อันเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือไฟแรงของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หวังลูกทีมจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแผนไปฝึกซ้อมถึงประเทศสเปน เนื่องจากจะเป็นการพบกับสภาพแวดล้อมใหม่เพื่อที่จะหลีกหนีจากการทำสิ่งเดิมๆซ้ำๆทุกวันในช่วงที่ผ่านมา

 อันเดร วิลลาช-โบอาช ผู้จัดการทีมเชลซี ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาเปิดเผยเหตุผลที่ตัดสินใจนำนักเตะเดินทางไปฝึกซ้อมที่เกาะมายอร์ก้า ประเทศสเปน ในช่วง 2-3 วันนี้ เพื่อหลีกหนีความจำเจ และหวังว่าจะช่วยให้ทีมกลับมาเค้นฟอร์มเก่งอีกครั้ง
 
 โบอาช พาลูกทีมบินไปประเทศสเปนทันที หลังจบเกมที่ทำได้แค่เสมอ นอริช ซิตี้ 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวหวังว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในการฝึกซ้อมจะส่งผลดีต่อทีมในเกมต่อไปกับ ควีนส์ปาร์ค เรนจเอร์ส ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ในวันเสาร์นี้
 
 กุนซือชาวโปรตุเกสวัย 34 ปี กล่าวผ่านเว็บไซต์ของสโมสรว่า "มันเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมไปยังสถานที่ที่แตกต่างออกไปเพื่อหยุดสิ่งที่เราทำเป็นประจำบ้าง มันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสโมสรในอังกฤษ เราตัดสินใจไปที่ สเปน โดยไม่เลือก ตะวันออกกลาง เพราะความแตกต่างของเขตแบ่งเวลา มันจะทำให้เราเหนื่อยกว่ามากที่นั่น (ตะวันออกกลาง) ไม่เช่นนั้น เราคงเลือกจะไปที่นั่นแต่แรกแล้ว"
 
  "มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ทีมในพรีเมียร์ลีก ต่างมีแค้มป์ฝึกซ้อมในช่วงหน้าหนาวทั้งนั้น และเราก็เลือกไปที่ สเปน เราให้พวกเขาพักผ่อนในวันอาทิตย์ในสถานที่ที่ต่างออกไป แต่เราจะยังมุ่งมั่นในการซ้อมเหมือนเดิม มันเป็นเพียงแค่การหยุดกิจวัตรประจำวันของเรา ไม่มีอะไรใหม่เลย"
 
 นอกจากนี้ โบอาช ออกมาขอร้องให้สาวก "สิงห์บลูส์" หยุดพฤติกรรมการกดดัน แอนทอน เฟอร์ดินานด์ ปราการหลัง "ทหารเสือราชินี" ในเกมวันเสาร์นี้ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ ดาวเตะวัย 26 ปี ตกเป็นเหยื่อการเหยียดผิวของ จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์แบ็ก "สิงโตน้ำเงินคราม" ที่อาจจะโดนโทษหนักถ้าศาลสรุปว่าเจ้าตัวผิดจริง
 
 "ถึงแฟนบอลทุกคน มันเป็นหน้าที่ของเราในการทำให้สถานการณ์ต่างๆสงบเรียบร้อย รวมถึงส่งข้อความไปทางสื่อต่างๆว่าคุณทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการช่วยกันรักษาความสงบ และทุกคนสามารถสร้างผลกระทบต่อเกมฟุตบอลอีกหนึ่งนัดนี้ได้" อดีตกุนซือเอฟซี ปอร์โต้ กล่าวทิ้งท้าย
 
 ทางด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส นายใหญ่ป้ายแดงของ ควีนส์ปาร์ค ออกมายอมรับว่าต้องเช็คสถานการณ์ดูอีกครั้งว่าจะส่ง เฟอร์ดินานด์ คนน้อง ลงสนามหรือไม่ในเกมเอฟเอ คัพ "มันคงจะเป็นเรื่องโง่ถ้าผมไม่เข้าไปคุยกับเขาก่อน ผมจะทำมันเพื่อทำให้ตัวเองรู้ว่าทุกคนพร้อมสำหรับเรื่องนี้หรือไม่ เขาไม่ได้มาหาผมแล้วบอกว่า "เจ้านาย, ผมอยากจะคุยกับคุณในสถานการณ์นี้" ผมจึงคิดว่ามันคงไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อเขาเท่าไรนัก"