อดัมซัดยื้อแต้ม!หงส์ไล่ยิงเจ๊าเรือ10ตัว1-1ขึ้นที่6
Posted 28/11/2011 by siamsport
ชาร์ลี อดัม สวมบทอัศวินซัดประตูช่วย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเยือนสุดมันส์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้แมนฯ ซิตี้ยังไร้พ่าย ขณะที่เร้ด แมชีนขยับแซงอาร์เซน่อลขึ้นมาอยู่อันดับ 6 โดยมีแต้มเท่ากันแต่ประตูได้เสียเหนือกว่าทีมจากลอนดอน เกมนี้เรือใบเหลือผู้เล่น 10 คนโดย มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่เปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองถูกสองใบเหลืองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย. ที่ผ่าน
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2554
ลิเวอร์พูล 1 - 1 แมนฯ ซิตี้
สนาม : แอนฟิลด์
ศึกซูเปอร์ซันเดย์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับ จ่าฝูง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ โดยเจ้าบ้านใช้ ชาร์ลี อดัม,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และ เดิร์ค เค้าท์ เป็นสามประสานเกมรุก โดยใช้ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นหอกเป้า ส่วนทีมเยือน จัดสามประสานรุกนำโดย เจมส์ มิลเนอร์,ดาบิด ซิลบา และ ซามีร์ นาสรี่ หน้าเป้าใช้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน เป็นหน้าเป้าคนเดียวเช่นเดียวกัน
<% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%>
เริ่มเกมมา5นาทีเป็นฝ่ายทีมเยือน ได้มีโอกาสกดดันเจ้าบ้านก่อน จากจังหวะเตะมุมของ ซามีร์ นาสรี่ บอลชุลมุนอยู่หน้าประตู ก่อนจะมากระเด้งเข้าทางปืนของ ยาย่า ตูเร่ กดด้วยเท้าซ้ายเต็มๆแต่บอลลอยข้ามคานออกไป
นาทีที่13 เรือใบสีฟ้า สังเวยใบเหลืองไปก่อน จากจังหวะที่ แว็งซ็องต์ ก็อมปานี เข้าเสียบหนักใส่ หลุยส์ ซัวเรซ อย่างหนัก ผู้ตัดสินชูใบเหลืองให้ทันที
3นาทีต่อมา แฟนเจ้าถิ่นเสียววาบ เมื่อ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ส่งคืนประตูไม่ดี เกือบจะโดน อเกวโร่ กุน ฉกไปยิง ยังดีที่ โฆเซ่ เรน่า ออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่31 แฟนๆเรือใบสีฟ้าได้เฮกันลั่นสนาม จากจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของสนาม ก่อนจะเปิดมาที่หน้าประตู แว็งซ็องต์ ก็อมปานี วิ่งโฉบมาโหม่งที่เสาแรก บอลโดนหัวไหล่ เปลี่ยนทางพุ่งเข้าหน้าต่างเสาสอง ไปแบบ โฆเซ่ เรน่า หมดสิทธิ์รับ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0
นาทีต่อมา เป็น แกเร็ธ แบร์รี่ ที่รับใบเหลืองไปอีกคน จากจังหวะที่ แบร์รี่ ไปทำฟาวส์ ลูคัส เลว่า สังเวยใบเหลืองใบที่สองให้ทีมเยือน
อย่างไรก็ตามนาทีที่33 เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ก็ได้เฮคืนบ้าง จากจังหวะที่ เดิร์ค เค้าท์ ไหลบอลให้ ชาร์ลี อดัม สับไกยิงระยะ40หลา บอลพุ่งไปที่หน้าประตู โจลีออน เลสค็อตต์ สกัดบอลไม่ดี บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 1-1
ช่วงท้ายครึ่งแรก แมนฯซิตี้ มีโอกาสลุ้นได้ประตู เมื่อ อเกวโร่ กุน เล่นกับ ดาบิด ซิลบา ก่อนหัวหอกอาร์เจนไตน์ ได้โอกาสสับไกด้วยเท้าซ้าย แต่ โฆเซ่ เรน่า ยังเซฟไว้ได้ หมดครึ่งแรกจึงเสมอกันไปก่อน 1-1
มาระเบิดความมันส์กันต่อในครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 45 เรือใบได้จังหวะทักทายก่อนจากการซัดหน้ากรอบเขตโทษจาก นาสรี่ แต่บอลหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 48 หงส์แดงมีลุ้นทำประตูจากการซัดไกลจังหวะสองของ อดัม บอลเลยไปเข้าทาง ซัวเรส ที่วิ่งตามไปเก็บบอลก่อนจะเปิดบอลติดกองหลัง เรือใบออกไป
นาทีที่ 52 เป็นหงส์แดงที่เจียนจวนได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง กระชากบอลก่อนเปิดทางด้านข้างเลยไปเข้าหัว เดิร์ค เค้าท์ ขึ้นโขกหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย
เกมล่วงมาถึงนาทีที่ 59 เป็นเรือใบที่โหมเข้าใส่อย่างหนัก กาแอล กลิชี่ ได้จังหวะเปิดบอลด้านข้างเข้าไปในกรอบเขตโทษหงส์แดงแต่ยังดีที่ โฆเซ่ เอ็นริเก้ สกัดออกไปได้ก่อนจะเลยไปเข้าทางกุนที่ยืนรออยู่
นาทีที่ 62 กุน หลุดกับดักล้ำหน้าของลิเวอร์พูลไปได้และเป็น โฆเซ่ เรน่า นายด่านจอมหนึบของเจ้าบ้านที่ต้องออกแรงวิ่งมาตัดบอลทิ้งไปได้
นาทีที่ 65 แมนฯ ซิตี้ ที่ต้องการเก็บสามแต้มให้ได้ตัดสินใจเสริมแผงหน้ามาอีกคนโดยเปลี่ยน มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาแทน ซามีร์ นาสรี่
นาทีที่ 66 สาวกหงส์แดงเกือบได้เฮกันลั่นเมื่อ ดาวนิ่ง ได้จังหวะวอลเล่ด้วยเท้าซ้ายจากการเล่นสั้นของลูกแตะมุมบอลพุ่งกำลังมุดต้านคานแต่เป็น โจ ฮาร์ท ที่ลอยตัวปัดออกไปได้อย่างสวยงาม
นาทีที่ 73 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากการเปิดมุมของ อดัม เลยไปเสาไกลเข้าทาง ซัวเรส จับบอลก่อนพลิกหลอกแผงหลังเรือใบหนึ่งจังหวะและผ่านบอลเข้ามากลางประตู เลสค็อตต์ ปราการเหล็กทีมเยือนเข้าสกัดบอลไปถูก เดิร์ค เค้าท์ ออกหลังไป
นาทีที่ 76 บาโลเตลลี่ ดาวยิงตัวสำรองถูกกรรมการให้ใบเหลืองจากการตัดเกมทำฟาล์ว เกล็น จอห์นสัน กลางสนาม
นาทีที่ 77 หงส์แดงหวิดได้ประตูอีกคราเมื่อ ดาวนิ่ง ได้โอกาสวอลเล่จากลูกโยนยาวบอลผ่านหน้า เดิร์ค เค้าท์ ที่พยายามยื่นเท้าเข้าจิ้มบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ล่วงมาถึง 10 นาทีสุดท้ายแมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจส่ง เอดิน เซโก้ ลงมาแทน อเกวโร่ กุน หวังใช้ความสดลงมาบดประตูเจ้าบ้าน
นาทีที่ 82 แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ มาริโอ บาโลเตลลี่ ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาในครึ่งหลังถูกกรรมการให้ใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงจากจังหวะที่ตั้งใจเข้าใช้ท่อนแขนฟาดใส่ มาร์ติน สเคอร์เทล และดูเหมือนช่วงเดินออกจากสนามจะถูก มันโช่ จวกไม่เลี้ยง
นาทีที่ 84 เป็นฝั่งเจ้าบ้านไม่ปล่อยโอกาสที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นตัดสินใจเปลี่ยน แอนดี้ แคร์โรล ศูนย์หน้าร่างโย่งลงมาแทน เดิร์ค เค้าท์
นาทีที่ 88 ซัวเรส ได้โอกาศซัดในเขตโทษจังๆ จากการทำชิ่งสองจังหวะกับ ลูคัส เลวา บอลพุ่งเข้ากรอบแต่เป็น โจ ฮาร์ท นายด่านดีกรีทีมชาติอังกฤษโชว์เซฟไว้ได้เช่นเคย
นาทีที่ 89 ทีมเยือนหวิดได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับ เซโก้ หลุดเดียวไปทางด้านข้างก่อนผ่านบอลให้ ซิลบา ที่ยืนอยู่คนเดียวโล่งแต่ไม่มีจังหวะยิงเพราะ เรน่าออกมาขวางทางปืน ก่อนจะแปบอลไปติดแผงหลังเจ้าบ้านที่ลงมาปิดหน้าปากประตูจนเต็ม
นาทีที่ 90 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายโดยให้ โคโล่ ตูเร่ ลงมาแทน ดาบิด ซิลบา
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 92 โอกาสทองของหงส์แดงที่ดีที่สุดในเกมมาถึงเมื่อ แคร์โรล ได้จังหวะขึ้นโขกโล่งๆ บริเวณจุดโทษบอลกำลังเสียบเสาไกลแต่เป็น โจ ฮาร์ท ที่โชว์สุดยอดซุปเปอร์เซฟลอยตัวปัดออกไปได้ และจังไม่จบเพียงเท่านั้นบอลกระดอนไปเข้าทาง ซัวเรส ที่เข้าซ้ำเต็มข้อแต่ยังไม่ผ่านนายด่านเรือใบที่ใช้ขาสกัดออกไปได้อีกครั้ง
จบเกมลิเวอร์พูล ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าในช่วง 15 นาทีสุดท้ายเปิดบ้านไล่ตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนไปอย่างสุดมันส์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้แมนฯ ซิตี้ยังไร้พ่าย ขณะที่เร้ด แมชีนขยับแซงอาร์เซน่อลขึ้นมาอยู่อันดับหกโดยมีแต้มเท่ากันแต่ประตูได้เสียเหนือกว่าทีมจากลอนดอน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล(4-2-3-1):โฆเซ่ เรน่า,เกล็น จอห์นสัน,มาร์ติน สเคอร์เทล,ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์,โฆเซ่ เอ็นริเก้,ลูคัส เลวา,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,ชาร์ลี อดัม,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เดิร์ค เค้าท์,หลุยส์ ซัวเรซ
สำรอง:อเล็กซานเดอร์ โดนี่,แอนดี้ แคร์โรล, มักซี่ ร็อดริเกซ,เซบาสเตียน โกอาเตส,เจย์ สเปียร์ริ่ง,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน เคลลี่
แมนฯซิตี้(4-2-3-1):โจ ฮาร์ท,ไมกาห์ ริชาร์ดส,แว็งซ็องต์ ก็อมปานี,โจลีออน เลสค็อตต์,กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่,แกเร็ธ แบร์รี่,เจมส์ มิลเนอร์,ดาบิด ซิลบา,ซามีร์ นาสรี่,อเกวโร่ กุน
สำรอง:คอสเตล พานทิลิมอน,ปาโบล ซาบาเลต้า,เอดิน เซโก้,อดัม จอห์นสัน, โคโล่ ตูเร่,ไนเจล เด ยองก์,มาริโอ บาโลเตลลี่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
คาร่ารับได้สำรองหงส์-ชูน้องๆเป็นอนาคตทีม
เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังลูกหม้อของ ลิเวอร์พูล ยืนยันไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งนั้นกับการต้องนั่งสำรองทั้งที่ฟิตพร้อมลงเล่นในเกมกับ เชลซี นัดก่อนนี้ ยอมรับตัวเองไม่ใช่อนาคตของทีม เพราะอายุเยอะแล้ว แต่ยังเชื่อว่าสามารถเป็นส่วนหนี่งในปัจจุบันได้อีกหลายปีหงส์รับเรือ8นัดไร้พ่าย!ส่งซัวเรสวัดคมกุน
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง หลุยส์ ซัวเรส ลงนำทัพแผงหน้าล่าตาข่ายเกมเปิดถิ่นรับคู่ต่อกรสุดหิน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง ที่เตรียมจัดทัพใหญ่วัดคมเกือกโดย เซร์คิโอ อเกวโร่ จะรับบทเพชรฆาตรนำขุดสกอร์ เมื่อย้อนดูสถิติที่เรือบุกรังหงส์ 8 เกมหลังเป็นเจ้าบ้านที่ซิวชัยได้ถึง 6 เกม แถม 2 เกมที่เหลือจบที่ผลเสมออีกด้วยประโคม!มิลานปิดบัญชีเตฟจ่อเซ็นปีใหม่
แหล่งข่าวของ"ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน เผยบรรลุข้อตกลงคว้าตัว คาร์ลอส เตเบซ ศูนย์หน้า"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ซิตี้ มาร่วมทีมช่วงเดือนมกราคมนี้ ด้วยค่าตัว 25-30 ล้านปอนด์ (ราว 1,200-1,400 ล้านบาท)ดัลกลิชชี้ไม่อิจฉาเรือใบมีงบช็อปมโหฬาร
เคนนี่ ดัลกลิช นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ยืนยัน ไม่เคยนึกอิจฉาตาร้อนที่ แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งในวันอาทิตย์นี้ มีงบซื้อนักเตะได้แทบไร้ขีดจำกัด เพราะทีมไหนๆ ก็ย่อมอยากจะมีสถานะด้านการเงินที่ดีอย่าง "เรือใบสีฟ้า" อยู่แล้ว
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์