รูนเหมาสองจุดโทษ!ผี10ตัวบุกหลอนโอเตลุล2-0
Posted 19/10/2011 by siamsport
เวย์น รูนี่ย์ รับบทเพชรฆาตรสังหารสองจุดโทษ ช่วย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยกทัพซาตานไล่บด โอเตลุล กาลาติ แบบสุดมันส์ 2-0 เก็บสามแต้มเต็มได้ตามเป้าหมาย โดยเกมนี้ แมนฯ ยูเหลือผู้เล่น 10 คน เนมันย่า วิดิช ถูกใบแดงไล่ออกนาทีที่ 66 ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี. เมื่อคืนวันอังคารที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี
วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2554
โอเตลุล (โรมาเนีย) 0 - 2 แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
สนาม : เนชั่นแนล อารีน่า , บูคาเรสต์
โอเตลุลเจองานหนักรับการมาเยือนของแมนฯ ยูไนเต็ดหลังจากสองเกมแรกแพ้ให้กับคู่แข่งมาตลอด แต่ได้อาเดรียน ซาลาเกียนูกองหลังพ้นโทษแบนกลับมา
ส่วนผีแดงเปิดตัวไม่สวยทำได้แค่เจ๊าเรียบวุธ และนัดนี้ปรับทัพจากวันแดงเดือดเก้ารายคงไว้แต่คริส สมอลลิ่งกับปาทริซ เอวร่าเท่านั้นในตำแหน่ง 11 ตัวแรก
โดยนายทวารดาบิด เด เคอาได้พักเป็นตัวสำรองให้อันเดอร์ส ลินเดการ์ดลงเล่น ขณะที่เวย์น รูนีย์กลับมาเป็นตัวจริงเช่นเดียวกันฮาเวียร์ เอร์นานเดซ และนานี่ ส่วนริโอ เฟอร์ดินานด์ไม่ได้บินมาด้วย
แมนฯ ยูไนเต็ดเร่งทำเกมรุกตั้งแต่ต้น แต่จังหวะยังไม่ลงล็อค และเกือบเสียหายก่อนในนาทีที่ 12 เมื่อเนมานย่า วิดิชจ่ายบอลสั้นหน้าเขตโทษตัวเองหมายให้สมอลลิ่งพลาด โดนบราติสลาฟ ปูโนเซวัชฉกไปกดระยะ 20 หลา ดีที่ว่าเข้าซองลินเดการ์ด
ถัดมาอีกสามนาที ฟาบิโอ ดา ซิลวาเสียหลักล้มหน้าเขตโทษ เปิดโอกาสให้ปูโนเซวิชได้ซัลโวจากหน้าเขตโทษอีกครั้ง แต่บอลยังเข้ามือลินเดการ์ดเหมือนเดิม
ทำไปทำมากลับเป็นเจ้าบ้านที่เล่นได้ดีกว่าหลังเห็นว่าผีแดง ไร้พิษสงจึงเดินหน้าบุกเป็นการใหญ่ และนาทีที่ 27 โลอัน ฟิลิปก็ได้โอกาสกระชากบอลขึ้นมากระทุ้งระยะ 25 หลา ส่งบอลโด่งข้ามคาน
จากนั้นอีกสามนาที เร้ด เดวิลส์ก็ได้ลูกฟรีคิกระยะ 27 หลาจากจังหวะที่ไมเคิ่ล คาร์ริคโดนอิโอนุต เนียกูเหนี่ยวล้ม แต่รูนีย์ซัลโวอ้อมกำแพงไปถูกบรังโก้ กราโฮวิชพุ่งเซฟที่เสาไกลได้
ถึงตรงนี้เกมตกอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ดบ้างแล้ว และน่าจะคลำเป้าได้ในนาทีที่ 42 เมื่อนานี่หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วจ่ายจากเส้นหลังคืนให้คาร์ริคตามมาแประ ยะ 12 หลาโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
อึดใจต่อมา ทีมเยือนได้ลุ้นอีกจากการลากบอลขึ้นมากระทุ้งแถวหน้าเขตโทษของนานี่ ทว่ากราโฮวัชเซฟได้สำเร็จ
กระนั้นนาทีที่ 42 โอเตลุลหวิดได้ไชโยจากลูกเตะมุมด้านขวาที่ปูโนเซวิชได้โขกระยะหกหลาเฉี่ยว คานไปแบบเฉียดฉิว จบครึ่งแรกทั้งสองทีมจึงเสมอกันไปแบบไร้สกอร์
ครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ดพยายามกดดันเจ้าบ้านมากขึ้น และนาทีที่ 52 คอร์เนล ราปาก็โดนจดชื่อในจังหวะกระแทกใส่นานี่
แต่แล้วอีกสามนาทีให้หลัง คาร์ริคก็ทำฟาวล์ใส่ลิวิยู อันตาลจึงได้ใบเหลืองเช่นกันก่อนที่มิลาน เปเรนดิญ่าจะเสียบรูนีย์จึงโดนจดชื่อตามมา
ผ่านมาถึงนาทีที่ 62 เนียกูเข้าสอยนานี่กลิ้งจึงมีใบเหลืองติดตัว และอีกนาทีเดียวผีแดงก็ทิ้งโอกาสทองไปเมื่อนานี่ทะยานเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วตักบอลมาหน้าประตูให้รูนีย์กลับตัวยิงจากแปดหลาย้อนศรเฉี่ยวเสาแรกไปนิด เดียว
กระนั้นอีกครู่เดียวในนาทีที่ 64 ผีแดงวางบอลยาวขึ้นกราบซ้ายให้รูนีย์ควบขึ้นไปแล้วจ่ายเข้าเขตโทษข้ามฟาก หมายให้เอร์นานเดซ แต่เซร์กี้ คอสตินกัปตันโอเตลุลจงใจยกแขนตบบอลจึงเป็นลูกโทษ แต่ผู้ตัดสินแจกแค่ใบเหลืองให้กองหลังเจ้าบ้านทั้งๆที่เป็นผู้เล่นคนสุดท้าย ก่อนที่รูนีย์จะสังหารตุงตาข่ายพาแมนฯ ยูไนเต็ดนำหน้า 1-0
แต่แล้วนาทีที่ 66 ทีมเยือนก็ต้องช็อคเมื่อวิดิชทะยานเข้ายกขาสูงดักกาเบรียล กิอูร์กิอูล้มแถวริมสนามแล้วท่านเปาวิ่งมาชักใบแดงไล่ออกทันที โอเตลุลจึงลุยแหลกเดินหน้าขยี้อาคันตุกะที่เหลือสิบคนเป็นการใหญ่โดยคาร์ริ คต้องถอยลงไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟชั่วครู่
ถึงนาทีที่ 71 แมนฯ ยูไนเต็ดเปลี่ยนจอนนี่ อีแวนส์ลงไปแทนอันโตนิโอ วาเลนเซีย ขณะที่แชมป์ลีกผีดิบส่งมาริอุส เปน่าลงบู๊แทนเนียกู
ช่วงสิบห้านาทีสุดท้าย ผีแดงเปลี่ยนฟิล โจนส์ลงเล่นแทนฟาบิโออีกราย
ช่วงทดเจ็บนาที 91 ผีแดงมาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 จากการซัดลูกที่จุดโทษอีกหนึ่งเม็ดของ รูนี่ย์ คนเดิมและเป็นประตูที่สองของเจ้าตัว จบเกม ผีแดงที่เหลือผู้เล่น 10 คนบุกมาเก็บชัยเหนือ โอเตลุล เจ้าบ้าน 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ ขณะที่ โอเตลุล หมดลุ้นพ่ายสามเกมรวด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โอเตลุล กาลาติ : บรานโก้ กราโฮวัค, คอร์เนล ราปา, เซร์กิอู คอสติน, มิลาน เปเรนดิย่า, อาเดรียน ซาลาเกนู,โลอัน ฟิลิป, กาเบรียล กิเออร์กิอู, โลนัต เนกู, ลิวิอู อันตัล, โซริน ฟรุนซ่า, บราติสลาฟ พูโนเซวัค
สำรอง : คริสเตียน บราเน็ต, เนจช์ สคุบิช, โลร็องตินู ลอร์ก้า, ซิลวิอู อิลลี่, คริสเตียน ซาร์กี้, มาริอัส เปน่า, กาเบรียล วิเกียนติ
แมนฯ ยูไนเต็ด : อันเดรส ลินเดการ์ด, ปาทริช เอวร่า, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, เนมันย่า วิดิช, คริส สมอลลิ่ง, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, หลุยส์ นานี่, เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ
สำรอง : ดาบิด เด เคอา, ฟิล โจนส์, จอนนี่ อีแวนส์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, ไมเคิ่ล โอเว่น, แดนนี่ เวลเบ็ค, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บายช์ (เยอรมัน)
สรุปผล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม เอ
- นาโปลี (อิตาลี) เสมอ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 1 - 1
- แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) ชนะ บียาร์เรอัล (สเปน) 2 - 1
กลุ่ม บี
- ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) ชนะ แทร็บซอนสปอร์ (ตุรกี) 3 - 0
- ลีลล์ (ฝรั่งเศส) แพ้ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0 - 1
กลุ่ม ซี
- โอเตลุล กาลาติ (โรมาเนีย) แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 0 - 2
- บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) แพ้ เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 0 - 2
กลุ่ม ดี
- เรอัล มาดริด (สเปน) ชนะ โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 4 - 0
- ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) แพ้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 0 - 2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ซันแฉ!เวนเกอร์รับเก้าอี้ไม่มั่นคงอีกต่อไป
"เดอะ ซัน" แท็บลอยด์จอมสาระแน ตีข่าวว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทัพ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ยอมรับว่า ตำแหน่งของเขาไม่มั่นคงอีกต่อไป หลังจากทีมมีผลงานน่าผิดหวัง และพ่ายคู่ปรับอย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบยับเยิน แต่ขอบคุณ สแตน โครเอ็นเก้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่ยังอุตส่าห์เชื่อมั่นในตัวเขารัฐบาลผู้ดีพร้อมเผยข้อมูลโศกนาฏกรรมฮิลล์สโบโร่
เรื่องใหญ่เรื่องโตถึงขนาดมีคนตายเฉียดร้อย ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ความจริงต้องประจักษ์ไม่ใช่หมกเม็ดกลบเกลื่อน ในที่สุดรัฐบาลเมืองผู้ดีประกาศชัดพร้อมเปิดเผยข้อมูลทุกรายละเอียดกรณีโศก นาฏกรรมฮิลล์สโบโร่ หลังญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้องมานานนม เหลือแค่รอสภาผู้แทนฯ ไฟเขียวเท่านั้นเวนเกอร์หวังอาร์วีพีต่อสัญญาให้เรียบร้อย
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทัพ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ยอมรับว่า อยากเห็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงกัปตันทีม ขยายสัญญาออกไปในเร็วๆ นี้ เพื่อต่อยอดจากความยึดมั่นกับทีมที่นักเตะประกาศไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมเผย ความยึดมั่นในมุมมองของเขาหมายถึงการทุ่มเทให้ทีม 100 เปอร์เซ็นต์ ไปจนกระทั่งวันสุดท้ายของสัญญา
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์