มิลานแกร่ง!เปิดรังสอนบอลปืน4-0โอกาสเข้าสูง
Posted 16/02/2012 by siamsport
โรบินโญ่ โชว์ฟอร์มเทพหลังยิงคนเดียวสองประตู เควิน-ปริ๊นซ์ บัวเต็งกับซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซัดอีกคนละลูก ช่วยให้ "ปีศาจแดงดำ" เปิดรังยำใหญ่ อาร์เซน่อล 4-0 โอกาสผ่านเข้ารอบมีสูง ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ฤดูกาล 2011-12
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555
เอซี มิลาน (อิตาลี) 4 - 0 อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
สนาม : ซาน ซีโร่
เอซี มิลานใช้งานเควิน พรินซ์ บัวเต็งที่หายเดี้ยงในเกมนี้ได้ และอาศัยซลาตัน อิบราฮิโมวิชกับโรบินโญ่จับคู่กันล่าประตูในแดนหน้า
ด้านอาร์เซน่อลขาดแพร์ แมร์เตซัคเกอร์ปราการหลังซึ่งบาดเจ็บข้อเท้า แต่ได้คีแรน กิ๊บบ์สฟิตสมบูรณ์กลับมา ขณะที่เธียร์รี่ อองรีนั่งเป็นตัวสำรองนัดสุดท้ายก่อนกลับสู่ต้นสังกัดนิวยอร์ค เร้ด บูลล์สในอเมริกา
ออกสตาร์ตมาสี่นาที คลาเรนซ์ เซดอร์ฟกัปตันเจ้าบ้านก็หาโอกาสทำเสียวก่อนเมื่อสบช่องกระทุ้งจากหน้าเขตโทษด้านซ้ายส่งบอลหลุดเสาแรกออกไป
ถัดมาในนาทีที่ 9 ปีศาจแดงดำบุกขึ้นทางกราบขวาแล้วอิ๊กนาซิโอ อบาเต้ได้ซัลโวจากริมเขตโทษแฉลบไปตุงตาข่ายด้านข้าง
กระนั้นก็ดี อีกสามนาทีต่อมา มิลานก็ต้องเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเซดอร์ฟเกิดเจ็บขึ้นมา แล้วกัดฟันเล่นต่อไม่ไหว ต้องเดินออกไปให้อูร์บี้ เอมานูเอลสันลงไปแทน
กระทั่งนาทีที่ 13 ยักษ์อิตาลีก็สร้างความแฮปปี้ให้กับสาวกได้เมื่ออันโตนิโอ โรเชริโน่ชิพบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษด้านขวาให้พรินซ์ บัวเต็งสอดเข้าไปพักอกก่อนตะบันเต็มเกือกจาก 12 หลาส่งบอลพุ่งชนใต้คานกระดอนเข้าประตูอย่างเด็ดขาดพาผีแดงดำนำ 1-0
เกมของมิลานยังเหนือกว่าเยอะ และเกือบได้ประตูเพิ่มในนาทีที่ 21 เมื่อโรบินโญ่สาดบอลขวางสนามจากด้านซ้ายให้โนเชริโน่สับไกจากหน้าเขตโทษด้านขวาโดยไม่มีใครคุมส่งบอลโด่งข้ามคานไปนิดเดียว
กระทั่งนาทีที่ 25 อาร์เซน่อลก็มาได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่จึงโยนเข้าไปให้โลร็องต์ กอสซิแอลนีย์โหนโขก บอลจึงไม่มีน้ำหนักถูกมัสซิโม่ อับเบียติกระโดดคว้าได้
และแล้วนาทีที่ 38 ปีศาจแดงดำก็คลำเป้าได้อีกจากการขึ้นเกมทางซ้ายที่อิบราฮิโมวิชได้ลูกผ่านโดยไม่ล้ำหน้า จึงกระชากหนีบาการี่ ซาญ่าไปจนสุดเส้นหลังแล้วตักไปหน้าประตูให้โรบินโญ่โถมโขกแปดหลาไม่เหลือพามิลานนำห่าง 2-0
ผ่านมาถึงนาทีที่ 44 ทีมเยือนเปลี่ยนโยฮัน ฌูรูลงไปแทนกอสซิแอลนีย์ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอิบราฮิโมวิชก็พลิกบอลหนีฌูรูแล้วดีดออกกราบขวาให้พรินซ์ บัวเต็วลากไปเข่นแถวริมเขตโทษเข้าหน้าต่างอย่างน่าเสียดาย
อึดใจต่อมา อิบราฮิโมวิชไหลบอลเข้าเขตโทษสวยอีกหนให้ลูก้า อันโตนินี่ปรี่เข้าสไลด์ประสานงากับวอยเซียก เซสนีย์ และได้ใบเหลืองข้อหาปะทะผู้รักษาประตู จบครึ่งแรกเจ้าบ้านจึงนำหน้า 2-0
ครึ่งหลังปืนโตปล่อยอองรีลงไปกู้สถานการณ์แทนธีโอ วัลค็อตต์ แต่แค่สี่นาทีก็โดนเช็คบิลเพิ่มอีกเมื่ออิบราฮิโมวิชเจ้าเก่าจ่ายบอลมาจากกราบซ้ายแล้วโธมัส แฟร์มาเล่นลื่นล้มจึงเปิดทางสะดวกให้โรบินโญ่กระทุ้งลูกเรียดจาก 20 หลาเสียบเสาแรกเป็นสกอร์ 3-0 ของมิลาน
เข้าสู่นาทีที่ 63 ฟิลิป เม็กแซสกองหลังเจ้าถิ่นได้ใบเหลืองโทษฐานดึงเสื้อโทมัส โรซิชกี้ไม่ให้ลากบอลหนี และอีกสามนาทีต่อมาอาร์เซน่อลก็น่าจะตีไข่แตกได้เมื่ออองรีรับบอลจากอเล็กซ์ ซงแล้วดีดเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ฟาน เพอร์ซี่ซัลโวจาก 16 หลาถูกอับเบียติปัดได้เหลือเชื่อ
นาทีต่อมาทีมปืนใหญ่ใช้บริการอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลนแทนกิ๊บบ์สพร้อมทั้งย้ายซงลงไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่มิลานส่งมัสซิโม่ อัมโบรซินี่ลงไปแทนพรินซ์ บัวเต็งในนาทีที่ 70
นาทีที่ 78 โยฮัน ฌูรู กองหลังตัวสำรองทำฟาล์ว อิบราฮิโมวิช ล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าให้จุดโทษทันที และเป็น อิบราฮิโมวิช ที่ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด นำห่างเป็น 4-0
ล่วงมาอีกสองนาที ซงก็มีใบเหลืองติดตัวในจังหวะดักอิบราฮิโมวิชล้ม แต่จากนั้นก็ไม่มีการยิงประตูเพิ่มอีก หมดเวลาปีศาจแดงดำจึงต้อนเดอะ กันเนอร์สไปแบบหายห่วง 4-0 ก่อนบุกไปเยือนเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมในนัดหน้า
รายชิ่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ - อิ๊กนาซิโอ อบาเต้, ฟิลิปป์ เม็กแซส , ติอาโก้ ซิลวา, ลูก้า อันโตนินี่ - คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ (กัปตันทีม) (อูร์บี้ เอมานูเอลสัน น.12), มาร์ค ฟาน บอมเมล, อันโตนิโอ โนเชริโน่ - เควิน-ปริ๊นซ์ บัวเต็ง (มัสซิโม อัมโบรซินี่ น.70) - ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โรบินโญ่ (อเล็กซานเดร ปาโต้ น.84)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : มาร์โก อเมเลีย (ผู้รักษาประตู), อเลสซานโดร เนสต้า, ดานิเอเล่ โบเนร่า, สเตฟาน เอล ชาราวี
ใบเหลือง : ลูก้า อันโตนินี่ น.45, ฟิลิปป์ เม็กแซส น.62, มัสซิโม อัมโบรซินี่ น.81
อาร์เซน่อล : วอยเชียค เชสนี่ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (โยฮัน ฌูรู น.44), โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.66) - อเล็กซ์ ซง, โทมัส โรซิคกี้ - ธีโอ วัลค็อตต์ (เธียร์รี่ อองรี น.46), อารอน แรมซี่ย์, มิเกล อาร์เตต้า - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (กัปตันทีม)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู), ฟร็องซิส โกเกแล็ง, ยอสซี่ เบนายูน, อังเดร อาร์ชาวิน
ใบเหลือง : -
ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คัสไซ (ฮังการี)
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์