ไม่มีใครที่จะรอดจากไดร์เป่าผม เดวิด กิลล์ ซีอีโอ แมนฯ ยูไนเต็ด เผย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ของทีม แจก "แฮร์ไดร์เออร์" อย่างทั่วถึงไปยังผู้บริหารของทีมด้วย แต่แย้ม ตนก็ตอบโต้ไปบ้างเช่นกัน พร้อมยก "เซอร์เฟอร์กี้" มีหัวใจของชายแท้ เพราะไม่เคยโกรธเวลาตนตวาดกลับ ชี้กุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาแทนนายใหญ่ชาวสกอตต์ ต้องเป็นคนที่จะพาทีมคว้าแชมป์ได้

 เดวิด กิลล์ ประธานบริหารสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ตนก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องขุ่นเคือง และประสบพบเจอกับปฏิบัติการ "แฮร์ไดร์เออร์" (ไดร์เป่าผม) อันเลื่องชื่อของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือของทีมเช่นเดียวกัน แต่เสริมว่า แม้ตนจะเคยตวาดกลับไปที่ "เซอร์เฟอร์กี้" หลายครั้ง จอมคนเลือดวิสกี้ไม่เคยโกรธเขาเลยแม้แต่นิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนชื่นชมเป็นอย่างมาก

เป็นที่รู้กันดีว่า นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะโกรธมาก หากเด็กในสังกัดคนไหนโชว์ฟอร์มไม่เข้าตา และพร้อมระเบิดความโกรธแบบส่งตรงไปที่แข้งโชคร้ายคนดังกล่าวในห้องแต่งตัว อยู่เสมอ โดยเฉพาะครั้งที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดครั้งหนึ่ง คือการที่เจ้าตัวเคยเตะรองเท้าสตั๊ดไปถูกบริเวณเหนือคิ้วของ เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์ลูกรักในปี 2003 จนทั้งคู่ต้องแยกทางกันในที่สุด ซึ่ง กิลล์ บอกว่า เฟอร์กูสัน ไม่เพียงแต่เก็บความฉุนเฉียวไว้ให้นักเตะเท่านั้น แต่กุนซือวัย 69 ปี ก็เคยระเบิดอารมณ์ในห้องประชุมคณะกรรมการหลายต่อหลายครั้งเช่นกัน

 ซีอีโอคนเก่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์กับ "เดอะ การ์เดี้ยน" สื่อเมืองผู้ดีว่า "ผมคงไม่บอกว่า ผมเป็นคนที่ได้รับการยกเว้นจากการเจอ "แฮร์ไดร์เออร์" หรอกนะ แต่ผมคงต้องบอกว่า ผมเองก็ใช้ "แฮร์ไดร์เออร์" ใส่เขา มากเท่าที่ผมได้รับมาเหมือนกัน สิ่งสำคัญที่ผมสังเกตได้จาก อเล็กซ์ ก็คือ แม้ว่ามันน่าจะมีช่วงเวลา "แฮร์ไดร์เออร์" หลายครั้ง ที่ผมทั้งเป็นฝ่ายได้รับ และเป็นฝ่ายตะโกนใส่เขา ในตลอด 8 ปีที่ผมเป็นประธานบริหารสโมสร แต่เขาก็ไม่เคยโกรธผมถึงขั้นไม่พูดกันเลย"

"เขาไม่เคยโกรธเลย และเราก็เดินไปข้างหน้าด้วยกันต่อไป ซึ่งนี่ล่ะที่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ อเล็กซ์ เขาสามารถมีข้อคิดเห็นได้ แล้วอาจเสียการควบคุมอารมณ์จนระเบิดโทสะออกมาได้ แต่มันก็จะถูกลืมไปแบบนั้นแหละ ซึ่งผมคิดว่า นี่เป็นสิ่งที่ชี้วัดของการเป็นยอดบุรุษอย่างแท้จริง" กิลล์ กล่าว

ทั้งนี้ กิลล์ ยอมรับว่า หากถึงเวลาที่นายใหญ่ชาวสกอตต์ต้องเกษียณไปนั้น คงเป็นเรื่องยากสำหรับกุนซือคนใหม่ผู้เข้ามาแทน ที่จะทำได้เช่นเดียวกับ เฟอร์กูสัน แต่ยืนกรานว่า ผู้ที่จะมีโอกาสกุมบังเหียนยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้น จะเป็นคนที่มีความครบครัน และถูกเลือกมาอย่างดี เพื่อพาสโมสรคว้าแชมป์ได้

 "สิ่งสำคัญคือผู้จัดการทีมคนใหม่ของเรา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ หรือเป็นใครก็ตาม แต่เขาจะได้เข้ามาคุมทีมที่ยอดเยี่ยม และ อเล็กซ์ เองคงอยากที่จะทำให้มั่นใจว่า คนๆ นั้นจะได้รับสืบทอดขุมกำลังที่สุดยอด นั่นคือเป้าหมายของเรา เพื่อทำให้มั่นใจว่า เมื่อถึงเวลาที่กุนซือคนใหม่เข้ามาคุมทีม เขาจะมีขุมกำลังที่เยี่ยมยอด ทั้งในด้านอายุการใช้งาน และด้านโครงร่างของทีม"

"มันอาจเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะพูดอะไรอย่างอื่นนอกจากนี้ แต่เราคือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ที่มีคุณค่า จากประวัติศาสตร์ในช่วงยุค 1950 และช่วงยุค 1960 รวมถึงช่วง 25 ปีหลังสุด ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ และเพื่อสานต่อกับเรื่องนั้น ผู้จัดการทีมคนใหม่จะต้องเข้าใจถึงความสำคัญเหล่านั้น, วิสัยทัศน์สำหรับสโมสร, ต้องเชื่อในสิ่งนั้น รวมถึงสนใจ และเห็นด้วยกับมัน ซึ่งแน่นอนว่า การหาใครมาแทนที่เขา (เฟอร์กูสัน) เป็นเรื่องที่ลำบากมาก" หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของ "ปีศาจแดง" ระบุ