ขุนพลแข้ง "ช้างศึก" ไทย เจองานหินในภารกิจทวงคืนเหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ช่วงเดือนพฤศจิกายน เมื่อจับสลากเข้าไปร่วมกลุ่มสุดหินเจอทั้ง เจ้าภาพ, "แชมป์เก่า" มาเลเซีย, สิงคโปร์ 
 
  
นับถอยหลังมหกรรมกีฬาแห่งชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซีเกมส์ (ครั้งที่ 26) ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2554 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ 19 ตุลาคม ฝ่ายจัดการแข่งขันได้จับสลากแบ่งสายฟุตบอลชาย ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปรากฏว่า ไทย ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ "แชมป์เก่า" มาเลเซีย, "เจ้าภาพ" อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และ กัมพูชา ขณะที่ กลุ่มบี ประกอบไปด้วย เวียดนาม, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, บรูไน, ติมอร์ เลสเต, เมียนมาร์ และ ฟิลิปปินส์

ซึ่งทีมข่าว MGR Sport ได้สัมภาษณ์ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถึงทรรศนะในการจับสลากข้างต้น "ทางสมาคมฯ หนักใจพอสมควรกับผลการจับสลากที่ออกมา ด้วยการที่อยู่ในสายแข็งทำให้เราต้องเตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนลงสนามจริงช่วงต้นเดือนหน้า ซึ่งผมเชื่อว่าทางผู้จัดการทีม (เกษม จริยวัฒนวงศ์) และสตาฟฟ์โค้ช (นำมาโดย โค้ชเหม่ง ประพล พงษ์พานิช) คงทำการบ้านร่วมกันมาเป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็อยากให้นักเตะไทยลงสนามสู้เต็มที่ ส่วนเรื่องเงินอัดฉีดแน่นอนว่าสมาคมฯ มีให้อยู่แล้ว แต่รอให้คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ แถลงอย่างเป็นทางการต่อไป"

นอกจากนี้ ทีมข่าว MGR Sport สอบถามไปยัง "บิ๊กกาเซ็ม" เกษม จริยวัฒนวงศ์ ที่ปักหลักอยู่ที่กรุงฮานอย เพื่อดูฟอร์มการอุ่นเครื่องของทั้ง เวียดนาม, เมียนมาร์ และ มาเลเซีย "แน่นอนผลการจับสลากที่ออกมาเราอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธก็ว่าได้ แต่การที่เรามีเป้าหมายไปถึงตำแหน่งแชมป์ ต้องเหรียญทองสถานเดียวเท่านั้น ทำให้เราเลือกคู่แข่งไม่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อเจอใครก็ต้องเอาชนะให้ได้ทั้งหมด แม้ทุกฝ่ายค่อนข้างกดดัน แต่ผมคงต้องกำชับให้เด็กทำเต็มที่ พยายามเก็บสามแต้มให้ได้ทุกนัดที่ลงสนาม เพื่อเป็นอันดับ 1-2 ของกลุ่มในการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป ซึ่งหากมองในแง่ดีถือว่าเราเจองานหนักก่อนแล้วค่อยสบายในภายหลังก็แล้วกัน"