พอล สโคลส์ กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อต้นสังกัดจะรับมือได้กับความกดดันและทำคะแนนไล่แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้แน่ ชี้ผู้เล่น "ปีศาจแดง" ต้องมีสมาธิอยู่กับการทำผลงานของตัวเอง โดยไม่ต้องไปใส่ใจกับผลการแข่งขันของ "เรือใบสีฟ้า"

 พอล สโคลส์ มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก มั่นใจว่าต้นสังกัดจะสามารถรับมือกับความกดดันและทำคะแนนไล่แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับป้องกันแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ได้แน่นอน หลังจากเจ้าตัวตัดสินใจหวนกลับค้าแข้งกับ "ปีศาจแดง" อีกครั้ง แม้ว่าจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดซีซั่นที่แล้วก็ตาม

 อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ซึ่งกลับมาลงเล่นให้พลพรรค "เร้ด เดวิลส์" ไปแล้วทั้งสิ้น 3 นัด สามารถทำประตูให้กับต้นสังกัดได้ในเกมลีกที่เปิดบ้านเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. รวมทั้งได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในแมตช์ล่าสุดที่ทีมบุกเฉือนชนะ อาร์เซน่อล 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา

 ดาวเตะวัย 37 ปี เผยกับ "สกาย สปอร์ตส นิวส์" สถานีโทรทัศน์กีฬาของเมืองผู้ดี ว่า "ผมไม่คิดว่าผมเป็นผู้สร้างความแตกต่างอย่างยิ่งใหญ่อะไรเลย ชัดเจนว่าทั้งสองทีมคว้าชัยชนะได้ และเราก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งที่เราเคยอยู่แต่เดิม ผมคิดว่าเรามีโปรแกรมการแข่งขันที่หนักกว่าเพราะมันเป็นเรื่องยากเสมอเมื่อต้องเป็นฝ่ายไปเยือน และเราจะต้องเก็บ 3 คะแนนให้ได้ ฤดูกาลนี้ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 3 เดือน และหวังอย่างยิ่งว่าเราจะได้อยู่ถูกที่เมื่อเวลาหมดลง"

 ขณะเดียวกัน สโคลส์ เชื่อว่าผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องมีสมาธิอยู่กับการทำผลงานของตัวเองให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องไปสนใจผลการแข่งขันของ "เรือใบสีฟ้า" และได้ตอบผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามถึงโอกาสที่ทีมจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีเป็นสมัยที่ 20 ว่า "เราหวังว่าจะทำได้ นั่นคือแผนของเรา ชัดเจนว่า ซิตี้ ทำผลงานได้ดีในตอนนี้ แต่เราตามหลังเพียง 3 คะแนน และเรื่องสนุกๆ อาจจะเกิดขึ้นได้จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาล เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราดูแลตัวเราเองได้ดีและเก็บผลการแข่งขันที่ดีให้ได้"

  นอกจากนี้ สโคลส์ ยืนยันว่า เป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากเย็นอะไรในการกลับมาลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง และถือว่าสิ่งนี้เป็นความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตของตน โดยกล่าวว่า "ผมคิดว่าคุณต้องปรับสภาพจิตใจ มันต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย แต่ความได้เปรียบของผมคือการที่ผมได้อยู่กับสโมสรมาตลอดชื่อ 4 หรือ 5 เดือนล่าสุดโดยทำงานในฐานะโค้ช ผมได้เจอหน้ากับนักเตะทุกวัน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปในการปรับตัว"