ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » "เสก"หายหน้าหนีคอนเสิร์ตที่ตรัง

"เสก"หายหน้าหนีคอนเสิร์ตที่ตรัง

Posted 14/12/2011 by siamdara

    ผู้จัดคอนเสิร์ตที่ตรังฉุน ''เสก โลโซ'' หนีหน้า ไม่ยอมมาขึ้นคอนเสิร์ต ทั้งที่รับปากดิบดี เผยเสียหายนับล้าน แฟนเพลงหวิดจลาจลเพราะไม่พอใจหาว่าทีมงานหลอกลวง ด้านแม่ของ ''ป่าน-ปรางค์ฉัตร'' โวยร็อกเกอร์หนุ่มทำลูกสาวเสียชื่อเสียง บอกรูปคู่เป็นภาพที่นักร้องหนุ่มมาขอถ่ายเอง อย่าเบี่ยงเบนประเด็นที่ทะเลาะกับเมีย โอดตั้งแต่มีเรื่องมีแต่ความทุกข์ ส่วนอดีตภรรยา ''กานต์-วิภากร'' เผยทางแกรมมี่เปลี่ยนใจไม่เข้าไปหา ''เสก'' ที่บ้าน ออกใบสั่งให้เจ้าตัวมาเคลียร์เรื่องที่บริษัทด้วยตัวเอง


    จากกรณีข่าวสุดอื้อฉาวในวงการเพลงในช่วงนี้ กับนักร้องดัง เสกสรร ศุขพิมาย หรือ ''เสก โลโซ'' ได้ถูก นางวิภากร ศุขพิมาย หรือ ''กานต์'' อดีตภรรยาโพสต์ข้อความลงใน ''เฟซบุ๊ก'' แฉปัญหาในครอบครัว อ้างว่า ''เสก โลโซ'' มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการ ทั้งพฤติกรรมรุนแรง ข้องเกี่ยวกับสิ่งไม่เหมาะสม รวมทั้งโพสต์ภาพของนักร้องดังกำลังเสพสารบางอย่าง จนกลายเป็นที่ฮือฮาและช็อกไปทั้งวงการ
    

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปยังอดีตภรรยาของ ''เสก'' เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ทางต้นสังกัดได้ออกมาเผยว่า จะส่งตัวแทนเพื่อเข้าพบเสก ที่บ้านย่าน ซ.วัชรพล ในวันที่ 13 ธ.ค. 54 ว่าเป็นไปอย่างที่ข่าวระบุไว้หรือไม่ ซึ่ง ''กานต์'' อดีตภรรยานักร้องหนุ่มกล่าวในเรื่องนี้ว่า เท่าที่ตนทราบจากการพูดคุยกับคนในค่ายแกรมมี่ ปรากฏว่ายังไม่มีการส่งตัวแทนไปพบแต่อย่างใด โดยทางต้นสังกัดเผยว่า จะให้ฝ่ายอดีตสามีนักร้องหนุ่ม เป็นผู้เข้าไปพบเองที่บริษัท
    

    ''ที่พี่ติดต่อล่าสุด เห็นว่าไม่ได้พบแล้วอะค่ะ ทางเค้าจะรอให้เสกติดต่อแล้วค่อยไปคุยที่บริษัทค่ะ (วันไหน) ไม่ทราบค่ะ เขาก็บอกว่าเขารอเสกอยู่เหมือนกัน ไม่รู้เขาติดต่อกันได้หรือเปล่า เขาบอกเขารอเสกเข้าไป เราก็ถามเขาว่าไหนบอกจะไปหาเสกที่บ้าน เขาบอกว่าเขาไม่ไปแล้ว เขาจะรอให้เสกเข้ามาเอง''
    

    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ไม่ได้พบกับอดีตสามีนานแค่ไหนแล้ว อดีตภรรยานักร้องดังกล่าวว่า ครั้งหลังสุดที่ตนได้พบกับอดีตสามีคือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ครั้งนั้นเข้าไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องบ้าน แต่ก็ไม่สามรถตกลงกันได้ เพราะเกิดการทะลาเะกันขึ้นก่อน
    

    ''ปลายเดือนพฤศจิกายน พี่เข้าไปคุยกับเขาทีนึง ไปเคลียร์ไปคุยกับเขาเรื่องบ้านว่าถ้าเกิดเขาจะอยู่บ้าน พี่จะได้ขนของของกานต์กับลูกออก แต่เขาก็ทะเลาะกับกานต์ กานต์ก็เลยออกมาเลยก็คือคุยกันสองคน จะทะเลาะกันตลอด เราก็เลยออกมา ก่อนหน้านี้พี่ออกมาตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม เพราะว่าน้ำมันท่วม พี่ก็พาลูกออกมาไปพักที่โรงแรมก่อน ก็อยู่โรงแรมประมาณยี่สิบกว่าวัน''
    

    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เขาได้ติดต่อเพื่อพูดคุยหรือถามสารทุกข์สุกดิบมาบ้างไหม นางกานต์ตอบว่า ฝ่ายอดีตสามีไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด จะมีติดต่อก็เพื่อพูดคุยเรื่องบ้านที่ยังตกลงกันไม่ได้
    

    ''ไม่เลย เขาไม่ได้สนใจ (กับลูก) ไม่เลย แต่เราก็ไม่ได้สนใจนะเพราะว่ามันหย่ากันไปแล้ว แต่ที่มีการติดต่อกันเป็นระยะๆ ก็เพื่อจะติดต่อว่าจะเคลียร์กันยังไงจะอยู่กันยังไง จะให้พี่ออกไปอยู่ข่างนอก พี่ก็จะได้ไปซื้อบ้านอยู่ใหม่ หรือจะให้พี่อยู่บ้านนั้นตัวเองก็ย้ายไป สรุปก็ยังเคลียร์กันไม่ได้ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เขาบอกกับเราว่าจะให้คนมาตีราคาบ้าน แล้วเขาจะซื้อไว้เอง พี่ก็บอกว่าแล้วแต่เขา ซึ่งผ่านมาก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ก่อนหน้านั้นก่อนที่จะหย่าเขาเคยพูดว่าเขาจะยกบ้านให้พี่กับลูกอยู่ เขาจะออกไปอยู่คอนโดฯ เอง อะไรอย่างเนี้ย แต่พอหย่าแล้วเขาบอกเขาไม่ไป เขาบอกว่าเขารักบ้านหลังนี้ ก็เลยเป็นเรื่องเป็นราวทะเลาะกันมาเรื่อยๆ เพราะเราก็งงว่าทำไมเขาทำอย่างนั้น''
    

    ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงเรื่องเงินสด 70 ล้าน ที่เจ้าตัวออกมาปฏิเสธก่อนหน้านี้ไม่จริงว่า ตกลงแล้วมูลค่ามันมากมายขนาดไหน ซึ่งอดีตภรรยานักร้องดังตอบว่า
    

    ''เรื่องที่บอกว่าพี่มีเงิน 70 ล้าน พี่ไม่มีเงินถึงขนาดนั้นหรอก ก็อย่างที่บอกว่า เงินก้อนได้มาแล้ว'' (หลักสิบ) เจ้าตัวทำท่าส่ายหน้า
    

    ต่อข้อถามที่ว่า มีทรัพย์สินอย่างอื่นไหมที่ต้องแบ่งกันแต่ยังไม่เคลียร์ โดย นางกานต์ แจงรายละเอียดในสัญญาหย่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตามวาจามีเรื่องบ้านกับรถ แต่ตามหนังสือสัญญาหย่าก็จะมีที่ดิน การเลี้ยงดูลูก
    

    ''ตามวาจาคือมีเรื่องบ้านกับรถ แต่ตามหนังสือสัญญาหย่าก็จะมีที่ดิน การเลี้ยงดูลูก แล้วก็ค่าอะไรที่ลูกควรจะได้ อย่างเรื่องค่าเปอร์เซ็นต์เทปที่มีข่าวออกไป จริงๆ ก็เข้าบัญชีลูกด้วย ไม่ใช่พี่คนเดียว เพราะเราจะเป็นคนเก็บเงินให้ลูกอยู่แล้ว ไม่ใช่ของพี่คนเดียว เดี๋ยวจะหาว่าพี่ได้แล้วไม่พอตามที่เขาวิจารณ์''
    

    นอกจากนี้ ในส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับเรื่องที่หาว่าตนนั้นได้ทรัพย์สินไปแล้วยังไม่พอ ตนอยากบอกว่าตนไม่สนใจ เพราะตนมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูถึง 3 คน และต้องส่งให้เรียนจนจบ
    

    แต่พี่ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะวิจารณ์ยังไง ลูกพี่อายุเท่านั้น คือ 14, 11 และก็ขวบกว่า พี่ต้องเลี้ยงจนกว่าเขาจะเรียนจบจนกว่าเขาจะมีงานทำ พี่ก็ต้องทำอย่างนั้นไม่ถูกเหรอ คนเล็กก็ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน ขวบแปดเดือนเอง
    

    ส่วนเรื่องกระแสข่าวที่ตำรวจจะตามเอาผิดคนโพสต์รูปของเสก ในฐานที่ลักษณะ
    ชักจูงให้มีการเสพยา ซึ่งอดีตภรรยาเป็นคนโพสต์ภาพดังกล่าวลงเอง ในเรื่องนี้ นางกานต์ กล่าวว่า หากตนผิดจริงก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่ที่ตนโพสต์ภาพดังกล่าวลงไปก็เพื่อต้องการบอกให้สังคมรู้ ที่สำคัญเจ้าตัวคืออดีตสามีของตนก็ออกมายอมรับแล้ว
    

    ''ผิดกฎหมายก็ให้เข้าฟ้องไปค่ะ ถ้าเป็นประเด็นที่บอกว่าชักจูงเยาวชนให้เสพยา ก็ให้เขาดูข้อความที่พาดได้ว่า ข้อความที่โพสต์ลงก็ได้ว่าพี่ต้องการให้สังคมรู้ไม่ได้ชักชวน แล้วถ้าเป็นกฎหมายด้านไอที ก็พิสูจน์ได้ว่าภาพไม่ได้ตัดต่อ ซึ่ง พี่เสก เขาก็ออกมายอมรับแล้วว่า เป็นภาพจริงๆ อยู่แล้ว''
    
     
    ทั้งนี้ มีรายงานข่าวในเดลินิวส์ว่า คุณแม่ของ ''ป่าน-ปรางค์ทิพย์'' ได้ออกมาตอบโต้ร็อกเกอร์หนุ่มที่โพสต์รูปคู่ลูกสาวตนลงในเฟซบุ๊กและใช้ถ้อยคำที่ไม่เป็นความจริง ว่าลูกสาวตนนั้นโกหก ปิดบังความสัมพันธ์ โดยตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาครอบครัวตนมีแต่ความทุกข์ใจ รูปที่ลูกสาวตนถ่ายกับนักร้องหนุ่มเป็นตอนที่ลูกสาวไปคัดเลือกเป็นนางแบบกับคนอื่นๆ อีก 5 คน พอเลิกงานตนไปรับลูกกลับบ้าน ลูกสาวเล่าให้ฟังว่าเจอกับ เสก โลโซ แล้วเสกได้เข้ามาขอถ่ายรูป ป่านก็ให้ถ่ายตามปกติ ซึ่งลูกสาวเล่าว่า เสกเหมือนจะเข้ามาจีบ ได้มีการขอเบอร์โทรศัพท์ และลูกสาวตนเกรงใจจึงได้ให้เบอร์ไป มีการโทร.คุยกันแต่ไม่นานก็เลิกคุยกัน
    

    ซึ่งตนไม่คิดว่าเขาจะเอาลูกสาวตนทำเสียหายแบบนี้ มาโพสต์ได้อย่างไรว่าลูกสาวท้อง 2 เดือนแล้วแท้ง ทำให้ครอบครัวคุณพ่อโทร.มาถามกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ตนไม่เข้าใจว่านักร้องหนุ่มต้องการอะไรทำไมต้องทำลายชื่อเสียงกันขนาดนี้ ลูกสาวตนยังเด็กอายุแค่ 22 ปี ยังต้องเรียนหนังสือ ทำงาน เราเป็นคนธรรมดา ไม่อยากยุ่งตั้งแต่แรก ไม่จำเป็นต้องโกหก หรือเกาะกระแสใคร ถ้าทำก็คงออกมาพูดนานแล้ว และตอกกลับนักร้องหนุ่มว่า อย่าเบี่ยงเบนประเด็นที่ทะเลาะกับเมีย ลูกตนมีศักดิ์ศรีพอ ขอร้องอย่าทำแบบนี้ อย่ามั่วนิ่มเลย
    

    ส่วนเรื่องฟ้องร้องที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น ตนกับครอบครัวคงไม่ทำ เพราะอีกฝ่ายเป็นคนดังมาก ตนไม่มีอะไรจะไปสู้เขา แค่ขอให้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อว่าลูกสาวตนไม่ใช่คนไม่ดี และเป็นอย่างที่ร็อกเกอร์หนุ่มกล่าวหาก็พอแล้ว
    

    ทางด้านของ เสก โลโซ ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ร็อกเกอร์หนุ่มไม่มาร่วมงานเฉลิมพระชนมพรรษาฉลองรัฐธรรมนูญ และงานกาชาดตรัง ที่สนามกีฬาทุ่งแจ้งตรัง โดยงานนี้จัดระหว่างวันที่ 5-15 ธันวาคม 2554 ซึ่งงานนี้ร็อกเกอร์ฉาวต้องขึ้นทำการแสดงพร้อม ''แสน นากา'' ในชื่อคอนเสิร์ต ''พี่น้องร้องเพลงร็อก แสน นากา ปะทะ เสก โลโซ'' โดยวันทำการแสดงจริง คือวันที่ 11 ธันวาคม 2454  แต่ทาง เสก โลโซ กลับไม่มาตามที่ตกลง มีเพียง แสน นากา เท่านั้น ที่มาทำการแสดงเพียงคนเดียว จนทำให้ทางผู้จัดได้รับความเสียหายอย่างหนัก คิดมูลค่านับล้านบาท รวมทั้งแฟนเพลงนับหมื่นที่มาจากหลายจังหวัดทางภาคใต้ ต้องรอเก้อ จนหวิดเกิดการจลาจล เพราะซื้อบัตรแล้วแต่ไม่มี เสก โลโซ มาทำการแสดง
    

    ทางทีมงานผู้จัดชื่อ ''เบนซ์-อภินันท์'' จึงแก้ลำด้วยการจัดเป็นฟรีคอนเสิร์ต  โดยผู้จัดการส่วนตัวอ้างว่า เสก โลโซ ไปขึ้นเครื่องสนามบินผิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางผู้จัดได้ติดต่อในระหว่างการเดินทาง และได้รับการยืนยันว่ากำลังเดินทางอยู่บนท้องถนน ใกล้ถึงแล้ว จึงทำให้ทางผู้จัดเสียความรู้สึกอย่างแรง โดย ''เบนซ์-อภินันท์'' กล่าวว่า
    

    ''ผมกับ เสก โลโซ สนิทรู้จักและทำธุรกิจกันมา 5-6 ปีแล้ว แต่ครั้งนี้ถือว่าผมและทีมงานได้รับความเสียหาย ทั้งชื่อเสียง ทั้งความน่าเชื่อถือ อย่างรุนแรง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้น ในวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางทีมงานโดยผมได้ติดต่อไปทาง เสก โลโซ และได้รับการยืนยันว่า เสก โลโซ จะมาทำการแสดงแน่นอน โดยกำลังจะขึ้นเครื่องบินไฟลต์บ่าย 3 โมงเย็น และจะมาถึงที่สนามบินตรัง ในเวลาประมาณ 4 โมงเย็น ผมเลยให้ทีมงานไปรอรับที่สนามบิน แต่เมื่อถึงเวลาเครื่องลงจริง ทางผู้จัดการส่วนตัวของเสก ที่ชื่ออ้วน กลับโทร.มาแจ้งว่า เสก โลโซ ตกเครื่องบิน ต้องขึ้นไฟลต์ต่อไป และให้รอรับได้ที่สนามบินหาดใหญ่ ผมก็เลยส่งทีมงานอีกทีมไปรอ แต่ก็ได้รับการแจ้งจากผู้จัดการเสกอีกว่า เสกไปไม่ทันเครื่องอีก ต้องไปไฟลต์ต่อไป ให้ทางเราไปรอรับได้ที่สนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราช ตอนเวลา 6 โมงเย็น ผมก็ต้องส่งทีมงานอีกทีมหนึ่งไปรออีก ด้วยความกังวล กลัวว่าจะตกเครื่องอีก ผมเลยส่งทีมงานอีก 2 ชุดไปรอรับที่สนามบินจังหวัดกระบี่ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี''
    

    ''ด้วยความที่กังวลใจและกลัวว่าเขาจะไม่มาแสดง ผมเลยติดต่อเพื่อขอรับการยืนยันอีกครั้งจากผู้จัดการส่วนตัวของเสก และได้รับคำตอบว่า ตอนนี้กำลังออนเดอะเวย์อยู่ ไม่ต้องกังวลใจ มาแน่นอน ตอนนั้นผมสบายใจขึ้น เพราะคิดว่ามาแน่ เลยให้ทีมงานประกาศหน้าเวที ว่า เสก โลโซ กำลังจะมาถึง และจะทำการแสดงใน 5 ทุ่มตรง จนกระทั่งเวลา 1 ทุ่มตรง ทางผู้จัดการก็โทร.มาบอกว่าเสก ไม่สามารถมาทำการแสดงได้แล้ว เพราะตกเครื่องบิน ไปขึ้นเครื่องผิดที่ ดันไปสนามบินดอนเมือง เลยไม่ทันแม้แต่ไฟลต์เดียว ผมเลยติดต่อไปทางเสก และเขาก็ปิดมือถือ ผมเลยรู้ว่าโดนเบี้ยวแน่นอน''
    

    ''เบนซ์-อภินันท์'' กล่าวต่อว่า ''ตนได้ทำสัญญากับทางบริษัท แกรมมี่ ไว้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2554 ในนามบริษัท แกรมมี่ โดยได้มีการโอนเงินเข้าบัญชี นายเสกสรร ศุขพิมาย (เสก โลโซ) จำนวน 255,000 บาท ซึ่งเป็นค่าตัว จำนวน 2 ครั้ง ยังไม่รวมค่าห้องพักอีกจำนวน 45,000 บาท ทั้งยังมีค่าโฆษณา ค่าประชาสัมพันธ์ และปลีกย่อยอีกจำนวนร่วมแสนบาท คิดว่ามูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ร่วมล้านบาท''
    

    เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนเสียความรู้สึกมาก คนกันเองไม่น่าทำกันได้ โดยเบื้องต้นก็มีการไกล่เกลี่ยเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าว่า ถ้าไม่สามารถมาทำการแสดงในวันที่ 11 ธันวาคมได้ ก็ให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 12 ธันวาคม จะได้ไหม แต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ได้ โดยโยนเรื่องนี้ไปให้ทางต้นสังกัดคือแกรมมี่ เป็นคนจัดการ ตนและทีมงานเลยต้องแก้ปัญหาด้วยการให้ แสน นากา ที่ได้จ้างมาด้วยค่าตัว 4 หมื่นบาท ขึ้นไปทำการแสดงคนเดียว และไม่มีการเก็บค่าผ่านประตู ที่ตอนแรกค่าผ่านประตูราคา 120 บาท และให้เป็นฟรีคอนเสิร์ตไป โชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายจากแฟนเพลงนับหมื่นที่มารอ อาจจะมีบ้างที่โวยวาย แต่เหตุการณ์ก็ผ่านไปได้ด้วย
    

    หนุ่ม ''เบนซ์-อภินันท์'' กล่าวอีกว่า ''พอนักร้องหนุ่มมีข่าว ทางทีมงาน ได้ติดต่อไปเมื่อวันที่ 2-3 ธันวาคม ถามว่าเสกโอเคไหมกับข่าวที่สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง เพราะกลัวว่านักร้องหนุ่มจะวิตกกังวลจนแสดงไม่ได้ แต่ก็ได้รับการตอบรับมาว่าไม่มีปัญหา เสกเขาแยกแยะถูกระหว่างงานกับปัญหาส่วนตัว ตนเลยทำการประชาสัมพันธ์อีกครั้ง เพื่อให้ชาวตรังและจังหวัดใกล้เคียงเชื่อถือ''''
                    

    ''คิดดูว่าทาง แสน นากา และทางนักดนตรี รวมทั้งแบ็กสเตจ ทุกคนงงกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทุกคนมาก่อน มารอกันตั้งแต่ 4 โมงเย็น แต่พอเวลาทำการแสดงจริง กลับหายไปแบบไม่มีสาเหตุ ส่วนที่ผมต้องออกมาพูดเพราะไม่รู้ว่าจะได้รับความยุติธรรมมากน้อยขนาดไหนกับความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ในครั้งนี้ อย่างน้อยชื่อเสียงผมก็ย่อยยับ โดนมองว่าเก๋ทำเหมือน ของปลอม ไม่สามารถเอาเสกมาทำการแสดงได้ มันเจ็บยิ่งกว่าเจ็บครับ ก็เลยอยากฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องว่า ช่วยลงมาแก้ไขปัญหาคาใจนี้ด้วย ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายครับ''
    

    อย่างไรก็ตาม ''เบนซ์-อภินันท์'' กล่าวต่อไปว่า ''งานนี้จะไม่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแต่ประการใด แต่ขอให้ทาง เสก โลโซ และผู้จัดการ รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยครับ''

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • นายกฯยินดี"เอม"ฉลองแต่งคนบันเทิงแห่ร่วมคึกคัก
    เต็มไปด้วยความชื่นมื่นคนบันเทิงร่วมงานคึกคัก นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธาน ''เอม'' พินทองทา ชินวัตร หลานสาวฉลองวิวาห์หวานกับแฟนหนุ่ม ณัฐพงศ์ คุณากรวงส์ หนุ่มคลีโอ 2007 และนักธุรกิจ เผยพ่อแม่อยากให้มีทายาทเลย ด้าน ''แป้ง-อรจิรา'', สงกรานต์ เตชะณรงค์, ''ต๊อด'' ปิติ ภิรมย์ภักดี ควง ''นุ่น-วรนุช'', ''เต้'' สันต์ ภิรมย์ภักดี พร้อมภรรยา มาร่วมแสดงความยินดี
  • "ต่าย"วอน"ไนท์"ออกมาพูดความจริง
    ''ต่าย-สายธาร'' หลั่งน้ำตาเปิดใจหมดเปลือก แฉ ''ไนท์'' วอนไนท์ออกมาพูดความจริง อย่าทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้า บิดเบือนความจริงกับสังคม
  • ต่าย โต้ เมายาทำร้ายตัวเอง รับทั้งน้ำตายังรัก ไนท
    อดีตดาราสาว ต่าย สายธาร เผย! ภาพวงจรปิดถูกแฟนเก่า ไนท์ รัฐพล ทำร้ายร่ายกายจริง! ปัดเมายาแล้วทำร้ายตัวเอง ยืดอกรับผิดแอบขโมยโน้ตบุ๊คฝ่ายชายดูความลับ อึ้งถูกบอกเลิกฟ้าผ่า ก่อนเปิดใจทั้งน้ำตายังรัก แต่ไม่คืนดี แฉหลังแถลงข่าว ไนท์ รัฐพล ส่งเมสเสจง้อและขอแต่งงาน พร้อมวอนเลิกเล่นละครลิงหลอกเจ้าได้แล้ว!!!
  • เบื้องหลังนางฟ้าชุดชั้นใน หนั่นเนื้อนวลเนียนเต็มๆ ตา
    ดูเบื้องหน้าของผลงานการถ่ายแบบชุดชั้นใน ''เบซี่'' (Baci) สุดเซ็กซี่ของ แมนดี้ กราฟฟ์ นางแบบสาวชาวลักเซมเบิร์ก วัย 22 ขวบ อวบสะเด็ด ที่ทำเอาหนุ่มๆ กระชุ่มกระชวยรู้สึก ''ลักกี้'' หรือ ''โชคดี'' ส่งท้ายปีเก่ากันอย่างถ้วนหน้าไปแล้ว

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »