นักร้องหนุ่มชื่อดัง ''เสก โลโซ'' ออกตีสิบเปิดใจเรื่องราวจากปากออกสื่อครั้งแรกหลังรับการบำบัดจนร่างกายดีขึ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ลั่นขอโทษแกรมมี่กลางรายการ ขอโอกาสหวนคืนวงการเพลง พร้อมทั้งลุ้นสร้างความสัมพันธ์ฉันครอบครัวกับ ''กานต์'' อดีตภรรยาสาว

    เป็นกระแสดังขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์หลายฉบับเป็นเวลาต่อเนื่องนับเดือนสำหรับเรื่องราวของนักร้องขวัญใจวัยโจ๋ เสกสรร ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ หลังจากออกจากสถาบันธัญญารักษ์ ที่เข้ารับการบำบัดตั้งแต่ตกเป็นวันที่ 28 ธ.ค. 2554 จนถึงเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2555 เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนกว่า 
    

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 55 นักร้องชื่อดังได้ควงแขนอดีตภรรยาอย่าง ''กานต์'' วิภากร ศุขพิมาย มาเปิดใจเรื่องราวทั้งหมดกับรายการ ''ตีสิบ'' ทางช่อง 3 ซึ่งร็อกเกอร์หนุ่มคนดังออกมาเปิดใจกลางรายการถึงวิกฤติชีวิตที่ผ่านมา หลังต้องตกเป็นเหยื่อจากพิษของยาเสพติดมานาน จนทำให้ชีวิตความรุ่งเรื่องทั้งทางการงาน และครอบครัวต้องจบลง พร้อมกับเปิดใจเรื่องของสภาพร่างกายในปัจจุบันว่าตอนนี้ดีขึ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งในรายการที่ร็อกเกอร์หนุ่มเปิดใจถึงสาเหตุและความเป็นมาในการเริ่มใช้ยาเสพติดจนออกมาแถลงข่าวในสภาพที่เหมือนคนไม่ได้สติเมื่อช่วงเดือนก่อน และกล่าวขอโทษต้นสังกัดอย่างแกรมมี่กลางรายการว่า
            

    ''ผมเริ่มใช้ยามาจากเพื่อน จากการฟังเพลง ซึ่งนักร้องแต่ละคนก็เสียชีวิตเพราะติดยา ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ ผมคิดไปเอง ไม่มีคนตาม แค่ยิงปืนขึ้นฟ้า ผมคิดไปเองทั้งหมด (หัวเราะ) ผมคิดว่ามีคนตาม ตอนนั้นโดนสองเด้ง น้ำท่วมด้วย และคิดว่าแกรมมี่ส่งคนตาม ผมต้องกราบขอโทษด้วย ช่วงนั้นผมโกรธทุกอย่างทุกเรื่องไปหมด ผมรู้สึกโกรธคนทั้งโลก ผมโกรธไปหมด แต่ผมยังมีความรัก (ยิ้ม) รักในเสียงเพลง ส่วนเรื่องผู้หญิงที่ตกเป็นข่าวกับผมในช่วงที่เป็นข่าว ตอนนี้บอกได้เลยว่าทุกคนทิ้งผมไปหมดแล้ว ผมกลับมาอยู่บ้านของผมเอง''
    

    จากนั้นร็อกเกอร์ชื่อดังจึงได้กล่าวถึงเหตุการณ์การบำบัดที่ผ่านมาว่า ''ผมยืนยันว่าผมเข้ารับการรักษา และบำบัดอย่างเต็มใจ เพราะรู้ว่าเอาไม่อยู่แล้ว เลยขอเข้าบำบัด ที่ศูนย์ธัญญารักษ์ และยังมีข่าวว่าผมหนีออกจากโรงพยาบาล จริงๆ แล้วผมไม่ได้หนี ผมเขียนใบลากับทางโรงพยาบาล เพื่อออกไปเยี่ยมน้องที่เข้าโรงพยาบาล ผมห่วงน้อง ขอยืนยันว่าผมไม่ได้หนี ในระหว่างบำบัดทางโรงพยาบาลเขาปิดข่าวสารผมทุกอย่าง เขาไม่ให้ดูข่าวอะไรเลย อย่างขนาดข่าว วิตนี่ย์ ฮุสตัน ศิลปินชื่อดังของฮอลลีวู้ดเสียชีวิต ผมพึ่งทราบจากทีมงานของตีสิบ เมื่อสองสามวันนี้เอง เพราะวันๆ หนึ่งผมกินยาประมาณ 15 เม็ด พักผ่อนเต็มที่ ออกกำลังกาย และคุยกับนักจิตวิทยา เข้ากลุ่มบำบัด''
    

    นักร้องชื่อดังยังเล่าให้ฟังถึงต้นตอของเรื่องถึงการเผยแพร่ภาพกับยาเสพติดจนเป็นเรื่องราวครึกโครมที่สุดในช่วงนั้นว่า ''ส่วนเรื่องภาพนั้นที่ทำให้เกิดเป็นประเด็นนั้น ผมยอมรับว่าผมเป็นคนผิดเอง ผมขอพูดนะ (หันไปมองหน้า ''กานต์'' วิภากร ศุขพิมาย อดีตภรรยาที่นั่งฟังการสัมภาษณ์ในครั้งนี้อยู่ข้างเวที) ตอนนี้ผมกับกานต์หย่ากัน แยกกันอยู่ เมื่อประมาณวันที่ 31 ส.ค. 2554 ส่วนภาพที่ออกมาคือวันที่ 2 ธ.ค. 2554 แล้วผมดันมีเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา อย่างที่เป็นข่าว ผมก็โพสต์ถึงผู้หญิงคนนั้นในเฟซบุ๊ก กานต์มาเห็นเข้าเลยปรี๊ด แล้วเอาภาพที่ผมเสพยาขึ้นเฟซบุ๊ก ตอนนี้ผมเองเลิกเล่นเฟซบุ๊กแล้ว''
            

    โดยเสกยังได้พูดถึงเรื่องของความสัมพันธ์ในครอบครัวและพูดถึงลูกทั้ง 3 คน อย่าง น้องไทเกอร์, น้องเดียร์ และ น้องลอนดอน ในรายการอีกด้วยว่า
    

    ''น้องไทเกอร์เงียบๆ ไม่ค่อยคุยกัน ส่วนใหญ่ผมจะเล่นกับเพื่อนๆ ของเขา ผมเจอเขาก็ทักทาย ซื้อขนมไปให้ ส่วนเดียร์คุยกันบ้างเล็กน้อย ลอนดอนก็ชอบดูวิดีโอ คุยกับผมผ่านข้อความทางโทรศัพท์ ผมว่าลูกผมเป็นคนสมัยใหม่ ผมยอมรับว่าเรื่องครอบครัวใช้เวลาเยียวยา มันบอบช้ำมามาก ยอมรับทุกอย่างผมเป็นต้นเหตุ ก่อนหน้านี้ผมพาพวกเขาไปต่างประเทศอย่างน้อย 20 ประเทศ เรายังมีความทรงจำที่ดีต่อกัน คือเราเป็นครอบครัวที่ไปด้วยกันตลอด ไปทัวร์คอนเสิร์ตก็ไปด้วยกันตลอด เพราะฉะนั้นเขาจะเข้าใจและให้อภัย และเป็นเด็กที่ฉลาด ผมเชื่อว่าเราจะปรับตัวเข้าหากันได้ มีอยู่วันหนึ่งผมจะเล่าให้ฟัง ไทเกอร์กับผมขี่จักรยานรอบบ้าน พูดเรื่องนี้แล้วจะร้องไห้ทุกที เข้าสงสัยว่า ผมรักเขารึเปล่า ผมบอกว่าไม่มีสักวินาทีเดียวที่พ่อไม่รักเสือ พูดทั้งน้ำตาซึม เหมือนกับเป็นเชือกเส้นบางๆ ระหว่างผมกับเขาที่กั้นอยู่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมก็พลาดไป'' เสก กล่าว
            

    สุดท้าย เสกยังเปิดเผยถึงความในใจที่ซาบซึ้งในความรักของแฟนเพลงที่ยังคอยติดตาม และให้กำลังใจกับตนมาตลอด และขอขอบคุณที่ยังรักกันอยู่และให้โอกาส