยืนหน้าเป้า

 รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 เยอรมัน (4-1-4-1) : มานูเอล นอยเออร์ - เยโรม บัวเต็ง (เบเนดิกท์ เฮอเวเดส), แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ฟิลิปป์ ลาห์ม - ซามี่ เคดิร่า - โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล (อิลคาย กุนโดกัน), โทนี่ โครส, อันเดร เชอร์เล่อ - มาริโอ โกเมซ

เบลเยียม (4-2-3-1 ) : ซิมง มิโญเลต์ - โลร็องต์ ซิม็อง, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, ยาน แฟร์ทองเก้น, นิโกล่าส์ ลอมแบร์ทส์ - ทิมมี่ ซิมงส์, มารูยาน เฟลไลนี่ - มุสซ่า เดมเบเล่,  อักเซิ่ล วิทเซิ่ล, เอแด็น อาซาร์ - อิกอร์ เด คาร์มาโก้ 

 ผู้ตัดสิน : สเวน อ๊อดมาร์ โมน (นอร์เวย์)

 โปรแกรมฟุตบอล ยูโร 2012 รอบคัดเลือก
กลุ่มเอ
23.00 น. คาซัคสถาน - ออสเตรีย
00.00 น. เยอรมัน - เบลเยียม 
00.00 น. ตุรกี - อาเซอร์ไบจาน

กลุ่มบี
00.45 น. มาซิโดเนีย - สโลวาเกีย   
00.45 น. ไอร์แลนด์ - อาร์เมเนีย     
00.45 น. รัสเซีย - อันดอร์ร่า   

กลุ่มซี
01.45 น. อิตาลี - ไอร์แลนด์เหนือ
01.45 น. สโลวีเนีย - เซอร์เบีย       

กลุ่มดี
02.00 น. แอลเบเนีย - โรมาเนีย    
02.00 น. ฝรั่งเศส - บอสเนีย   

กลุ่มอี
01.00 น. ฮังการี - ฟินแลนด์    
01.00 น. สวีเดน - ฮอลแลนด์ 
01.00 น. มอลโดวา - ซาน มารีโน่  

กลุ่มเอฟ
00.00 น. โครเอเชีย - ลัตเวีย    
00.00 น. มอลตา - อิสราเอล    
00.00 น. จอร์เจีย - กรีซ    

กลุ่มจี
01.05 น. บัลแกเรีย - เวลส์   
01.05 น. สวิตเซอร์แลนด์ - มอนเตเนโกร   

กลุ่มเอช
01.15 น. นอร์เวย์ - ไซปรัส   
01.15 น. เดนมาร์ก - โปรตุเกส

กลุ่มไอ
01.45 น. ลิทัวเนีย - เช็ก    
01.45 น. สเปน - สกอตแลนด์