"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี แรงท้ายเกม บุกยิงถล่ม "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล พังยับคาถิ่น 3-0 ดิดิเยร์ ดร็อกบา,ซาโลมง กาลู และ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ พาเหรดช่วยกันยิง เก็บสามคะแนนเข้ากระเป๋าในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2554

นิวคาสเซิ่ล  0-3  เชลซี

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค

        ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล เปิดสนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ "สิงห์บลู" เชลซี โดยเกมนี้เจ้าถิ่นใช้บริการ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา และ เดมบา บา เป็นตัวรุก ขณะที่ทีมเยือน ส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์,ฮวน มาต้า และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นสามประสานล่าตาขาย

เริ่มเกมมาเพียง3นาที เป็นฝ่าย เชลซี ที่โดนใบเหลืองไปก่อน จากจังหวะที่ ดาวิด ลุยซ์ ไปตัดฟาวส์นอกกรอบเขตโทษ ขณะที่ เดมบา บา กำลังจะหลุดเดี่ยว เข้าไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินยังปราณีให้เพียงใบเหลืองตักเตือนกองหลังหัวฟูไป ท่ามกลางเสียงโห่ของบรรดาทูนอาร์มี่

 แต่แล้วผ่านมาถึงในนาทีที่13 แฟนๆสาลิกาดง ต้องเงียบกริบทั้งสนาม เมื่อผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ชี้ลูกจุดโทษให้ เชลซี จากจังหวะที่มองว่า โยอัน กาบาย ไปทำฟาวส์ใส่ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก่อน แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะรับหน้าที่สังหาร แต่กองกลางสิงโตคำราม ยิงไปติดเซฟ ทิม ครูล เต็มๆ เชลซี ชวดโอกาสขึ้นนำ

 นาทีที่21 เชลซี มีโอกาสได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะแทงทะลุช่องของ ฮวน มาต้า มาให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดเข้ามายิงด้วยเท้าซ้าย แต่ยิงไม่ดีนัก จึงยังไม่ผ่านมือ ทิม ครูล

อย่างไรก็ตาม3นาทีต่อมา เจ้าถิ่นมีลุ้นได้ประตูบ้าง เมื่อ ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส เปิดบอลมาที่กลางประตูให้ เดมบา บา วิ่งโฉบมายิง แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังบินเซฟป้องกันประตูให้สิงห์บลูอย่างหวุดหวิด

นาทีที่27 เจ้าถิ่นต้องทำการเปลี่ยนตัวเป็นครั้งแรก เมื่อ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนให้ เจมส์ เพิร์ช ลงมาเล่นแทน

  นาทีที่35 นิวคาสเซิ่ล พลาดได้ประตูเหลื่อเชื่อ เมื่อ แดนนี่ กัทธรี เปิดมาที่หน้าประตูให้ เดมบา บา ขึ้นโขกเต็มๆแต่บอลไปชนเสา กระเด้งออกมา จอห์น เทอร์รี่ สกัดบอลไปชน ดาวิด ลุยซ์ กระเด้งหวิดเข้าประตูตัวเองอย่างน่าหวาดเสียว

  แต่แล้วผ่านมาถึงนาทีที่38 เชลซี ก็ขึ้นนำจนได้ เมื่อได้ลูกทุ่มทางฝั่งซ้าย ฮวน มาต้า วิ่งสอดขึ้นมารับบอล ก่อนตวัดด้วยเท้าซ้ายไปที่หน้าประตูให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กระโดดโหม่งเต็มหัว ผ่านมือ ทิม ครูล ตุงตาข่าย เชลซี นำ 1-0

จากนั้น เชลซี ยิ่งเล่นยิ่งคึก มีโอกาสได้ประตูที่สอง จากการจ่ายบอลของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แต่ ทิม ครูล ยังซูเปอร์เซฟป้องกันประตูให้ นิวคาสเซิ่ล ได้อีก หมดครึ่งแรก เชลซี จึงยังนำอยู่ 1-0

เริ่มครึ่งหลังมา เป็น นิวคาสเซิ่ล ขยับแก้เกมก่อน ด้วยการเปลี่ยนตัวอีกคน ส่ง โชล่า อเมโอบี้ ลงมาแทน ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา

 นาทีที่53 เชลซี พลาดโอกาสลึ้นประตูหน้าตาเฉย เมื่อ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ได้โอกาสยิงโล่งๆแต่กลับยิงออกหลังอย่างไม่น่าเชื่อ

 ก่อนนาทีต่อมา เชลซี เกือบเสียประตูและได้ประตูในคราเดียวกัน โดยจังหวะแรกเกือบเสียประตู จากจังหวะบุกขึ้นมาของ นิวคาสเซิ่ล ดิดิเยร์ ดร็อกบา  ลงไปช่วยแนวรับ แต่โหม่งเหลี่ยมไม่ดี บอลเปลี่ยนทางไปชนคานเต็มๆ ก่อน เชลซี จะสวนเร็วขึ้นมา และเป็น รามิเรส ที่หลุดไปดวลเดี่ยวหน้าประตู แต่ดันยิงไป ติด ทิม ครูล บอลแฉลบเปลี่ยนทางหลุดกรอบไปอย่าง เส้นยาแดงผ่าแปด

 นาทีที่60 เชลซี ทำการเปลี่ยนตัวบ้าง โดยส่ง ราอูล เมยเรเลส ลงมาแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด

 10นาทีต่อมา นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยนตัวเป็นตัวสุดท้ายด้วยการส่ง แซมมี่ อเมโอบี้ ลงมาแทน ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส แล้วก็เกือบกลายเป็นซูเปอร์ซับ เมื่อ แซมมี่ อเมโอบี้ มีโอกาสได้เก็บตกลูกยิงหน้าประตู จากการสกัดบอลไม่ดีของ ปีเตอร์ เช็ก แต่ยังไม่ผ่าน จอห์น เทอร์รี่ ที่ยืนเฝ้าเส้นอยู่พอดี

 นาทีที่74 เชลซี เปลี่ยนตัวอีกคนบ้าง ด้วยการส่ง ซาโลมง กาลู ลงแทน ฮวน มาต้า ก่อน5นาทีต่อมา เปลี่ยน เฟร์นันโด ตอร์เรส ลงแทน ดิดิเยร์ ดร็อกบา ผู้ทำประตูขึ้นนำออก

ก่อนหมดเวลา10นาที นิวคาสเซิ่ล ไร้โชคอย่างยิ่ง เมื่อ โชล่า อเมโอบี้ ได้โอกาสซัดบอลเต็มข้อ บอลลอยผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ไปแล้ว แต่บอลไปชนคานเต็มเหนี่ยว พลาดโอกาสตีเสมอเหลือเชื่อ

ช่วงท้ายเกม เชลซี มาบวกประตูที่สองเพิ่มจนได้ เมื่อ เฟร์นันโด ตอร์เรส ได้บอลทะลุเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนไหลคืนกลับมา ซาโลมง กาลู วิง่มาแปจ่อๆ สุดปัญญาที่ ทิม ครูล จะเซฟไว้ได้ เชลซีนำ 2-0

 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เชลซี ก็ได้ประตูฝังจนได้จาก ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ซัดเข้าไปเต็มๆ หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี จึงบุกมาเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ถึงถิ่น 3-0 เก็บสามคะแนนเข้ากระเป๋าอย่างงดงาม

 11นักเตะของทั้งสองทีม

นิวคาสเซิ่ล(4-4-1-1): ทิม ครูล,แดนนี่ ซิมพ์สัน,สตีเว่น เทย์เลอร์,ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่,ไรอัน เทย์เลอร์,กาเบรียล โอแบร์กต็อง,โยอัน กาบาย,แดนนี่ กัทธรี,ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส,ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา,เดมบา บา

สำรอง: สตีฟ ฮาร์เปอร์,ดาวิเด้ ซานตอน,เจมส์ เพิร์ช,แดน กอสลิ่ง,เลออน เบสต์,โชล่า อเมโอบี้,แซมมี่ อเมโอบี้

เชลซี(4-3-3): ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล,รามิเรส,ออริออล โรเมอู,แฟร้งค์ แลมพาร์ด,ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์,ฮวน มาต้า,ดิดิเยร์ ดร็อกบา

สำรอง:รอสส์ เทิร์นบูลล์,โชเซ่ โบซิงวา,ไรอัน เบอร์ทรานด์,ราอูล เมยเรเลส,ฟลอรองต์ มาลูด้า,ซาโลมง กาลู,เฟร์นันโด ตอร์เรส