หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยอมเอ่ยปากขอโทษสำหรับการใช้คำพูดเหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า ฟูลแบ็ก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ยืนยันไม่เคยมีเจตนาใช้ไปในเชิงดูถูกคู่แข่งแม้แต่น้อย

หลุยส์ ซัวเรซ ศูนย์หน้าทีมชาติอุรุกวัยของลิเวอร์พูล ออกมากล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ 4 มกราคมจากกรณีใช้คำพูดเหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จนทำให้เขาโดนสั่งแบนถึง 8 นัด พร้อมปรับเงิน 40,000 ปอนด์ (ราว 2 ล้านบาท)
 
 หัวหอกจอมเทคนิค ใช้คำว่า "นิโกร" เรียก เอวร่า 7 ครั้ง ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมเสมอกัน 1-1 ออกมาเผยเมื่อวันอังคารที่ 3 มกราคมที่ผ่านว่าเขายอมรับบทลงโทษอย่างไม่เต็มใจนัก และยืนยันว่าการพูดเป็นภาษาสเปนของเขากับเอวร่า ระหว่างการเผชิญหน้าในสนาม ถูกแปลความหมายออกมาผิดพลาด
 
 อย่างไรก็ตามล่าสุดสตาร์ดัง วัย 24 ปี ยอมออกมาขอโทษหากการกระทำของเขาสร้างความไม่พอใจ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาแน่นอน "ผมยอมรับต่อคณะกรรมการ (ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ) ว่าผมใช้คำพูดในภาษาสเปนครั้งหนึ่ง และเป็นเพียงครั้งเดียว ผมบอกกับคณะกรรมการว่าผมจะไม่ใช้คำพูดนั้นอีกในสนามฟุตบอลในอังกฤษ ผมไม่เคยใช้คำนี้ในแนวทางที่เป็นไปในเชิงดูถูกเหยียดหยามเลย และถ้ามันทำให้ใครไม่พอใจ ผมต้องขอโทษด้วย" 
 
 ขณะที่ เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือทัพ "หงส์แดง" ยังคงไม่พอใจบทลงโทษที่คณะกรรมการของเอฟเอ ตัดสินไว้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า "มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากจะพูด และมีหลายอย่างที่เราพูดได้ แต่เราจะทำให้ตัวเองเจอปัญหาได้ เราพยายามหลีกเลี่ยง เพราะเราไม่อยากให้ตัวเองเจอปัญหา"
 
ทางด้าน เฮอร์แมน เอาส์ลี่ ประธานของ "คิก อิท เอาต์" กลุ่มรณรงค์ต่อต้านการเหยียดผิวในฟุตบอลอังกฤษ หวังว่า ลิเวอร์พูล จะใช้เหตุการณ์นี้เป็นผลักดันให้ช่วยส่งสัญญาณต่อต้านการเหยียดผิว หลังจากสโมสรยังคงให้การสนับสนุน ซัวเรซ อย่างจริงจัง โดยที่ผู้เล่นคนอื่นๆ สวมเสื้อยืดที่มีรูปภาพ และหมายเลขเสื้อของเขาลงวอร์มอัพในช่วงก่อนเกม
 
"เรา ขอแนะนำให้ ลิเวอร์พูล เอฟซี ยุติการกระทำนี้เสียที เพื่อเป็นการยืนยันให้เกิดความชัดเจนว่าพวกเขายอมรับนโยบายไม่อดทนต่อการ แบ่งแยกเชื้อชาติในเกมฟุตบอล สโมสรสามารถเดินหน้าต่อไปได้จากจุดนี้ ด้วยการแสดงความเป็นผู้นำในการแสดงออกและสื่อสารเรื่องนี้กับนักเตะและแฟน บอล" เอาส์ลี่ กล่าว
 
ขณะที่กอร์ดอน เทย์เลอร์ ประธานบริหารสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ เชื่อว่าการลงโทษ ซัวเรซ เป็นการเตือนว่าไม่มีความปรานีสำหรับการเหยียดผิวในเกมลูกหนัง "นี่เป็นบทเรียนสำหรับเราทุกคน ว่านักเตะที่มาจากต่างชาติต่างภาษาต้องเข้าใจและยอมรับสิ่งที่เราเป็น ในแง่ความเสมอภาคและความหลากหลาย"
 
"เราอาจเป็นเกมฟุตบอลที่ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลกก็ได้ มันจึงสำคัญที่ต้องสร้างตัวอย่างที่ถูกต้อง เราไม่ต้องการให้เขา (เอวร่า) รู้สึกเป็นเหยื่อ เราต้องการให้นักเตะผิวดำของเรารู้สึกสบายอกสบายใจว่าการเหยียดผิวสามารถ จัดการได้ในเงื่อนไขของฟุตบอล เช่นเดียวกับกฎหมายของแผ่นดิน"