ศาลอุทธรณ์อังกฤษ มีคำพิพากษาให้ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะคดีที่ถูก โปรแอคทีฟ ฟ้องเรียกเงินจำนวน 4.3 ล้านปอนด์ เนื่องจากพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอ ขณะที่ดาวเตะวัย 26 ปี ยันรู้สึกงงมากที่ถูกคู่กรณีฟ้อง เพราะตนเองและภรรยายินดีที่จะจ่ายเงินส่วนแบ่งให้กับผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับ อยู่เสมอ

 ศาลอุทธรณ์ของอังกฤษ มีคำตัดสินให้ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายชนะคดีที่ถูก โปรแอคทีฟ บริษัทเอเยนต์ซึ่งเคยดูแลผลประโยชน์ให้กับเจ้าตัว รวมถึง คอลลีน รูนี่ย์ ภรรยา ฟ้องร้องเรียกเงินค่าส่วนแบ่งทางการตลาดจำนวน 4.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 215 ล้านบาท) เนื่องจากมีคำวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

  ขณะ ที่ดาวเตะวัย 26 ปี กล่าวหลังจากได้รับทราบคำพิพากษาว่า "ผมดีใจมาก ผมรู้สึกงงมากเมื่อ โปรแอคทีฟ เรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าว คอลีน และผมยินดีที่จะจ่ายเงินส่วนแบ่งให้กับผู้คนที่มีสิทธิ์ได้รับสิ่งนั้นเสมอ แต่ โปรแอคทีฟ กลับมาเรียกร้องเอาเงินหลังจากที่เราได้ยุติความร่วมมือระหว่างกันไปแล้ว ซึ่งมันตลกมาก ผมไม่เคยเป็นฝ่ายที่ต้องการขึ้นโรงขึ้นศาลก่อน แต่คุณจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิ์ในชีวิตของคุณ และนั่นคือสิ่งที่ผมทำอยู่เสมอ"

 ด้าน พอล ฮิวจ์ ทนายความส่วนตัวของกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยืนยันว่า ฝ่าย โปรแอคทีฟ จะได้รับเงินจากลูกความของตนไปเพียง 5,000 ปอนด์ (ประมาณ 250,000 บาท) ตามคำสั่งของผู้พิพากษา โดยกล่าวว่า "พวกเขา (โปรแอคทีฟ) ไม่ได้รับเงิน 4.3 ล้านปอนด์ ตามที่เรียกร้อง แต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จทางกฎหมายอยู่ประเด็นหนึ่ง"

ทั้ง นี้ ศูนย์หน้า "ปีศาจแดง" เคยชนะคดีดังกล่าวในศาลชั้นต้นมาแล้วเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่คู่กรณีจะยื่นเรื่องอุทธรณ์ จนกระทั่งเรื่องดังกล่าวเพิ่งจะมาได้ข้อยุติในที่สุด